iamwatch

เตรียมตัวให้พร้อมกับความเจิดจรัสในสีสัน! เมื่อ MAURICE LACROIX เผยโฉมคอลเลคชั่นนาฬิกาอันมีสีสันสดใสและฟังกี้ที่สุด โดยนำเสนอผ่านหลากหลายเฉดสีที่ล้วนสะกดทุกสายตากับ Aikon #Tide และเหนือสิ่งอื่นใดนั่นคือนาฬิการุ่นนี้ ยังมีส่วนร่วมในการปกป้องและรักษามหาสมุทรให้สะอาดยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากการปฏิวัติด้านเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อเปลี่ยนขยะพลาสติกมาสู่นาฬิกาสวิสคุณภาพโดยมาพร้อม ทั้งสไตล์สุดคูล และความรับผิดชอบที่ตระหนักต่อสิ่งแวดล้อมของโลกเราเป็นสำคัญ โดย MAURICE LACROIX เปิดตัวนาฬิการุ่น Aikon ครั้งแรกในปี 2016 และนับจากนั้นเป็นต้นมานาฬิการุ่นนี้ก็สร้างความสำเร็จอันน่าทึ่ง ด้วยคุณสมบัติในด้านการสร้างความประทับใจ และความภาคภูมิใจให้กับผู้เป็นเจ้าของที่ได้ครอบครอง รวมไปถึงความสามารถในการอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนและน่าประทับใจ พร้อมยกระดับของความสะดวกสบายในการสวมใส่ ในลักษณะเดียวกันได้ทั้งหมดในคอลเลคชั่นภายใต้ชื่อ MAURICE LACROIX ที่ยังคงส่งมอบความมีคุณค่าในระดับสูงเช่นเดิมอยู่เสมอ

โดยนาฬิกา Aikon #Tide ก็เช่นกัน ที่ยังคงคุณสมบัติและคุณลักษณะอันโดดเด่นเหมือนเช่นนาฬิกาในคอลเลคชั่น  Aikon ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการขึ้นรูปมาจากวัสดุ #Tide ขยะพลาสติกอัพไซเคิลจากมหาสมุทรที่ผสมผสานด้วยเส้นใยแก้ว และให้ผลลัพธ์เป็นวัสดุคอมโพสิทที่มีความแข็งแกร่งกว่าพลาสติกมาตรฐานทั่วไปถึงสองเท่า รวมถึงมีความทนทานมากขึ้นถึงกว่าถึงห้าเท่า พร้อมลดจำนวนการใช้คาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้มากกว่ากระบวนการผลิตจากพลาสติกแบบเพ็ท (PET) ดังนั้น MAURICE LACROIX จึงนำเอาวัสดุ #Tide มาสร้างสรรค์เป็นขอบตัวเรือน ตัวเรือน ฝาหลัง เม็ดมะยม ส่วนฝา และหัวเข็มขัดรัดสายของนาฬิการุ่น Aikon #Tide ใหม่นี้ ซึ่งทั้งหมดล้วนผลิตจากวัสดุคอมโพสิทจากการใช้ขวดพลาสติกถึง 17 ขวดในการนำมาสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีความสวยโดดเด่นได้ 1 เรือน รวมไปถึงกล่องบรรจุภัณฑ์ซึ่งรังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษหรือเทเลอร์เมดขึ้นอีกด้วย จึงนับเป็นการใช้วัสดุ #Tide Ocean Material® 100% ที่มอบประโยชน์และผลลัพธ์ที่คุ้มค่าให้กับโลกของเรา

นอกเหนือจากสีสันและตัวเรือนอันสดใสมีชีวิตชีวาแล้ว หน้าปัดของนาฬิกายังผ่านการตกแต่งด้วยลวดลายว๊ากดูฌูรา (Vague du Jura) ซึ่งเป็นสไตล์ที่มีจินตนาการถึงท้องทะเล ขณะที่ตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร และหน้าปัดกระจกแซฟไฟร์แบนเรียบนั้น จะช่วยให้การอ่านค่าเวลามีความชัดเจนสูงสุด และในคอลเลกชั่นนี้ยังได้มอบสัมผัสอันสง่างามยิ่งขึ้น โดยการประดับเครื่องหมายแสดงเวลาด้วยเพชรแท้น้ำงาม นอกจากนี่ยังมีเม็ดมะยมแบบหมุนเกลียวแน่น ร่วมกับฝาหลังแบบหมุนเกลียวเช่นกัน ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ล้วนเพื่อประสิทธิภาพด้านการกันน้ำลึกได้ถึงระดับ 100 เมตร พร้อมกับสายระบบอีซี สแตรปเอ็กซ์เชนจ์ (Easy Strap Exchange) ตามสไตล์ของนาฬิกาในคอลเลคชั่น Aikon ซึ่งจะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถถอดเปลี่ยนสลับกับสายนาฬิการุ่นเลือกอื่นๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์เสริมใดๆ ซึ่งภายในปี 2022 นี้ MAURICE LACROIX จะมีการเผยโฉมเวอร์ชันที่สองของ Aikon #Tide ที่จะมาพร้อมกับสายข้อมือที่ผลิตจากวัสดุคอมโพสิททั้งหมดอีกด้วย

ทำงานด้วยกลไกควอท์ซซึ่งมอบความสะดวกสบายในการใช้งาน รวมถึงความเที่ยงตรงแม่นยำตามมาตรฐานนาฬิกาสวิสชั้นเยี่ยม โดย Aikon #Tide ยังรักษาคุณภาพสูงสุดด้วยการรับประกันถึง 5 ปีเต็ม โดยนาฬิการุ่นนี้ เกิดจากความร่วมมือของ #Tide ผู้เชี่ยวชาญในการ‘นำขยะพลาสติกจากมหาสมุทรกลับมาใช้หรืออัพไซคลิง’ โดย MAURICE LACROIX มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและลงมือทำ เพื่อพิทักษ์รักษาท้องทะเลให้สะอาดยิ่งขึ้น พร้อมความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรระยะยาวกับ #Tide เพื่อรวบรวมขวดพลาสติกจากท้องทะเลที่อยู่รายล้อมรอบเกาะต่างๆ ในประเทศไทย เช่นเดียวกันกับในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ให้ลดน้อยลงให้จงได้ และเป็นความตั้งใจของ MAURICE LACROIX ในการอุทิศตนอย่างมุ่งมั่นเพื่อลดปริมาณขยะขวดพลาสติก 10 ล้านขวดซึ่งสร้างมลพิษให้กับมหาสมุทรลง รวมไปถึงยังเป็นผู้สนับสนุนในกิจกรรมด้านการเก็บขยะพลาสติก พร้อมมอบทุนสนับสนุนโปรแกรมส่งเสริมด้านความรู้ และการช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับการจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นหลากหลายประเภท โดยขวดเหล่านี้จะถูกคัดแยกและตัดฝอยเป็นเศษเล็กๆ จากนั้นจึงล้างและอัด ในบริเวณพื้นที่ใกล้กับจุดที่เก็บรวบรวมได้ ก่อนจะขนส่งไปยังโรงงานอัพไซเคิลของ #Tide ซึ่งพลาสติกชิ้นเล็กๆ เหล่านี้จะถูกผสมและผลิตไปเป็นเม็ดพลาสติกที่เล็กลง

จากนั้นจึงผสานให้เข้ากันด้วยเทคนิคพิเศษจนได้เป็นพลาสติกอัพไซเคิล ซึ่งสุดท้ายแล้วจะถูกนำไปใช้สำหรับผลิต และสร้างสรรค์เป็นชิ้นส่วนสำหรับนาฬิกา Aikon #Tide ที่มีสีสันสดใสและสวยงาม ดังนั้นจึงสามารถเรียกได้ว่า MAURICE LACROIX Aikon #Tide เป็นนาฬิกาเพื่อคนเจเนอเรชันใหม่ ที่ให้คุณค่ากับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ด้วยสไตล์สีสันสดใสและโดดเด่น เพราะในทุกความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่มักถูกขับเคลื่อนด้วยสิ่งเล็กๆ ที่มีค่าเสมอ แม้ในบางครั้งที่บุคคลหรือบริษัทใดพยายามสร้างการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เสียงวิพากษ์วิจารณ์มักเกิดขึ้นและมักกล่าวกันเสมอว่า ‘นั่นเป็นแค่น้ำเพียงหยดเดียวในมหาสมุทรเท่านั้น’ แต่ทว่า ความเมินเฉยกลับไม่อาจช่วยแก้ปัญหาใดๆ ที่โลกนี้กำลังเผชิญได้เลย และ MAURICE LACROIX เชื่อในแนวทางนี้มาตลอด จึงได้คิดริเริ่มโดยร่วมกับ #Tide ที่จะมอบคืนความสะอาดแก่ท้องทะเล และมีส่วนร่วมเล็กๆ ในการสร้างให้โลกใบนี้ให้ดียิ่งกว่าเหมือนกับคำกล่าวกันในแถบสวิสจูร่าว่า ‘แม้น้ำเพียงหยดเดียวก็สร้างการเปลี่ยนแปลงได้’ (That’s what a drop makes’)