OMEGA, Celebrating a Name which Born in 1894
จากความหลงใหลในเรื่องความเที่ยงตรงของนาฬิกา Louis Brandt จึงมุ่งมั่นในการพัฒนาเรือนเวลา ที่มีความเที่ยงตรงมากที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถประดิษฐ์ได้ และภายในเวลาไม่ก็ปี ชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาคุณภาพสูงของเขาก็เป็นที่รู้จักไปทั่วสวิตเซอร์แลนด์ และแผ่ขยายไปทั่วยุโรป โดยหลังจากการเสียชีวิตของ Louis Brandt ในปี 1879 บุตรชายทั้งสองคนของเขา Louis-Paul และ César ก็ก้าวขึ้นมากุมบังเหียนธุรกิจของครอบครัว และได้รับอิทธิพลจากแรงบันดาลใจในความหลงใหลที่มีต่อการผลิตเรือนเวลา พร้อมความเที่ยงตรงของบิดา ซึ่งทั้งสองไม่ได้รู้เลยว่า ชะตากรรมของพวกเขาได้ถูกกำหนดมาให้เป็นผู้ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมเรือนเวลาไป
Louis Brandt
ช่วงเวลาสำคัญมาถึงในปี 1894 เมื่อสองพี่น้องสกุล Brandt ทำการเปิดตัวกลไกรุ่นใหม่อย่าง คาลิเบอร์ 19-ลิญจน์ ซึ่งนับว่าเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ เพราะกรรมวิธีการผลิตแบบใหม่ที่นำมาใช้ผลิตคาลิเบอร์ 19-ลิญจน์ ทำให้สามารถผลิตกลไกได้ปริมาณคราวละมากๆ จึงนับเป็นการปฏิวัติวงการและสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับการผลิตเครื่องบอกเวลาโดยทันที ซึ่งไม่เพียงแต่กลไกที่ผลิตจะมีความเที่ยงตรงระดับสูง การเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่กลไกก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้ช่างนาฬิการายใดมาปรับแก้เพิ่มเติม การผสมผสานอย่างสมบูรณ์แบบของระบบขึ้นลาน กับการตั้งเวลาเข้าไว้บนก้านเม็ดมะยมชุดเดียว ยังเป็นนวัตกรรมที่เขย่าวงการการผลิตเครื่องบอกเวลา และได้รับการใช้งานกันอย่างแพร่หลายจวบจนถึงปัจจุบัน โดยมีการจดสิทธิบัตรไว้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมปี 1894
ดังนั้น สองพี่น้องจึงตั้งชื่อความสำเร็จครั้งใหม่ของพวกเขาว่า OMEGA เฉกเช่นเดียวกับอักษรกรีกตัวสุดท้าย เพราะกลไกนาฬิกาของ Omega คือสัญลักษณ์ของความสำเร็จระดับสูงสุด พวกเขามองว่ากลไกรุ่นดังกล่าวคือ “คำตอบสุดท้าย” ของความสำเร็จที่วงการนาฬิกาจะสามารถมีได้ ซึ่งจากกลไกชุดนี้นี่เอง ที่ทำให้ชื่อเสียงของบริษัทขจรขจายไปทั่วโลก และทำให้ทั้งสองมั่นใจว่าความเที่ยงตรงของกลไก และการผลิตแบบปริมาณมากนั้นคืออนาคตของการผลิตเรือนเวลา โดยหลังจากนั้นไม่นานนัก ผู้ผลิตรายอื่นๆ ก็เริ่มตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้ด้วยเช่นกัน
ความสำเร็จของคาลิเบอร์ 19-ลิญจน์ OMEGA นั้นยิ่งใหญ่จนสองพี่น้องตัดสินใจเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น OMEGA Watch Co. ในปี 1903 โดยนับตั้งแต่นั้นมา แบรนด์ OMEGA ก็กลายเป็นผู้ผลิตเรือนเวลาสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยนับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์นาฬิกานำระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรมมาใช้ โดยแบ่งส่วนการทำงานออกเป็นหลายแผนก แต่ละแผนกจะผลิตชิ้นส่วนด้วยความแม่นยำระดับสูง ให้ได้ตรงตามที่ระบุไว้ในใบคุณสมบัติจำเพาะ ดังนั้นอะไหล่แต่ละชิ้นจึงสามารถเปลี่ยนทดแทนกันได้ ทำให้การผลิตกลไกดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในเวลาต่อมา ผู้ผลิตเรือนเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ทั้งหมด จึงได้นำระบบดังกล่าวไปปรับใช้ในการผลิตของตัวเอง
ในด้านความเที่ยงตรง คาลิเบอร์ 19-ลิญจน์ คือตัวแทนของความทุ่มเทที่ OMEGA มอบแก่โลกแห่งความแม่นยำในการบอกเวลา โดยการรถไฟแห่งแคนาดา ยังไว้วางใจให้ OMEGA เป็นผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ส่วนด้านการตกแต่ง คาลิเบอร์ 19-ลิญจน์ ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามสะกดสายตาในหลายรูปแบบ หนึ่งในรูปแบบที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือการตกแต่งแบบ DDR (แบบดามัสคีนนิ่ง) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศสหรัฐอเมริกา และยังคงเป็นการตกแต่งที่ทำได้ยากแม้ในปัจจุบัน
หลังจากที่สายการผลิตกลไกดั้งเดิมถูกปิดลงไปในปี 1923 ชิ้นส่วนกลไกในคลังที่ถูกเก็บรักษามาเกือบหนึ่งศตวรรษได้ถูกนำออกมาจากตู้นิรภัยของพิพิธภัณฑ์ OMEGA ในเมืองเบียน และจะถูกใช้โดยช่างนาฬิกาใน Atelier Tourbillon ของ OMEGA เพื่อทำการรังสรรค์คาลิเบอร์ 19-ลิญจน์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งในปี 2019 นี้
สำหรับสะพานเครื่อง แท่นเครื่อง และจักรกรอกชนิดโลหะคู่ จะใช้ชิ้นส่วนของคาลิเบอร์ 19-ลิญจน์ ดั้งเดิมมาผลิต กลไกนาฬิกาที่ผลิตขึ้นใหม่จึงอัดแน่นไว้ทั้งตัวตนดั้งเดิม และจิตวิญญาณแห่งประวัติศาสตร์โดยแท้จริงอย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังเกี่ยวข้องกับการพัฒนาด้วยเช่นกัน OMEGA มอบความทุ่มเทให้กับการนำเอาคาลิเบอร์ 19-ลิญจน์ กลับมาสู่ศตวรรษที่ 21 ไปพร้อมๆ กับการปรับปรุงครั้งใหญ่ และชิ้นส่วนกลไกใหม่ เช่น ตลับลาน ลาน และสกรูอีกหลายจุด สำหรับทับทิมนาฬิกา และแหวนรองจะถูกผลิตขึ้นใหม่ ระบบชุดเฟืองเองก็จะถูกนำมาคำนวนใหม่ เพื่อให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานปัจจุบัน โดยฟังก์ชั่นของชุดกลไกยังได้รับการพัฒนาครั้งสำคัญ ด้วยการติดตั้งระบบตั้งเข็มนาฬิกาของสวิสอันนำสมัยที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในคาลิเบอร์ 19-ลิญจน์
ในขั้นตอนสุดท้าย ทาง OMEGA จะทำการตกแต่งกลไกแบบ “ดามัสคีนนิ่ง” อย่างพิถีพิถัน รูปแบบเดียวกันกับที่ OMEGA ได้นำมาประยุกต์ใช้เป็นครั้งแรกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และเป็นดั่งคำมั่นสัญญาถึงคุณภาพที่เหนือระดับ ดังนั้นแล้ว คาลิเบอร์ 19-ลิญจน์ ที่ผลิตขึ้นใหม่จะถูกนำไปใช้กับเรือนเวลารุ่นใดกัน?