ชีวิตต้องมีสีสัน!!!
By Dr. Attawoot Papangkorn
ตั้งแต่อดีต ผู้ผลิตมักจะเน้นการออกแบบไปที่ความหรูหรา สุขุม และภูมิฐาน สีที่ใช้ต้องไม่ฉูดฉาด และเกือบทุกครั้งที่เปิดกล่องนาฬิกาของใครขึ้นมาที สีสันที่เห็นก็คงจะหนีไม่พ้น ดำ เงิน และทอง จนอดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้านาฬิกามีตัวเรือนสีอื่นบ้าง ความสุขุม และภูมิฐาน จะถูกลดทอนลงไปจริงๆ เหรอ แล้วถ้าความมีสีสันนั้นบั่นทอนภาพพจน์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ลงไป ทำไมผู้ผลิตนาฬิการะดับสูง ที่เน้นความหรูหรามาโดยตลอดอย่าง Richard Mille ถึงตัดสินใจออกคอลเลคชั่น Bonbon ที่อุดมไปด้วยสีสันที่ฉูดฉาด และหวานแหววซะเหลือเกิน ซึ่งก็ใช่ว่าจะมีแต่แค่ Richard Mille ที่กล้าหาญและพร้อมจะสร้างความพิเศษให้กับแบรนด์ของตัวเองเท่านั้น
ADN Spirit Blue DLC
Manufacture Royale แบรนด์นาฬิกาเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 200 ปี ที่ในอดีตเคยผลิตนาฬิกาให้กับทั้งราชวงศ์ ฑูต และมหาเศรษฐีต่างๆ และถูกนำกลับมาชุบชีวิตอีกครั้งโดย Mr. David Gouten พร้อมการสร้างชื่อเสียงด้วยเทคโนโลยีที่มีความเที่ยงตรงสูง โดยเน้นเฉพาะกลไกตูร์บิยอง ที่นิยมใช้ในเครื่องบอกเวลาระดับไฮเอนด์เท่านั้น ซึ่งในตลาดนาฬิการะดับสูง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้ผลิตนาฬิกาต่างก็พยายามนำเสนอความพิเศษให้กับแบรนด์ของตัวเองด้วยการนำเสนอนาฬิการุ่นพิเศษ หรือสีพิเศษที่มีจำนวนจำกัดเช่น ตัวเรือนแบบพีวีดีหรือดีแอลซี ที่สร้างความดุดัน แต่ยังคงความพรีเมี่ยมให้กับนาฬิกาไว้ได้เป็นอย่างดี จึงไม่แปลกที่การนำเสนอนาฬิการุ่นพิเศษในลักษณะนี้ จะได้รับความนิยมเสมอมา ซึ่งสำหรับ Manufacture Royale แล้ว การสร้างสรรค์ผลงานจะไม่ได้มีข้อจำกัดแค่เพียงการผลิตตัวเรือนแบบพีวีดีหรือดีแอลซี แต่อยากจะทำอะไรที่แตกต่างมากกว่าความเป็นสีดำ รวมไปถึงพัฒนาเทคนิคในการผลิตสีตัวเรือน ให้ล้ำหน้ากว่าเดิมจนมีคุณสมบัติที่ดีกว่า PVD และเป็นที่มาของนาฬิการุ่น ADN Spirit คอลเลคชั่นนาฬิการุ่นล่าสุดจาก Manufacture Royale ที่มีกรรมวิธีของการผลิตสีตัวเรือนที่ล้ำหน้า นั้นก็คือเทคนิคแซนบลาส์ท ซึ่งต้องอาศัยความประณีตในการผลิตอย่างมาก เพราะความผิดพลาดเพียงน้อยนิดในขั้นตอนการผลิตนั้น สามารถสร้างความเสียหายจนไม่สามารถนำตัวเรือนกลับมาใช้ได้อีก และคุณสมบัติที่พิเศษยิ่งไปกว่า คือปราศจากการหลุดลอกของสีเมื่อผ่านการใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ และที่สร้างความเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมากที่สุดนั่นก็คือ ADN Spirit เลือกใช้สีน้ำเงินเป็นสีหลัก ทั้งตัวเรือนและหน้าปัด (ในบางรุ่น) ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนกับการเป็นนาฬิกาแบบทั้งเซ็ทในหลากหลายรุ่นพร้อมๆ กัน
Micromegas Mega Blue
แต่ในระยะหลังมานี้ กระแสของความเฉพาะตัว (ยูนีค) ด้วยการสร้างให้มีสีสัน (ฉูดฉาด) ก็เริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในหลากหลายผลิตภัณฑ์ ทั้งเสื้อผ้า รถยนต์ ของใช้ในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่นาฬิกา ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า การสร้างจุดเด่นให้กับแบรนด์ในลักษณะนี้ จะได้การตอบรับที่ดีมากน้อยแค่ไหน เพราะการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของแบรนด์ก็ใช่ว่าจะมีผลดีเสมอไป เพราะหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ถ้าไม่รุ่งก็อาจจะร่วงไปเลย เนื่องจากคำว่ากระแสหรือเทรนด์ นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงบ่อย เร็ว และรุนแรงเสมอ จนอดสงสัยไม่ได้ว่า กระแสที่จะได้รับความนิยมต่อไปคืออะไร เพราะเรื่องนี้คงเป็นวัฏจักรของโลกใบ ที่ทุกสิ่งจะต้องหมุนเวียนเปลี่ยนผ่าน และถูกนำกลับมาใหม่อีกครั้งในอีกช่วงเวลาหนึ่ง โดยมีการทำให้ดีกว่าเดิมในบริบทต่างๆ กันไป ซึ่งแน่นอนว่า จะไม่มีสิ่งใดที่คงอยู่อย่างยั่งยืนและจากไปอย่างถาวร โดยอาจบอกได้ว่า นี่คือแรงผลักดันส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “พัฒนาการ” ของสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้
Androgyne Full Blue