50 YEARS OF CARRERA

Carrera เป็นคอลเลคชั่นนาฬิกาแนวมอเตอร์สปอร์ตสำหรับนักขับรถคอลเลคชั่นเก่าแก่ของ HEUER ที่ถือกำเนิดในยุคเดียวกับ Daytona ของ Rolex โดยถูกออกแบบขึ้นเมื่อปี 1963 ซึ่งก็เป็นปีเดียวกับที่ Rolex แนะนำ Daytona รุ่นแรกออกสู่ตลาดภายใต้ชื่อ Cosmograph ปี 2013 นี้จึงเป็นปีที่แบรนด์ใหญ่ทั้ง 2 แบรนด์ ถือเป็นปีฉลองครบรอบ 50 ปีของสุดยอดนาฬิกามอเตอร์สปอร์ต 2 ตระกูลนี้ ซึ่งถ้าจะถามว่านาฬิกาแนวนี้แบรนด์ใดที่มีความขลังที่สุด คำตอบก็คงจะต้องเป็น 2 รุ่นนี้นี่ล่ะครับ

Tag Carrera 002 Tag Carrera 016

Tag Carrera 030 Tag Carrera 044

และเนื่องในวาระพิเศษนี้ ทาง TAG Heuer ในประเทศไทยก็ได้จัดนิทรรศการ 50 YEARS OF CARRERA ขึ้นในประเทศไทย ณ ฮอลล์ออฟเฟม ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 20-24 มิถุนายน 2013 โดยได้รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับ Carrera ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น รวมถึงจัดดิสเพลย์ประกอบตามยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นรถ Porsche 911 สุดคลาสสิก มอเตอร์ไซค์วินเทจของ Triumph หรือกระทั่งหัวจ่ายน้ำมันในยุคก่อน เพื่อให้เข้ากับยุคแห่งต้นกำเนิด Carrera พร้อมไล่เรียงนาฬิกา Carrera จากยุคต่างๆ มาจนถึงรุ่นใหม่ในปัจจุบัน เรามารู้จักกับที่มาของ Carrera กันสักนิดดีมั้ยครับ

Carrera ถือกำเนิดจากแนวคิดของ Jack Heuer ผู้บริหาร Heuer ในสมัยนั้น (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกิติมศักดิ์ของ TAG Heuer) ซึ่งต้องการสร้างนาฬิกาที่เหมาะกับนักขับรถขึ้นมา ด้วยความที่เขาชื่นชอบและคลุกคลีอยู่กับวงการมอเตอร์สปอร์ตของโลก และก็เป็นผู้ที่พานาฬิกา Heuer เข้าไปเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันรถยนต์รายการต่างๆ รวมถึงทีมแข่ง และนักแข่งรถชื่อดัง จนกลายเป็นธรรมเนียมสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยความที่ Jack คลุกคลีอยู่กับนักแข่งรถหลายคนในยุคนั้น เขาจึงรู้ดีว่า คุณสมบัติของนาฬิกาที่นักขับรถแข่งต้องการนั้นเป็นอย่างไร เขาจึงเริ่มออกแบบนาฬิกาเพื่อการนี้โดยเฉพาะขึ้นเมื่อปี 1963 จนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นนาฬิกากลไกไขลานโครโนกราฟมาดสปอร์ต รูปลักษณ์เรียบง่าย ดูเวลาสะดวก ทนต่อแรงกระแทก และสามารถกันน้ำได้ ในปีถัดมา

115

Jack ตั้งชื่อนาฬิกาแบบใหม่นี้ว่า Carrera โดยนำชื่อมาจากชื่อของการแข่งขันรถยนต์แสนทรหดในยุคทศวรรษที่ 50 “Carrera Panamerican Mexico Road Race” ด้วยความต้องการที่จะเชิดชูเกียรติของรายการแข่งขันในตำนานรายการนี้ และด้วยลักษณะของการแข่งขันที่ต้องใช้ความทรหดของรถและนักขับเป็นอย่างมากก็ตรงกับคอนเซ็ปต์นาฬิกาของเขาเป็นอย่างยิ่ง

11 Carrera 1964 1

Carrera รุ่นแรก ออกจำหน่ายเมื่อปี 1964

งานการดีไซน์ของ Carrera ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนวัตกรรมการออกแบบในยุคนั้น เช่น สถาปัตยกรรมทรงเรขาคณิตของ Oscar Niemeyer และลักษณะดีไซน์แนวเส้นโค้งเว้าของ Eero Saarinen โดยนำมาหลอมรวมเข้ากับแรงบันดาลใจแห่งมอเตอร์สปอร์ตอย่างการวางตำแหน่งและลักษณะของวงจับเวลาที่มีลักษณะคล้ายกับเกจ์วัดบนหน้าปัดรถแข่ง แม้แต่รูปแบบของสายก็ยังมีการออกแบบให้สายหนังที่ใช้มีลักษณะที่ดูคล้ายกับถุงมือหนังสำหรับขับรถ ซึ่งเขาบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากถุงมือของ Juan-Manuel Fangio นักแข่งรถชื่อดังประจำยุคผู้เป็นเพื่อนสนิทของเขานั่นเอง

Heuer Carrera 1969

Heuer Carrera Chronomatic ปี 1969

ปี 1969 ถือเป็นปีสำคัญในเกียรติภูมิของ Heuer เพราะเป็นปีที่ทางแบรนด์ได้เปิดตัวนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นใหม่ซึ่งใช้กลไกแบบใหม่ที่เรียกว่า Chronomatic กลไกนี้มีศักดิ์ศรีเป็นหนึ่งในกลไกอัตโนมัติโครโนกราฟรุ่นแรกของโลก โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Calibre 11 กลไกนี้จะบอกค่าจับเวลาด้วยเคาน์เตอร์ย่อย 2 วง เป็นวง 30 นาที กับวง 12 ชั่วโมง และขึ้นลานด้วยโรเตอร์ขนาดเล็ก ซึ่งเมื่อแรกเปิดตัวนั้นได้นำมาประจำการอยู่ในนาฬิกา 3 รุ่น ได้แก่ Monaco, Autavia และ Carrera

จากนั้นไม่นานก็เข้าสู่ทศวรรษที่ 70 ที่เป็นยุคบูมของกลไกควอตซ์ ทาง Heuer ก็ได้ปรับตัวตามยุคสมัยโดยมีการนำกลไกควอตซ์มาวางในตัวเรือน Carrera ด้วย ในยุคทศวรรษที่ 80 ซึ่งเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านจาก Heuer สู่ความเป็น TAG Heuer นั้น ชื่อของ Carrera ก็ค่อยๆ หายไป เพราะ TAG Heuer ได้เน้นผลิตนาฬิกาสปอร์ตซีรี่ส์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดมากกว่า

จนกระทั่งในปี 1996 ถึงได้สานต่อทายาทให้กับ Carrera อีกครั้ง โดยช่วงแรกๆ จะมีทั้งรุ่นที่ผลิตออกมาในรูปแบบของ Carrera รุ่นดั้งเดิม และ Carrera รุ่นใหม่ จากนั้นก็ได้มีการพัฒนาออกเวอร์ชั่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องกันมาทั้งในด้านรูปลักษณ์และกลไก โดยมีการสร้างนาฬิกาคอนเซ็ปต์รุ่นต่างๆ ที่ล้ำด้วยรูปแบบดีไซน์และลักษณะเฉพาะอันพิเศษของกลไกให้กับตระกูล Carrera เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ก็สามารถต่อยอดจากฐานะการเป็นนาฬิกาคอนเซ็ปต์มาผลิตขายได้จริงในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นในปีต่อๆ มาด้วย อาทิ Carrera Calibre 360 ที่มากับโมดูลจับเวลาซึ่งแสดงค่าได้ละเอียดถึง 1/100 ของวินาที และ Carrera Mikrograph ที่ใช้กลไกจับเวลาซึ่งแสดงค่าได้ละเอียดถึง 1/100 ของวินาที เป็นต้น ส่วนในโปรดักชั่นปกติก็มีการผลิตและพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องในหลากหลายรูปแบบฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาบอกเวลาแบบ 3 เข็ม หรือนาฬิกาโครโนกราฟ ซึ่งทั้งหมดจะใช้กลไกอัตโนมัติ และก็มีการนำกลไกอัตโนมัติโครโนกราฟที่ทางแบรนด์พัฒนาและผลิตขึ้นเองอย่าง Calibre 1887 มาประจำการใน Carrera ด้วย โดยหลายรุ่นของ Carrera ก็ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลกจากเวที Geneva Watchmaking Grand Prix ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของนาฬิกาตระกูลนี้ได้เป็นอย่างดี และล่าสุดสำหรับนาฬิกาโปรดักชั่นปกติของ Carrera ที่ได้รับรางวัลจากเวทีนี้ ก็คือ Carrera Chronograph Calibre 1887 เมื่อครั้งเปิดตัวในปี 2010

Tag Carrera 054

Carrera Chronograph Day-Date Calibre 16

Tag Carrera 047

Carrera Chronograph Calibre 1887

ในปี 2013 ซึ่งเป็นปีพิเศษฉลองครบ 50 ปีของ Carrera ก็ได้มีนาฬิกา Carrera เวอร์ชั่นใหม่ๆ ออกมามากมาย ทั้งเวอร์ชั่นใหม่ของรุ่นเดิมอย่าง Carrera Chronograph Calibre 1887 ที่ออกเวอร์ชั่นขอบตัวเรือนเซรามิกดำ, เวอร์ชั่นเฮอร์ริเทจที่มีการตกแต่งหน้าปัดในแนวย้อนยุค, เวอร์ชั่นที่มากับหน้าปัดสีใหม่โดยเป็นสีน้ำเงินตามเทรนด์ฮิตประจำปีนี้ หรือ Carrera Chronograph Calibre 16 ที่มีการแต่งหน้าแต่งตาใหม่ มาพร้อมกับขอบตัวเรือนอลูมิเนียมสีดำ และเวอร์ชั่นใหม่ถอดด้ามอย่าง Carrera Chronograph Flyback Calibre 36 กลไกอัตโนมัติฟลายแบ็คโครโนกราฟ, Carrera Chronograph Calibre 1887 “Jack Heuer” Edition ที่นำตัวเรือนแบบใหม่ที่ใช้กับนาฬิกาคอนเซ็ปต์รุ่น Mikrogirder ซึ่งได้รับรางวัล Geneva Watchmaking Grand Prix เมื่อปี 2012 มาใช้ โดยมีจุดเด่นที่เม็ดมะยมกับปุ่มกดที่ย้ายไปอยู่ด้านบนของนาฬิกาในลักษณะที่เรียกกันว่าบูลเฮด และนาฬิกากลไกอัตโนมัติฟังก์ชั่นจีเอ็มทีความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์พร้อมแสดงวันที่แบบบิ้กเดทผ่านช่องหน้าต่างคู่ Carrera Grande Date GMT COSC Calibre 8 ซึ่งรุ่นต่างๆ เหล่านี้ก็จะทยอยเข้ามาในประเทศไทยให้ได้เป็นเจ้าของกันภายในปีนี้

เชื่อมั่นได้เลยว่า Carrera จะเป็นอีกหนึ่งตระกูลนาฬิกาเก่าแก่ที่ไม่น่าจะมีวันที่หายไปจากโลกใบนี้ ถ้าชอบนาฬิกาที่มีตำนานแบบที่เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์การผลิตนาฬิกาของโลกก็ไม่น่าพลาดที่จะมีนาฬิกาจากตระกูล Carrera เอาไว้ในครอบครองนะครับ จะเป็นแนวสปอร์ตดุ สปอร์ตหรู วินเทจ ร่วมสมัย หรือล้ำสมัย TAG Heuer เค้าทำออกมาให้เลือกครบทุกแนวครับ