BLANCPAIN Tribute to Joël Robuchon
หลากหลายกิจกรรมที่ทาง BLANCPAIN แบรนด์นาฬิกาชั้นนำให้การสนับสนุนเรื่อยมา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ BLANCPAIN ได้เป็นที่รู้จักของผู้คนในโลกหลากหลายกลุ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่ง L’Art de Vivre หรือ The Art of Living ก็เป็นอีกหนึ่งยูนิเวริส์ที่ BLANCPAIN ให้การสนับสนุนมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 1986 จนถึงปัจจุบัน
L’Art de Vivre หรือ The Art of Living ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทาง BLANCPAIN ให้การสนับสนุน โดยมีแนวคิดผูกพันถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คน ที่ซึ่งการรับประทานอาหารในแบบไฟน์ไดน์นิ่ง ถือเป็นสุดยอดของรูปแบบการนำเสนอในเรื่องของอาหาร การปรุงอาหาร การคัดสรรวัตถุดิบ การจับคู่กันของวัตถุดิบในแต่ละชนิด รวมทั้งการแพร์ริ่งอาหารกับไวน์ แชมเปญจ์น หรือเครื่องดื่มต่างๆ และในอีกหลากหลายแง่มุมของไฟน์ไดน์นิ่ง ที่จะทำให้เกิดอรรถรสกับผู้คนได้ โดยเปรียบเทียบความสุดยอดเหล่านี้ ในลักษณะรูปแบบเดียวกันกับการออกแบบ การคัดเลือกวัสดุ การสร้างชิ้นส่วนต่างๆ และการประกอบชิ้นส่วนเหล่านั้น เข้าด้วยกันอย่างประณีต บรรจง และทำให้เกิดผลงานนาฬิการะดับสุดยอดของโลกภายใต้ชื่อ BLANCPAIN ได้
Mr. Joël Robuchon คือหนึ่งในเชฟฝีมือระดับสุดยอดของโลก ที่ทาง BLANCPAIN ให้การสนับสนุนตลอดมา ตั้งแต่ตอนที่ได้รับตำแหน่ง Cuisiniers du siècle หรือ Chef of the Century ในปี 1989 และทาง BLANCPAIN มอบนาฬิกาให้กับเขา พร้อมการแกะสลักแบบเพอร์ซัลนัลไลซ์ ที่เป็นจุดเริ่มต้น และนำพาให้โลกของไฟน์ไดน์นิ่ง มาบรรจบกับโลกของนาฬิการะดับสูงได้อย่างเหมาะสมที่สุด
Mr. Joël Robuchon เริ่มต้นเข้าสู่โลกของไฟน์ไดน์นิ่ง ด้วยการเป็นทั้งลูกศิษย์ และลูกมือของเชฟที่โรงแรม Concorde Lafayette ในขณะที่เขาอายุ 29 ปี ได้รับการโวทให้ได้รับตำแหน่ง Meilleur Ouvrier de France หรือ Best Artisan in France ในปี 1976 จนกระทั่งเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง Le Jamin ในปี 1981 โดยได้รับรางวัลร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาวถึง 3 ปีซ้อน ได้รับตำแหน่ง Chef of the Year ในปี 1987 ตามด้วยตำแหน่ง Chef of the Century ในปี 1989 และในปี 1994 ที่ร้านอาหารของเขาได้รับรางวัล Best Restaurant in the World
นอกจากนี้ เขายังทำให้วงการอาหารแบบไฟน์ไดน์นิ่งตื่นตัวมากขึ้นไปทั่วโลก จากรายการทีวีต่างๆ ที่สนใจนำเสนอเรื่องราวของเขา รวมไปถึงการเดินทาง ที่นำสไตล์อาหารของเขาสู่ผู้คนทั่วโลก พร้อมๆ กับการเสาะหาวัตถุดิบ และวิธีการปรุงอาหารแบบใหม่ๆ จากทั่วโลกให้กับตัวเขาเอง ที่ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนาคอนเซ็ปท์ของร้าน L’Atelier Joël Robuchon หรือ Cookery Workshop ที่นำเสนอสไตล์อาหารของเขา แบบคัดสรรคุณภาพวัตถุดิบที่ดีที่สุด ในบรรยากาศแบบสบายๆ
และความสำเร็จของร้าน L’Atelier Joël Robuchon นี่เอง ที่ทำให้วงการไฟน์ไดน์นิ่งเกิดการตื่นตัว และผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจมากขึ้น จากความสามารถและวิสัยทัศน์ของเขา จนทำให้เขาเป็นเชฟที่ได้รับรางวัลระดับมิชลินสตาร์มากกว่า 30 ดวง ซึงถือเป็นเชฟที่ได้รับรางวัลมากที่สุดคนหนึ่ง ในประวัติศาสตร์ของวงการไฟน์ไดน์นิ่ง
สำหรับ BLANCPAIN แล้ว Mr. Joël Robuchon เองก็ให้ความสนใจกับเรือนเวลาระดับสูงนี้เสมอมา โดยเคยไปเยือนโรงงานของ BLANCPAIN ที่เมืองเลอบราส์ซูส์ อย่างเป็นทางการในปี 2014 พร้อมความตกลงในคอนเซ็ปท์ The Art of Living ของแบรนด์ ที่ซึ่งเป็นที่มาของการติดตั้งนาฬิกาแขวน BLANCPAIN ในร้านอาหาร L’Atelier de Joël Robuchon ทุกแห่งในโลก เพื่อตอกย้ำถึงงานศิลปะระดับสูงของทั้งสองศาสตร์
Mr. Joël Robuchon เสียชีวิตในวันที่ 6 สิงหาคม 2018 ด้วยอายุ 73 ปี พร้อมตำแหน่งสำคัญมากมายในโลกของไฟน์ไดน์นิ่ง ที่ยังไม่นับรวมรางวัลอีกมากมายนับไม่ถ้วน และสำคัญที่สุดกับรางวัลระดับมิชลินสตาร์ที่มีเขาเกี่ยวข้องอยู่มากมายกว่า 30 ดวง ซึ่งนับเป็นเชฟผู้มีรางวัลระดับมิชลินสตาร์รายล้อม ได้มากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ซึ่ง BLANCPAIN ในฐานะผู้สนับสนุนและร่วมอุดมการณ์ของ Mr. Joël Robuchon ขอร่วมรำลึกถึงชายผู้อุทิศตน ให้กับโลกของไฟน์ไดน์นิ่งผู้นี้ ในวันสำคัญวันนี้ด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Pendulum สาขาสยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิร์ล, PMT The Hour Glass สาขา เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า
