Musée Atelier AUDEMARS PIGUET, Part II

 

“พิพิธภัณฑ์ AUDEMARS PIGUET ถือเป็นสถานที่ที่มีความพิเศษอย่างยิ่ง สำหรับผู้ชมที่จะได้ค้นพบและเรียนรู้ ภายใต้การนำเสนอทั้งความรู้และความเชี่ยวชาญ ที่ได้รับการสืบทอดจากผู้คนรุ่นสู่รุ่น รายละเอียดที่ถูกถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรมของตัวอาคาร และรวมไปถึงภูมิทัศน์โดยรอบ ที่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับกลไก อันซับซ้อนแบบแกรนด์คอมพลิเคชั่นได้เป็นอย่างดี” Sébastian Vivas ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์และประวัติศาสตร์ของ AUDEMARS PIGUET กล่าว

 

Musee Atelier Le Brassus 2020 17 Iwan Baan JPEG

 

นาฬิกา 300 เรือนสำคัญที่ถูกรวบรวมไว้ ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะบอกเล่าเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2 ศตวรรษ ผ่านทางกลไกการทำงานอันซับซ้อน ที่ถือเป็นศิลปะการย่อขนาด และงานดีไซน์ที่แปลกตา เผยให้เห็นถึงเรื่องราวอันอ่อนน้อมของช่างผู้ชำนาญการในศตวรรษที่ 19 ซึ่งรังสรรค์ผลงานอย่างเงียบๆ ในหมู่บ้านอันห่างไกลภายในหุบเขาจูราในสวิตเซอร์แลนด์ ทว่าผลงานอันโดดเด่นของพวกเขากลับสะดุดตาผู้คนในแดนไกล และยังคงจับใจคนรักนาฬิกาทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน

 

Musee Atelier Le Brassus 2020 03 JPEG

 

นอกจากนี้ยังมีศิลปะการสร้างสรรค์กลไกนาฬิกาที่เชื่อมโยงกับดาราศาสตร์ กลไกการแสดงเวลาด้วยเสียง  รวมถึงกลไกโครกราฟอันเป็นหัวใจสำคัญของ AUDEMARS PIGUET ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ที่ถูกนำมาจัดแสดงให้เห็นผ่านนาฬิกาพกพารุ่น Universelle ที่ผลิตออกมาตั้งแต่ปี 1899 ด้วยแรงบันดาลใจจากระบบสุริยะจักรวาล ซึ่งนิทรรศการรูปทรงกลมในส่วนนี้ จะเผยให้เห็นวงจรของเวลาในเชิงดาราศาสตร์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการสร้างสรรค์งานนาฬิกา

 

PA INV 1660 2 JPEG

 

และเพื่อให้การจัดแสดงผลงานนาฬิกาคอมพลิเคชั่น หรือนาฬิกาที่มีกลไกซับซ้อนน่าสนใจยิ่งขึ้น พิพิธภัณฑ์ AUDEMARS PIGUET จึงเลือกจัดแสดงความเชี่ยวชาญนับจากอดีตผ่านห้องเวิร์คช็อปพิเศษ 2ห้องที่ตั้งอยู่ตรงกลางอาคาร ห้องแรกเป็นส่วนของนาฬิกากลไกแบบแกรนด์คอมพลิเคชั่น ที่บอกเล่าถีงการประกอบนาฬิกาภายใต้กลไกอันซับซ้อนของชิ้นส่วนกว่า 648 ชิ้นในระยะเวลาราว 6-8 เดือนต่อเรือน โดยทั้งหมดเป็นการประกอบมือของช่างนาฬิกาเพียงคนเดียว ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย

 

Musee Atelier Interieur Le Brassus 2020 09 JPEG 

ส่วนห้องที่ จะเป็นส่วนของเวิร์คช็อปที่จะเผยให้เห็นการผลิตงานจิวเวลรี่ชั้นสูงด้วยฝีมือของช่างจิวเวลรี่ ช่างอัญมณี และช่างแกะสลักผู้มีความชำนาญสูง ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในอดีต ก็จะเห็นได้ว่าห้องเวิร์คช็อปทั้ง 2 ห้องของพิพิธภัณฑ์ AUDEMARS PIGUET นี้เผยให้เห็นการสร้างสรรค์ผลงานที่ละเอียดอ่อนที่สุดที่แบรนด์ยังคงรักษาไว้จวบจนปัจจุบัน และนับว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความมุ่งมั่นในการรังสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดอย่างไม่หยุดยั้งของโลกนาฬิกา ในรูปแบบของ AUDEMARS PIGUET ที่มีมาตลอดตั้งแต่อดีต

 

Musee Atelier Le Brassus 2020 04 JPEG

 

อาคารร่วมสมัยที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แห่งนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นของ AUDEMARS PIGUET ในการสร้างนวัตกรรมทางสถาปัตยกรรม ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและวัฒนธรรม โดยออกแบบมาให้สอดคล้องกับมาตรฐานคุณภาพสวิสไมเนอร์จี ทั้งในเรื่องของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการก่อสร้างด้วยมาตรฐานคุณภาพระดับสูง นอกจากนี้ยังมีโครงการสร้างโอแตลเดส์ออโลแจร์ ซึ่งเป็นโรงแรมของ AUDEMARS PIGUET ในเมืองเลอบราซูส์ โดยวางแผนเปิดดำเนินการในช่วงฤดูร้อนของปี 2021 อีกด้วย

 

Musee Atelier Interieur Le Brassus 2020 08 JPEG

 

นิทรรศการนาฬิกาทั้งหมดของพิพิธภัณฑ์ AUDEMARS PIGUET จะจบลงที่คอลเลกชั่นนาฬิกาของ AUDEMARS PIGUET ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือคอลเลคชั่น Royal Oak, Royal Oak Offshore และ Royal Oak Concept อันเป็นคอลเลคชั่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดของแบรนด์ จากการดีไซน์ของนักออกแบบนาฬิกาผู้มีชื่อเสียง Gerald Genta และได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากหน้าต่างเรือเดินสมุทรในยุคอดีต ผนวกกับรูปแบบโครงสร้างตัวเรือนที่แปลกและแตกต่างจากนาฬิกาทั่วไปในยุคนั้น

 

 

Musee Atelier Le Brassus 2020 26 Iwan Baan JPEG

 

พิพิธภัณฑ์ AUDEMARS PIGUET มีพื้นที่ทั้งหมดของอาคารโดมกระจก 2,500 ตารางเมตร พื้นที่จัดนิทรรศการ 900 ตารางเมตร บานกระจกจำนวน 108 ชิ้น โดยสามารถรองรับน้ำหนักได้ราว 470 ตัน และใช้เวลาในการประกอบบานกระจกแต่ละบานประมาณ 3 สัปดาห์ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 18 ถนนรูทเดอฟรองซ์, 1348 เลอบราซูส์ และจะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2020 โดยต้องจองบัตรทางออนไลน์ผ่าน www.museeatelier-audermaspiguet.com และการเข้าเยี่ยมชมทุกครั้งจะต้องมีการนัดหมายก่อนเท่านั้น 

Musee Atelier Le Brassus 2020 24 Iwan Baan JPEG