Musée Atelier AUDEMARS PIGUET, Part II
“พิพิธภัณฑ์ AUDEMARS PIGUET ถือเป็นสถานที่ที่มีความพิเศษอย่างยิ่ง สำหรับผู้ชมที่จะได้ค้นพบและเรียนรู้ ภายใต้การนำเสนอทั้งความรู้และความเชี่ยวชาญ ที่ได้รับการสืบทอดจากผู้คนรุ่นสู่รุ่น รายละเอียดที่ถูกถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรมของตัวอาคาร และรวมไปถึงภูมิทัศน์โดยรอบ ที่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับกลไก อันซับซ้อนแบบแกรนด์คอมพลิเคชั่นได้เป็นอย่างดี” Sébastian Vivas ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์และประวัติศาสตร์ของ AUDEMARS PIGUET กล่าว
นาฬิกา 300 เรือนสำคัญที่ถูกรวบรวมไว้ ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะบอกเล่าเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2 ศตวรรษ ผ่านทางกลไกการทำงานอันซับซ้อน ที่ถือเป็นศิลปะการย่อขนาด และงานดีไซน์ที่แปลกตา เผยให้เห็นถึงเรื่องราวอันอ่อนน้อมของช่างผู้ชำนาญการในศตวรรษที่ 19 ซึ่งรังสรรค์ผลงานอย่างเงียบๆ ในหมู่บ้านอันห่างไกลภายในหุบเขาจูราในสวิตเซอร์แลนด์ ทว่าผลงานอันโดดเด่นของพวกเขากลับสะดุดตาผู้คนในแดนไกล และยังคงจับใจคนรักนาฬิกาทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีศิลปะการสร้างสรรค์กลไกนาฬิกาที่เชื่อมโยงกับดาราศาสตร์ กลไกการแสดงเวลาด้วยเสียง รวมถึงกลไกโครกราฟอันเป็นหัวใจสำคัญของ AUDEMARS PIGUET ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ที่ถูกนำมาจัดแสดงให้เห็นผ่านนาฬิกาพกพารุ่น Universelle ที่ผลิตออกมาตั้งแต่ปี 1899 ด้วยแรงบันดาลใจจากระบบสุริยะจักรวาล ซึ่งนิทรรศการรูปทรงกลมในส่วนนี้ จะเผยให้เห็นวงจรของเวลาในเชิงดาราศาสตร์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการสร้างสรรค์งานนาฬิกา
และเพื่อให้การจัดแสดงผลงานนาฬิกาคอมพลิเคชั่น หรือนาฬิกาที่มีกลไกซับซ้อนน่าสนใจยิ่งขึ้น พิพิธภัณฑ์ AUDEMARS PIGUET จึงเลือกจัดแสดงความเชี่ยวชาญนับจากอดีตผ่านห้องเวิร์คช็อปพิเศษ 2ห้องที่ตั้งอยู่ตรงกลางอาคาร ห้องแรกเป็นส่วนของนาฬิกากลไกแบบแกรนด์คอมพลิเคชั่น ที่บอกเล่าถีงการประกอบนาฬิกาภายใต้กลไกอันซับซ้อนของชิ้นส่วนกว่า 648 ชิ้นในระยะเวลาราว 6-8 เดือนต่อเรือน โดยทั้งหมดเป็นการประกอบมือของช่างนาฬิกาเพียงคนเดียว ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย
ส่วนห้องที่ 2 จะเป็นส่วนของเวิร์คช็อปที่จะเผยให้เห็นการผลิตงานจิวเวลรี่ชั้นสูงด้วยฝีมือของช่างจิวเวลรี่ ช่างอัญมณี และช่างแกะสลักผู้มีความชำนาญสูง ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในอดีต ก็จะเห็นได้ว่าห้องเวิร์คช็อปทั้ง 2 ห้องของพิพิธภัณฑ์ AUDEMARS PIGUET นี้เผยให้เห็นการสร้างสรรค์ผลงานที่ละเอียดอ่อนที่สุดที่แบรนด์ยังคงรักษาไว้จวบจนปัจจุบัน และนับว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความมุ่งมั่นในการรังสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดอย่างไม่หยุดยั้งของโลกนาฬิกา ในรูปแบบของ AUDEMARS PIGUET ที่มีมาตลอดตั้งแต่อดีต
อาคารร่วมสมัยที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แห่งนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นของ AUDEMARS PIGUET ในการสร้างนวัตกรรมทางสถาปัตยกรรม ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและวัฒนธรรม โดยออกแบบมาให้สอดคล้องกับมาตรฐานคุณภาพสวิสไมเนอร์จี ทั้งในเรื่องของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการก่อสร้างด้วยมาตรฐานคุณภาพระดับสูง นอกจากนี้ยังมีโครงการสร้างโอแตลเดส์ออโลแจร์ ซึ่งเป็นโรงแรมของ AUDEMARS PIGUET ในเมืองเลอบราซูส์ โดยวางแผนเปิดดำเนินการในช่วงฤดูร้อนของปี 2021 อีกด้วย
นิทรรศการนาฬิกาทั้งหมดของพิพิธภัณฑ์ AUDEMARS PIGUET จะจบลงที่คอลเลกชั่นนาฬิกาของ AUDEMARS PIGUET ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือคอลเลคชั่น Royal Oak, Royal Oak Offshore และ Royal Oak Concept อันเป็นคอลเลคชั่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดของแบรนด์ จากการดีไซน์ของนักออกแบบนาฬิกาผู้มีชื่อเสียง Gerald Genta และได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากหน้าต่างเรือเดินสมุทรในยุคอดีต ผนวกกับรูปแบบโครงสร้างตัวเรือนที่แปลกและแตกต่างจากนาฬิกาทั่วไปในยุคนั้น
พิพิธภัณฑ์ AUDEMARS PIGUET มีพื้นที่ทั้งหมดของอาคารโดมกระจก 2,500 ตารางเมตร พื้นที่จัดนิทรรศการ 900 ตารางเมตร บานกระจกจำนวน 108 ชิ้น โดยสามารถรองรับน้ำหนักได้ราว 470 ตัน และใช้เวลาในการประกอบบานกระจกแต่ละบานประมาณ 3 สัปดาห์ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 18 ถนนรูทเดอฟรองซ์, 1348 เลอบราซูส์ และจะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2020 โดยต้องจองบัตรทางออนไลน์ผ่าน www.museeatelier-audermaspiguet.com และการเข้าเยี่ยมชมทุกครั้งจะต้องมีการนัดหมายก่อนเท่านั้น