การเผชิญหน้ากับกาลเวลาของ Dr. Rolf Portmann แห่ง ORIS
อะไรคือความประทับใจครั้งแรกที่มีต่อ ORIS?
ความประทับใจแรกของผมก็คือ ORIS เป็นธุรกิจที่ใหญ่มาก มีพนักงานในตอนนั้นราวๆ 800 คน และยังผลิตแทบทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นชิ้นส่วนของนาฬิกาจักรกลด้วยตัวเองที่เมืองโฮลสไตน์ มีสำนักงานรวมเจ็ดแห่งในเมืองต่างๆ ในเมืองเดีวกัน และมุ่งเน้นไปที่การผลิตเป็นหลักใหญ่ เราทำแม้แต่เครื่องจักรในการผลิต ตลอดจนเครื่องมือต่างๆ ของเราเอง ในช่วงการทำงานครั้งแรกของผมถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับ ORIS
บริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง?
สิ่งที่วิเศษเกี่ยวกับ ORIS นั่นก็คือการที่เรายังคงมีความอิสระเป็นเอกเทศ และยังคงอยู่ที่เมืองโฮลสไตน์ สถานที่ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1904 ซึ่งในช่วงปี 1960 ORIS ถือเป็นบริษัทที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน และก็ยังคงเป็นเช่นนั้นในทุกวันนี้ รากเหง้าของบริษัทยังคงดำรงอยู่ด้วยหลักการและปณิธานตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง การผลิตนาฬิการะบบจักรกล ที่หลอมรวมกระบวนการผลิตเชิงอุตสาหกรรมเข้ากับงานประณีตศิลป์ คุณภาพการผลิตแบบสวิส และราคาที่สมเหตุผล แต่ในปัจจุบันนี้เพิ่มเติมจุดมุ่งหมายที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างตลาด และความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทสวิสผู้ผลิต และบริษัทรายย่อยต่างๆ อีกด้วย
Dr. Rolf Portmann แห่ง ORIS
ช่วงเวลาใดในประวัติศาสตร์ของ ORIS ที่มีความโดดเด่นสำหรับคุณ?
งานที่เราได้ทำเพื่อยกเลิกระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับนาฬิกาสวิสในช่วงปี 1960 ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ที่แทบจะไม่มีการพูดถึงในปัจจุบัน ทว่าในเวลานั้นหมายความถึง ORIS และบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาสวิสอีกหลายแบรนด์ ได้ถูกปลดปล่อยจากกฎระเบียบที่คร่ำครึ และได้เป็นอิสระในการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ให้นาฬิกามีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ถ้าไม่มีช่วงเวลานั้น ประวัติศาสตร์นาฬิกาสวิสก็จะต้องแตกต่างออกไป ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็จะเป็นการเข้าซื้อกิจการร่วมกันของ Ulrich W. Herzog กับผมในช่วงปลายปี 1982 โดยในขณะนั้นเจ้าของแบรนด์ ORIS ซึ่งก็คือ ASUAG ดูเหมือนจะปล่อยให้ ORIS หายไป แต่ด้วยความร่วมมือกัน เราก็ได้สร้าง ORIS ขึ้นมาใหม่ ซึ่งก็หมายถึงการที่เราสามารถสืบสานเรื่องราวที่น่าทึ่งของแบรนด์ขึ้นมาได้อีกครั้ง
Ulrich W. Herzog
คุณแปลกใจไหมที่เป็นเวลากว่า 80 ปีแล้ว ตั้งแต่เปิดตัวนาฬิการุ่น Big Crown Pointer Date ที่ในปัจจุบันนี้ นาฬิการุ่นนี้ก็ยังคงอยู่อย่างแข็งแกร่ง?
ใช่ครับ น่าประหลาดใจมาก คุณจะรู้ได้ยังไงว่า ดีไซน์แบบนี้จะอยู่มาได้นานถึง 80 ปี รูปแบบของดีไซน์มาแล้วก็ไป แต่ Big Crown Pointer Date ยังคงยั่งยืน และมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ผมคิดว่านั่นเป็นเพราะว่าคุณสมบัติพื้นฐานของการออกแบบที่ใช้งานได้คล่องตัวและเปี่ยมประสิทธิภาพพร้อมความสง่างาม ที่ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของ ORIS และเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเข้มแข็งด้านการสืบสานมรดกของบริษัท และความแข็งแกร่งของแบรนด์ไปพร้อมๆ กัน
อาชีพของคุณได้ครอบคลุมช่วงเวลาที่พิเศษ เกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปในประวัติศาสตร์ของประดิษฐกรรมเครื่องบอกเวลา อะไรที่คุณคิดว่าเป็นความลับที่ทำให้เกิดความยั่งยืนของอุตสาหกรรมนี้?
แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา ผู้คนก็ยังไม่สูญเสียความต้องการ หรือความน่าทึ่งของเวลา หรือวัตถุที่เป็นกลจักรที่ใช้ในการบอกเวลา นาฬิการะบบจักรกลนี้มีความเชื่อมโยงกับอดีต และผมคิดว่าผู้คนยังคงมีความประทับใจและชื่นชมกับสิ่งนี้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งในกรณีนี้จะไม่ใช่ว่าการเปลี่ยนแปลงอะไรต่างๆ นั้น จะดีไปทั้งหมด
คุณคิดว่าอะไรเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เผชิญกับประดิษฐกรรมเครื่องบอกเวลาในทุกวันนี้?
อุตสาหกรรมนาฬิกาต้องยังคงมีการปรับตัว เพื่อที่เรื่องราวต่างๆ จะยังคงมีความเชื่อมโยงกันอยู่ตลอดเวลา ระบบดิจิตอล ระบบคอมพิวเตอร์ และสัญญาณต่างๆ นั้นทรงพลังมากในปัจจุบัน และมีคุณประโยชน์มากมายจริง แต่จะไม่สามารถทดแทนงานประณีตศิลป์ที่ผลิตด้วยมือ หรือความสัมพันธ์พิเศษที่เรามีต่อนาฬิการะบบจักรกล เพราะนาฬิกาจักรกลช่วยให้เรามีความเชื่อมั่นในความเป็นอิสระ ดังนั้นอุตสาหกรรมนาฬิกาจะต้องไม่ละสายตาไปจากเรื่องนี้