INTERVIEW WITH ULYSSE NARDIN
Dr. Pramote: ขอเริ่มต้นที่นาฬิการุ่น Freak X นะครับ ช่วยเล่าให้ฟังเรื่องของโครงสร้างที่เล็กและบางลงของ Freak X ให้ฟังหน่อยครับ
Mr. Romain Rossat: โครงสร้างของนาฬิกาเรือนนี้ถือว่าพิเศษมาก จะเห็นว่าตัวเรือนมีความบางมาก โดยที่ชุดกลไกทั้งหมดยังถูกห่อหุ้มด้วยตัวเรือนได้อย่างสวยงาม เพราะต้องเข้าใจด้วยว่า พื้นฐานของนาฬิการุ่นนี้มีกลไกที่ถูกบังคับให้เป็นการจัดวางหลายชิ้นส่วนสำคัญในแกนกลางให้ทับซ้อนกัน ฉะนั้นการลดความหนาของกลไกพื้นฐานจึงถือเป็นเรื่องยากอันดับต้นๆ เลยทีเดียว และที่ผมเอ่ยถึงแกนกลางนั้น หมายถึงการคำนึงถึงความมั่นคงและแข็งแรงของแกนกลางด้วย เพราะน้ำหนักจำนวนมากในการหมุนเข็มๆ เดียวที่มีชุดบาลานซ์วีลพ่วงอยู่ด้วยนั้น สำหรับทางหลักการวิศวกรรมศาสตร์แล้ว ต้องเลือกให้มีความกว้างใหญ่ของฐานไว้ก่อน ดังนั้นเราจึงยังคงต้องยึดจุดแกนกลางไว้ให้มีขนาดใหญ่อย่างเหมาะสม และพยายามลดส่วนอื่นๆ ทั้งหมดลงแทน ซึ่งก็อย่างที่บอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยในการลดแต่ละส่วนที่ละนิดละหน่อย
Dr. Pramote: แล้วเรื่องของการใช้เม็ดมะยมมีส่วนในเรื่องของความหนาบางในชุดกลไกด้วยหรือไม่ครับ
Mr. Romain Rossat: เกี่ยวข้องมากเลยครับ เพราะปกติของนาฬิการุ่น Freak จะเป็นการตั้งเวลาและไขลานจากด้านหน้าและด้านหลังของตัวเรือน ทำให้ขนาดของกลไกมีความหนาซึ่งถือเป็นพื้นฐานปกติของกลไกชุดนี้ แต่ตอนนี้เรานำชุดไขลานและตั้งเวลาออก ความหนาจึงลดลงไปได้มากทั้งด้านบนและด้านล่าง ในขณะเดียวกันก้านเม็ดมะยมก็ยังมีส่วนที่ทำให้ตัวเรือนกว้างขึ้นได้ ดังนั้นเราจึงลดขนาดความยาวของก้านให้พอดีกับขนาดความบางของตัวเรือนลงพร้อมๆ กัน ผลคือนาฬิกาเรือนนี้มีขนาดที่บางลงและเล็กลงในสัดส่วนที่เหมาะสมที่สุดและเข้าได้กับข้อมือได้ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีโรเตอร์ที่ผลิตจากทังสเตนเพื่อวัตถุประสงค์ด้านน้ำหนัก เพื่อให้ขึ้นลานได้มากและเหมาะสมกับชุดกลไก แม้จะต้องผ่านขั้นตอนการขึ้นรูปที่ยากมากขึ้น เพราะวัสดุอย่างทังสเตนขึ้นรูปได้ยากกว่าสตีลหรือทองคำมาก
Dr. Pramote: สังเกตเห็นวีลที่ด้านหน้าที่โผล่ขึ้นมาบนหน้าปัดนาฬิกา นี่คืออีกหนึ่งส่วนที่ทำให้กลไกชุดนี้บางลงเช่นกันหรือปล่าวครับ
Mr. Romain Rossat: ใช่แล้วครับ ปกติวีลชุดนี้ที่เห็นใน Freak X จะถูกซ่อนอยู่ใต้หน้าปัดใน Freak รุ่นอื่นๆ ซึ่งในครั้งนี้เปิดเผยให้เห็นเมนวีลชุดนี้ในการขับเคลื่อนกลไกตลอดเวลา โดยรวมก็เพื่อให้กลไกมีความบางลง รวมไปถึงมาร์กเกอร์ที่มองเห็นจากบนหน้าปัด ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของเมนเพลทชุดกลไกอีกด้วย ซึ่งก็เพื่อการลดความหนาลงอีกเช่นกัน และส่วนของสีดำก็คือวัสดุไทเทเนียมดีแอลซี แล้วส่วนที่เป็นขาตัวเรือนทั้งบนและล่างก็มาประกบกันด้านข้าง ซึ่งในรุ่นโรสโกลด์ก็จะเป็นวัสดุโรสโกลด์ ซึ่งนี่ก็คือโครงสร้างที่พิเศษของ Freak X นอกจากนี้ก็ยังมีกระจกแซฟไฟร์ที่คลุมทั้งกลไกอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็นเรื่องของฟังก์ชั่นการทำงานด้วย ดังนั้นเวลาสวมใส่นาฬิกาเรือนนี้บนข้อมือจะเห็นว่าโดดเด่นมาก เนื่องจากสามารถมองเห็นถึงชุดกลไกไปพร้อมๆ กันด้วย และยังเหมาะมากกับการใช้งานในทุกวัน
Dr. Pramote: X เป็นชื่อความพิเศษใหม่ของ ULYSSE NARDIN คุณอยากจะบอกอะไรกับผู้ที่สนใจในนาฬิกาในซีรี่ส์นี้ครับ
Mr. Romain Rossat: Skeleton X กับ Freak X มีความพิเศษที่แตกต่างกัน แต่ในครั้งนี้เรานำสองคอลเลคชั่นนี้มาอยู่ร่วมกันอยู่ใน X ซีรี่ส์ เพื่อนำความพิเศษใหม่สู่ตลาดและผู้คนที่รู้จัก ULYSSE NARDIN อย่างไรก็ตามเราก็ยังมีนำเสนอนาฬิการุ่นอื่นๆ ไปพร้อมกันอีกด้วย อย่างเช่นรุ่น Diver ที่มีรุ่นตัวเรือนแบบบลูพีวีดี ที่ไม่ค่อยได้เห็นในตลาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมานัก เหตุผลคือเราอยากให้สีน้ำเงินของตัวเรือนเป็นตัวแทนของทะเลในแบบที่ ULYSSE NARDIN เป็น และสำหรับนาฬิกาเรือนนี้ ถ้าสังเกตดูดีๆ จะเห็นกระจกแบบโดมพร้อมขอบตัวเรือนที่สโลปเข้าหน้าปัดที่อาจดูแปลกตาไปจากทั่วไป แต่วัตถุประสงค์หลักในเรื่องนี้คือเรื่องสำหรับการทำให้มุมมองของนาฬิกาเรือนนี้ โฟกัสไปที่หน้าปัด ซึ่งก็ช่วยสำหรับการอ่านค่าเวลาในขณะที่ทำกิจกรรมต่างๆ ใต้น้ำอีกด้วย ผมหวังว่าทุกคนจะชอบนาฬิการุ่นใหม่ของ ULYSSE NARDIN ในปีนี้ครับ
Mr. Romain Rossat and Dr. Pramote Rienjaroensuk