www.iamwatch.net at GENEVA WATCH DAYS 2021, Part II
การเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงานนาฬิกา รวมทั้ง GENEVA WATCH DAYS ในปีนี้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงมีอยู่ทั่วโลก รวมทั้งในสวิตเซอร์แลนด์ด้วยเช่นกัน ซึ่งส่งให้ต่างๆ มากมายให้กับวงการนาฬิกาโลก ทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับโลก ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตไปจนถึงเรือนสำเร็จสู่มือลูกค้า
ULYSSE NARDIN เดินหน้าการฉลองครบรอบ 175 ปีของแบรนด์ด้วยการนำเสนอคอลเลคชั่นสำคัญตลอดกาลนั่นก็คือ Chronometry ในเรือนนาฬิกากลุ่ม Torpilleur ซึ่งในครั้งนี้เปิดตัวเพื่อร่วมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ใน 7 รุ่นใหม่ล่าสุด ตั้งแต่ในรุ่น Marine Chronometer Torpilleur ในแบบหน้าปัดสองสี หรือจะเป็น Marine Chronometer Torpilleur ในแบบตูร์บิยอง ที่สะท้อนให้เห็นประวัติศาสตร์แห่งวงการนาฬิกาที่น่าสนใจ
CZAPEK & CIE. เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการนำเสนอคอลเลคชั่นต่างๆ สู่ตลาด และในปีนี้กับ Antarctique Rattrapante ที่งดงามด้วยการโชว์กลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ SHX6 อันสลับซับซ้อนบนหน้าปัด กับตัวเรือนสตีลในขนาด 42.5 มิลลิเมตร ในราคาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 46,000 สวิสฟรังก์ หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสวยงามมาแล้วจากนาฬิการุ่น Antarctique ในปีที่ผ่านมา
FERDINAND BERTHOUD ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เช่นกันกับความสำเร็จในตลาด โดยปีนี้นำเสนอ Chronomètre FB 1.6-3 สำหรับ Art in Time เพื่อสมทบทุนสู่มูลนิธิของเจ้าชายอัลเบริ์ตที่ 2 แห่งโมนาโค โดยมีตัวเรือนอันโดดเด่นของแบรนด์ในวัสดุสตีลดีแอลซีสีดำ พร้อมองค์ประกอบสีแดงที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีลุคสปอร์ตมากขึ้นจากเดิม ในขณะที่ยังคงรูปแบบตามวัฒนธรรมการผลิตนาฬิกาชั้นเลิศไว้อย่างครบถ้วน
GIRARD-PEREGAUX กับการฉลองครบรอบ 230 ปีในปีนี้ พร้อมนาฬิการุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดรุ่นหนึ่งของแบรนด์นั่นก็คือ Tourbillion with Three Flying Bridges ที่ปรับปรุงให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ด้วยกระจกแซฟไฟร์ทรงบ๊อกที่โอบล้อมตัวเรือนถึงด้านข้าง และทำให้นาฬิกาตัวเรือนพิ๊งค์โกลด์ขนาด 44 มิลลิเมตร ที่ทำงานด้วยกลไกไขลานตูร์บิยองคาลิเบอร์ GP09400-1273 ดูสวยงามบนข้อมือได้อย่างน่าทึ่ง
CHARLES GIRARDIER ช่างนาฬิกาเก่าแก่ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ Patrick A. Ulm นำแบรนด์มาสร้างใหม่อีกครั้ง กับนาฬิกากลไกตูร์บิยองที่มีความงดงามของหน้าปัดจากเทคนิคอีนาเมล และการแกะสลักอย่างงดงาม พร้อมความพิเศษของตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ ที่จะหมุนไขว้กันไปมา ณ วงหน้าปัดเล็กบริเวณ 12 นาฬิกาเพื่อแสดงอักษร CG อันเป็นชื่อย่อของแบรนด์เมื่อนาฬิกาหยุดนิ่ง
GERALD GENTA และการกลับมาอีกครั้งของตัวการ์ตูนมิกกี้เม๊าส์บนหน้าปัด จากการสร้างสรรค์ของ BVLGARI ที่นำแรงบันดาลใจทั้งหมดกลับมาสู่รูปแบบเดิม พร้อมความโดดเด่นของเข็มชี้แบบเรโทเกรดอันโด่งดังของนาฬิการุ่นดั้งเดิมนี้ ในขณะที่ BVLGARI เองมีการต่อยอดนาฬิกาในอีกหลายคอลเลคชั่นทั้ง Diagono Aluminum ในแบบจีเอ็มที และ Octo Roma World Timer
ติดตามตอนต่อไปของบทความ GENEVA WATCH DAYDS 2021 ได้ในวันพรุ่งนี้