The MAURICE LACROIX Story
เป็นเวลาเกือบ 50 ปีที่ MAURICE LACROIX เป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาที่มีบทบาทอย่างมากมาย ในวงการอุตสาหกรรมนาฬิการะดับสูงของสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีฐานการผลิตในเมืองซิกเนอเลอจีเออร์ ที่ตั้งอยู่บริเวณแถบเทือกเขาจูร่า อันเป็นศูนย์กลางการผลิตนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่ของโลก
โดยมีจุดเริ่มต้นจากบริษัท Desco von Schulthess บริษัทระดับชาติที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1889 ที่ซูริค และมีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดจำหน่ายนาฬิกาสู่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบเอเชียตั้งแต่ปี 1946 เป็นต้นมา จนกระทั่งสามารถนำเสนอนาฬิกาเรือนแรกในชื่อของ MAURICE LACROIX ออกสู่ตลาดในปี 1975 และเป็นจุดที่ทำให้บริษัทเกิดความรู้และความเข้าใจในอุตสาหกรรมนาฬิกามาจนถึงปัจจุบัน
ที่มีฐานการผลิตในซิกเนอเลอจีเออร์ในแถบเทือกเขาจูร่า ที่บริษัทเข้ารวมกิจการกับโรงงานประกอบนาฬิกาแห่งเดิมไว้ตั้งแต่ปี 1960 และต่อมากับการควบรวมกิจการ กับโรงงานผลิตตัวเรือนนาฬิกาในแถบซิกเนอเลอจีเออร์เช่นกัน จนกระทั่งมีความสามารถในการผลิตนาฬิการะดับสูงภายใต้ชื่อแบรนด์ต่างๆ มากมาย และเป็นที่มาจนกระทั่งมาสู่นาฬิกา MAURICE LACROIX
จนมาสู่ช่วงเวลาสำคัญของแบรนด์ในปี 1990 กับการนำเสนอนาฬิกาในรูปแบบของตัวเองภายใต้ชื่อคอลเลคชั่น Calypso และโดดเด่นที่สุดกับนาฬิการูปแบบกลไกอย่างเต็มตัวในปี 1992 ภายใต้คอลเลคชั่น Masterpiece เป็นครั้งแรกกับนาฬิการุ่น Cinq Aiguilles ซึ่งภายหลังปรับชื่อเป็น Les Mécaniques จนกระทั่งการนำเสนอนาฬิการุ่น Calendrier Retrograde ในปี 1999 อันโดดเด่นในแบบนาฬิกากลไก
ปี 2001 MAURICE LACROIX S.A. ก่อตั้งเวริค์ช็อปของตัวเองอย่างเป็นทางการ เพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างชิ้นส่วนกลไกแบบสลับซับซ้อน เพื่อใช้กับกลไกคาลิเบอร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ จนสามารถมีโมดูลที่สร้างเป็นนาฬิการุ่น Double Retrograde ได้ในปี 2003 และสามารถมีกลไกอินเฮ้าส์ของตัวเองได้ในปี 2006 กับกลไกคาลิเบอร์ ML-106 ซึ่งถือเป็นความพิเศษอันยิ่งใหญ่ของนาฬิกาในระดับเดียวกัน
2010 เป็นอีกหนึ่งปีที่มีความหมายสำหรับ MAURICE LACROIX จากการสร้างชุดแสดงเวลาแบบพิเศษ โดยการคำนวนทิศทางการเคลื่อนที่ของชุดกลไก ที่นำมาแสดงให้เห็นบนหน้าปัดกับนาฬิกาในคอลเลคชั่น Masterpiece Square Wheel และทำให้แบรนด์ยิ่งมีความพิเศษที่แตกต่างจากแบรนด์นาฬิกาอื่นๆ ไปในอีกระดับ จนทำให้ MAURICE LACROIX ยกระดับของแบรนด์ไปอีกขั้น
Masterpiece Mysterious Second ที่นำเสนอในปี 2013 เป็นนาฬิกาอีกหนึ่งรุ่นที่ตอกย้ำความสำเร็จก่อนหน้านี้ กับเข็มวินาทีที่ลอยละล่องบนหน้าปัดวินาทีขนาดใหญ่บริเวณ 6 นาฬิกา ที่สร้างทั้งความฉงนและความน่าสนใจให้กับทุกคนที่พบเห็น เช่นเดียวกันกับในปี 2014 ที่ Masterpiece Gravity ซึ่งเป็นนาฬิกากลไกที่ใช้ชิ้นส่วนจากซิลิเซียม มาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของแบรนด์เทียบเท่ากับแบรนด์ชั้นนำของโลก
และสำหรับในปี 2016 กับการเกิดใหม่อีกครั้งของนาฬิการุ่น Calypso ภายใต้ชื่อใหม่ Aikon ที่กลายเป็นนาฬิการุ่นหลักของแบรนด์ในปัจจุบัน ในขณะที่ยังคงสืบสานความพิเศษของนาฬิกาในคอลเลคชั่น Masterpiece เอาไว้ในโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปีของนาฬิกาในคอลเลคชั่นนี้ในปี 2017
โดยมีนาฬิการุ่น Aikon Automatic ที่นำเสนอเป็นครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งเป็นนาฬิการุ่นที่แสดงบทบาทของ MAURICE LACROIX ในความเป็นนาฬิกาแบบกลไกเอาไว้อย่างครบถ้วน ตามสไตล์และแนวคิดดั้งเดิมของแบรนด์ที่มีมาตั้งแต่ปี 1975 จนถึงปัจจุบันอย่างไม่เสื่อมคลาย