BREGUET No. 160, Marie Antoinette, Part IV
By: Dr. Pramote Rienjaroensuk
และในระหว่างการสร้างนาฬิกาเรือนเรพลิกาของ Marie Antoinette หรือ No. 160 อยู่นั้น เรื่องราวลึกลับที่ถูกปิดตายไปกว่า 20 ปี ก็เปิดเผยขึ้นในเช้าวันหนึ่งในปี 2006 เมื่อ Jakobov Zion เจ้าของร้านขายของสะสมโบราญในเมืองเตล-เลวิฟ ได้รับการติดต่อจากทนายรายหนึ่งที่ไม่ต้องการเปิดเผยนาม ทนายผู้นั้นมาพร้อมกับกล่องเก่าๆ ที่ล็อคด้วยกุญแจ ซึ่งของข้างในถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษที่กลายเป็นสีเหลืองจากการถูกทิ้งไว้เป็นเวลานาน โดย Zion จำได้ทันทีที่ห่อกระดาษคลี่ออกมา และแน่ใจว่าเป็นนาฬิกา BREGUET อันล้ำค่าที่สูญหายไปอย่างแน่นอน
โดยก่อนที่นาฬิกาจำนวน 53 เรือนจะถูกส่งคืนให้พิพิธภัณฑ์ มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าการโจรกรรมครั้งนั้น นำโดยหัวขโมยที่เคยเป็นเจ้าหน้าที่ในพิพิธภัณฑ์ที่ชื่อว่า Na’aman Diller โดยก่อนที่เขาจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี 2004 ก็ได้สารภาพกับภรรยาของเขา ถึงสิ่งมีค่าที่เขาได้ขโมยมาและเก็บซ่อนเอาไว้ ซึ่งในขณะนั้นภรรยาของ Na’aman ที่อาศัยอยู่ในอเมริกา ก็ทำการยื่นข้อเสนอเพื่อที่จะคืนของส่วนที่เหลือ จากตู้เซฟที่ซ่อนไว้ในยุโรปและอเมริกา จนสุดท้ายในปี 2008 นาฬิกาทั้งหมดก็ได้กลับมายังพิพิธภัณฑ์ ซึ่งรวมไปถึงนาฬิกา Marie Antoinette ที่ได้กลับมาอยู่ที่บ้านอีกครั้งหลังจากหายสาปสูญไปกว่า 25 ปี
ซึ่งในปี 2006 ปีเดียวกันนั้น ข่าวดีสำหรับนาฬิกาเรือนเรพลิกาของนาฬิกา Marie Antoinette หรือที่ใช้ชื่อว่า BREGUET No. 1160 ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวในงาน Baselworld 2008 เป็นนาฬิกาที่ตั้งใจถอดแบบและสร้างขึ้นมาเป็นตัวแทนของนาฬิกาเรือนเดิมที่สูญหาย และถือกำเนิดขึ้นอย่างสำเร็จงดงาม โดยนาฬิกาไปประกอบด้วยชิ้นส่วนทั้งหมด 823 ชิ้น แท่นกลไก บริจด์ และบาร์ทั้งหมด รวมไปถึงชิ้นส่วนกลไกแสดงคาเลนดาร์และรีพีทเตอร์ ผลิตจากพิ๊งค์โกลด์ที่ผ่านการขัดแต่งด้วยไม้ โดยใช้มือขัดแต่งทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีบลูด์สกรูว์ และชิ้นส่วนสตีลแบบขัดเงา โดยใช้ทับทิมสังเคราะห์รองรับการขยับเขยื้อนของชิ้นส่วนกลไกทั้งหลาย
นาฬิกาอันทรงคุณค่าเรือนนี้ ถือเป็นรูปแบบการผลิตจากมันสมองและฝีมือของมนุษย์ในยุคก่อนหน้านี้กว่า 200 ปี ตัวเรือนผลิตจากเยลโลว์โกลด์ขนาด 63 มิลลิเมตร มีฟังก์ชั่นการทำงานแบบมินิทรีพีทเตอร์ ที่สร้างเสียงแสดงชั่วโมง ควอเตอร์ และนาที รวมไปถึงฟังก์ชั่นเพอเพทชวลคาเลนดาร์ ที่แสดงค่าวันที่ วัน และเดือน ณ ตำแหน่ง 2 และ 8 นาฬิกา ในขณะที่บริเวณ 10 นาฬิกาจะเป็นการแสดงค่าอิเควชั่นออฟไทม์ โดยมีชุดเข็มหลักกลางหน้าปัดแบบจั๊มปิ้งอาวร์ส รวมไปถึงเข็มแสดงค่าการจับเวลา และวงแสดงค่าวินาที ณ บริเวณ 6 นาฬิกา พร้อมชุดแสดงพลังสำรองลานนาน 48 ชั่วโมง และชุดแสดงค่าเทอร์โมมิเตอร์ทั้งสองฝั่งบนหน้าปัด
นาฬิกาเรือนนี้ถือเป็นนาฬิกาที่มีความสลับซับซ้อนที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยในปัจจุบันนาฬิกา BREGUET No. 1160 จะมีการเวียนเพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์และงานนาฬิกาที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ส่วนนาฬิกา Marie Antoinette หรือ BREGUET No. 160 นั้นจะยังคงจัดแสดงใน Islamic Art ที่ปลอดภัยขึ้นกว่าเดิม ด้วยการคุ้มกันอย่างแน่นหนาในปัจจุบัน ด้วยอายุที่ยืนยาวมากว่า 200 ปีของนาฬิกาเรือนนี้ ผ่านอุปสรรคจากยุคปฏิวัติฝรั่งเศส จนอยู่รอดปลอดภัยจากการถูกขโมย และจะทำหน้าที่รอคอยการมาเยือนของผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาอย่างสงบ ณ Islamic Art ตลอดไป