iamwatch

Twitter

By: Rittidej Mohprasit  

พวกเราชาว กทม. คงคุ้นเคยกับอุบัติเหตุบนท้องถนนกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าในฐานะผู้พบเห็นหรือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุด้วยตัวเอง (ทั้งที่ไม่ควรเป็นเหตุการณ์ที่เราๆ ท่านๆ ควรจะคุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย) แต่สำหรับแบรนด์จิวเวอรี่และนาฬิการะดับสูงอย่าง CARTIER อุบัติเหตุบนท้องถนน อาจนำมาซึ่งแรงบันดาลใจในการออกแบบและสร้างสรรค์งานศิลปะบนข้อมือ จนกลายเป็นทรงนาฬิกาที่สุดแสนจะน่าประทับใจ ที่ถือเป็นหนึ่งในโมเดลที่ดึงดูดสายตา และน่าจดจำมากที่สุดของ CARTIER เลยทีเดียว

เชิญพบกับ CARTIER Crash 1967

สำหรับ CARTIER นอกจากนาฬิกายอดนิยมสุดๆ อย่าง Santos หรือ Tank แล้ว (ที่น่าสนใจว่าเร็วๆ นี้เพิ่งจะมีการประมูล CARTIER Tank ของ Jacqueline “Jacky” Kennedy เซเล็บบริตี้อดีตภรรยาของประธานาธิบดี John F. Kenedy) ยังมีอีกโมเดลหนึ่งที่ได้รับความนิยมเช่นกัน โดยเฉพาะในหมู่คุณสุภาพสตรีนั่นก็คือ CARTIER Baignoire ในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งมีความหมายว่าอ่างอาบน้ำ หรือ Bathtub ในภาษาอังกฤษ และนาฬิการุ่น Baignoire นี้ยังมีอีกรุ่นที่ทรงยาวกว่าปกติ ตามออกมาอีกด้วยในนาม Baignoire Allongée ซึ่งแปลได้ว่า Elongated Bathtub หรือ อ่างอาบน้ำแบบยาว

อ่างอาบน้ำปรกติ

อ่างอาบน้ำแบบยาว

เข้าถึงเรื่องของ Crash ตามตำนานเล่าว่า ในประเทศอังกฤษราวปี 1967 เกิดมีอุบัติเหตุอย่างรุนแรงบนท้องถนน แต่โชคดีที่ผู้โดยสาร เพียงแค่ได้รับบาดเจ็บไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่กระนั้นผู้โดยสารท่านนั้น (บางคนบอกว่าเป็นผู้จัดการร้าน CARTIER ในลอนดอนเอง) เขาคงรู้สึกเศร้ามาก เพราะนาฬิกาสุดรักสุดหวงอย่าง CARTIER Baignoire Allongée ได้รับความเสียหายจากความร้อนและแรงกระแทก ทำให้ทรงของตัวเรือนบิดเบียว และเมื่อร่างกายพร้อม ผู้โดยสารท่านนั้นจึงนำเอานาฬิกา Baignoire Allongée เรียนนี้ไปส่งซ่อมที่ CARTIER สาขาลอนดอน

Jean-Jacques Cartier ผู้ให้กำเนิด Crash

เรื่องไปถึง Jean-Jacques Cartier ทายาทรุ่นเหลนของผู้ก่อตั้งแบรนด์ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้บริหารสูงสุดของ CARTIER ในลอนดอน และคงรู้สึกกึ่งสะเทือนใจในคราวเคราะห์ของเจ้าของนาฬิกา และกึ่งประทับใจในเรื่องราวความรักในนาฬิกา CARTIER และรูปทรงอันบิดเบี้ยวแปลกตา ที่เกิดจากอุบัติเหตุ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ CARTIER สร้างสรรค์ตัวเรือนนาฬิกาทรงใหม่ขึ้นมา และให้ชื่อว่า Crash ซึ่งแปลตรงตัวว่าชน อันนี้มีเกร็ดเพิ่มนิดหน่อย ตรงที่ว่าจริงๆ Jean-Jacques Cartier แกเฉยๆ กับนาฬิกาทรงนี้ และตั้งใจว่าจะไม่ทำออกมาจำหน่าย แต่ประทับใจกับท่าทางที่แสนตื่นเต้นของลูกค้าเมื่อเห็นนาฬิกา จนยอมให้มีการผลิตรุ่นนี้ออกมาจำหน่ายในตลาดอีก

รูปทรงอันแปลกตาและเก๋ไก๋ ทำให้หลายคนนึกไปถึงนาฬิกาที่ละลายในรูปวาด the Persistence of Memory ของ Salvador Dali เจ้าพ่อศิลปะแนว Surrealism

สมัยนั้น CARTIER ยังมีการกระจายกำลังการผลิตนาฬิกา ไปยังสถานที่ต่างๆ อย่างน้อยสามแห่ง นั่นคือ สาขาปารีส สาขาลอนดอน และสาขานิวยอร์ค ซึ่งต่างก็มีอิสระในการออกแบบสินค้า ภายใต้แบรนด์เดียวกัน แต่สำหรับ CARTIER Crash นี้ มีแต่เพียงสาขาลอนดอนเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ผลิตออกจำหน่าย (โปรดสังเกตุหน้าปัดที่หกนาฬิกาที่มีระบุว่า London) ซึ่งผลิตออกมาเป็นขนาดใหญ่สำหรับคุณสุภาพบุรุษ มีความยาว 43 มิลลิเมตร และกว้าง 23 มิลลิเมตร โดยส่วนใหญ่ใช้เยลโลว์โกลด์เป็นวัสดุตัวเรือน พิเศษหน่อยก็จะมีอยู่เพียงสามเรือน ที่ถูกผลิตขึ้นมาโดยใช้ไวท์โกลด์ และไม่ว่าจะด้วยสาเหตุที่รูปทรง ผลิตออกมาได้ยากหรือไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควรในตอนนั้น CARTIER Crash จึงถูกผลิตออกมาสู่ตลาดในจำนวนที่น้อยมาก

ลอนดั้นนะจ๊ะ

ต่อมาราวช่วงปี 1970’s เมื่อ CARTIER ได้เริ่มรวมศูนย์การผลิตนาฬิกาทั้งหมด มาไว้ที่เดียวกันที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส แม้สาขาลอนดอนจะยังคงผลิต CARTIER Crash ออกมาอยู่บ้าง แต่ในท้ายที่สุดแล้ว นาฬิกา CARTIER Crash ก็ถูกย้ายมาผลิตที่ปารีสทั้งหมดในราวปี 1991 โดยมีขนาดเล็กกว่าเดิม (หน้าปัดในยุคหลังจึงระบุที่หกนาฬิกาว่า Paris) และถึงแม้ CARTIER จะย้ายฐานการผลิตไปแล้ว แต่ก็ยังคงผลิต CARTIER Crash อย่างจำกัดมากเหมือนเดิม (หลักไม่กี่ร้อยเรือนในแต่ละรูปแบบ) ที่น่าสนใจคือ ในช่วงระหว่างการย้ายฐานการผลิต นักออกแบบ Crash ประจำสายการผลิตที่ลอนดอน ก็ได้ลาออกมาผลิตนาฬิการูปทรงคล้ายๆ กันออกขายในนาม Churchill Crash โดยเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น แต่ผลิตอยู่ได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ ก็ต้องเลิกกิจการไป

ราคาไม่แพงเท่า แต่นี่ก็หาไม่ง่ายเลย

ด้วยหน้าตาอันแปลกประหลาดของ CARTIER Crash นาฬิการุ่นนี้จึงมักทำให้ผู้หลงไหลในโลกนาฬิกา เสียงแตกออกเป็นสองฝ่าย บางคนบอกว่าน่าเกลียด บ้างก็ว่าเก๋ จึงอาจสรุปได้ว่านาฬิการุ่นนี้ คงจะไม่ใช่นาฬิกาสำหรับทุกคน แต่ส่วนตัวผมคิดว่า CARTIER Crash รุ่นนี้มีหน้าตาที่มีเสน่ห์มาก และแปลกแหวกแนวมากเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับนาฬิกาหลายๆ รุ่นในยุคเดียวกัน