The Review of MAURICE LACROIX Aikon Venturer Bronze
บรองซ์ถือเป็นอีกหนึ่งวัสดุยอดนิยม ที่นิยมนำกลับมาผลิตในสำหรับวงการนาฬิกา เพราะบรองซ์นอกจากมีลุคของโทนสีทองหม่นแล้ว ยังมีพาติน่าอันเป็นปฏิกิริยาจากวัสดุ ที่มีต่ออากาศและสภาพความชื้นรอบข้าง ซึ่งทำให้นาฬิกามีลุคแบบวินเทจได้อย่างน่าสนใจ อันเป็นอีกหนึ่งในสเน่ห์ของผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาในสไตล์วินเทจ ที่ในปัจจุบันถือเป็นความชื่นชอบอีกอย่างหนึ่งของผู้ที่รักในเรือนเวลารูปแบบพิเศษ
ซึ่งปี 2017 ถือเป็นปีแรกของนาฬิกา MAURICE LACROIX ในรุ่น Aikon ที่เลือกใช้วัสดุบรองซ์ในการผลิตตัวเรือนพร้อมกลไกควอท์ซ และพัฒนาต่อมาในปี 2018 ในรุ่นแบบกลไกอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่ผลิตในแบบจำนวนจำกัด จนกระทั่งมาในปีนี้ที่ MAURICE LACROIX นำวัสดุดังกล่าวนี้มาใช้ในนาฬิการุ่น Aikon Venturer เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความสมบุกสมบันในการใช้งาน
นาฬิกา MAURICE LACROIX Aikon Venturer Bronze เป็นนาฬิกาอีกรุ่นจากทางแบรนด์ ที่เลือกใช้วัสดุพิเศษนี้กับนาฬิการุ่น Aikon ในซีรี่ส์ของ Venturer ที่ทำให้ Aikon เป็นมากยิ่งขึ้นกว่านาฬิกาแบบสปอร์ตทั่วไป จากความโดดเด่นของอาร์มคู่ทั้ง 6 รอบขอบเบเซิล ที่บรรจุตัวเลขแสดงเวลาเอาไว้ตั้งแต่ 10, 20, 30, 40 และ 50 รวมไปถึงเครื่องหมายทรงกลม อันหมายถึงตำแหน่งที่มาร์กเมื่อใช้งานขอบเบเซิลในการอ่านค่า
โดยยังคงความพิเศษของมาร์กเกอร์แสดงเวลา ที่มีเบ้าทรงกลมและปลายของเข็มวินาที ที่บรรจุเครื่องหมายทรงรีพร้อมการเคลือบสารเรืองแสง ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อคุณประโยชน์ในการอ่านค่าเวลาในที่มืดโดยเฉพาะ เมื่อใช้งานคู่กับเข็มแสดงเวลาที่มีการเคลือบสารเรืองแสงไว้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีพื้นตัวเลขแสดงวันที่ในช่องหน้าต่าง ณ 3 นาฬิกาเป็นสีขาว เพื่อความโดดเด่นและง่ายดายในการมองเห็นตัวเลข
พร้อมหน้าปัดสีเทาใหม่ที่เป็นสีเหลือบ จากการขัดแต่งพื้นหน้าปัดเพื่อให้เกิดแสงสะท้อนในมุมต่างๆ เมื่อแสงตกกระทบ เข้าคู่กันได้ดีกับตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ ชื่อแบรนด์ เบ้ามาร์กเกอร์ กรอบช่องหน้าต่างแสดงวันที่ คำว่า AUTOMATIC 30 ATM รวมทั้ง SWISS MADE ด้านล่าง ที่ล้วนแล้วแต่เลือกใช้โทนสีทองประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อให้เข้ากันกับโทนสีของตัวเรือนที่ผลิตจากบรองซ์
กับสายที่มีมาให้ทั้งสองแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบสายยางที่มีดีไซน์เฉพาะตัวของแบรนด์ พร้อมการกำกับตราสัญลักษณ์ ML ไว้ด้านบนของสายฝั่ง 6 นาฬิกา เช่นเดียวกันกับสายหนังพร้อมการเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีขาว ผนึกตราสัญลักษณ์ ML ไว้ด้านบนของสายในลักษณะเดียวกัน โดยมีระบบการใช้งานเพื่อการเปลี่ยนสายแบบอีซี่เช้นจ์ ที่ช่วยทำให้การปรับเปลี่ยนสายเป็นไปได้ตามความต้องการอย่างง่ายดาย
ตัวเรือนบรองซ์ขนาด 43 มิลลิเมตรที่อาจมีความรู้สึกว่าใหญ่ แต่เมื่อวางอยู่ข้อมือจะให้ความรู้สึกที่สบาย จากสายยางและสายหนังที่มีความนุ่มนวล และโอบรับกับข้อมือได้เป็นอย่างดี ในขณะที่โทนสีของวัสดุบรองซ์ช่วยทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูโดดเด่นแต่ไม่เตะตา ซึ่งจะเน้นเป็นโทนและอารมณ์ของความเป็นวินเทจมากกว่า ในขณะที่รายละเอียดทั้งหน้าปัด และขอบเบเซิลช่วยทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูร่วมสมัยไปพร้อมกันด้วย
ฝาด้านหลังพร้อมสกรูว์ 7 ชุดผลิตจากสตีลเพื่อป้องกันการแพ้ โดยมีการแกะสลักลายคลื่นและตราสัญลักษณ์ ML อยู่กึ่งกลาง พร้อมการระบุรายละเอียดต่างๆ รอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำว่า LIMITED EDITION of 500 และสลักด้านหลังของระบบอีซี่เช้นจ์ ในขณะที่ด้านข้างบริเวณเม็ดมะยม ยังคงรายละเอียดของชุดสกรูว์แบบพิเศษสองชุด เพื่อประโยชน์ในการผนึกและป้องกันชุดเม็ดมะยมอย่างแน่นหนา
รวมกันทำให้นาฬิกา MAURICE LACROIX รุ่น Aikon Venturer Bronze เรือนนี้เป็นนาฬิกาอีกหนึ่งเรือนที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายในทุกวัน รวมไปถึงวันที่ต้องการการผจญภัยมากกว่าปกติ จากพื้นฐานของความเป็นนาฬิกาสปอร์ตไลน์อย่างเต็มตัวสำหรับผู้คนในยุคปัจจุบัน โดยนาฬิกาเรือนนี้จะมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 92,000 บาท