Big Crown Pointer Date in Bronze เรือนเวลาสําหรับผู้ที่มีสไตล์พิเศษเฉพาะตัว

 

เรื่องราวของ Oris และการบินเชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่นตั้งแต่ที่ Oris เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1904 ในยุคเริ่มต้นของการบิน โดยทําการผลิตนาฬิกาพกสําหรับนักบินเรือนแรกขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1910 และต่อมาจึงเริ่มการผลิตนาฬิกาข้อมือสําหรับนักบินในปี 1917 ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ประกอบด้วยกลไกอัจฉริยะที่สามารถปรับตั้งเวลาได้ด้วยปุ่มกดด้านข้างตัวเรือนที่ตําแหน่ง 2 นาฬิกา ประดิษฐกรรมในรูปแบบเดียวกันนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนาฬิการุ่น Oris Big Crown ซึ่งเผยโฉมเป็นครั้งแรกในปี 1938 เม็ดมะยมขนาดใหญ่พิเศษช่วยให้นักบินที่ต้องสวมถุงมือสามารถปรับตั้งเวลาได้รวดเร็วและง่ายดาย และทำให้คอลเล็คชั่นนาฬิกาสําหรับนักบินของ Oris นี้เปี่ยมด้วยนวัตกรรมที่เป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจจากนักบินทั่วโลก

01 754 7749 3167 07 5 17 66BR Oris Big Crown Pointer Date LowRes 8210

 

นาฬิกา Oris Big Crown Pointer Date รุ่นใหม่ตัวเรือนบรอนซ์ยังมาจากเรื่องราวในช่วงปี 1980 ซึ่งเป็นจุดพลิกผันเพื่อดําเนินการตามพันธกิจในการเป็นหัวหอกสําคัญในการเป็นผู้นําในเรื่องคุณค่าที่เป็นนิรันดร์สำหรับนาฬิกากลไกเพื่อเผชิญหน้ากับการมาถึงของกลไกควอท์ซ ด้วยรูปแบบของตัวเรือนทรงกลมที่อ่อนโยนและความเพรียวของขาสาย เบเซิลแบบเหรียญ และมะยมขนาดใหญ่พิเศษ และหน้าปัดที่ใช้ประโยชน์ได้ดีจากเข็มชี้บอกวันที่จากจุดศูนย์กลางที่เป็นหนึ่งในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถจดจําได้มากที่สุด อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มีความโดดเด่นมากที่สุดเรือนหนึ่งจากคอลเล็คชั่นที่มีมาทั้งหมดจาก Oris

 

gtgt

 

Oris Big Crown Pointer Date โฉมใหม่รังสรรค์ขึ้นสําหรับคนหนุ่มสาวยุคใหม่ที่มีสไตล์ มีความคิดก้าวไกลในด้านนาฬิกากลไก นักออกแบบของโอริสได้ทําการปรับปรุงรูปแบบของตัวเรือนให้มีความเพรียวบาง นุ่มนวลยิ่งขึ้น และสง่างามแนบรับไปกับข้อมือ ยิ่งไปกว่านั้นรูปทรงที่มีความร่วมสมัยได้ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยกระจกแซฟไฟร์คริสตัลทรงโค้ง รูปลักษณ์ที่ส่งเสริมความงามตามแบบโบราณของนาฬิกา และความรู้สึกถึงความทันสมัยด้วยเช่นกัน

 

01 754 7749 3167 07 5 17 66BR Oris Big Crown Pointer Date Original 8262

 

นอกจากนี้ยังมีการเลือกใช้วัสดุบรอนซ์ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามเวลาที่ผ่านไป บรอนซ์จะทําให้เกิดคราบหรือริ้วรอยที่เกิดจากการทําปฏิกิริยากับความชื้นในอากาศ และกับค่าความเป็นกรดด่างของผิวหนังของผู้ที่สวมใส่ ด้วยสาเหตุนี้ตามเวลาที่ผ่านไปจะไม่มีนาฬิกาเรือนใดที่เหมือนกัน นาฬิกาแต่ละเรือนจะกลายเป็นนาฬิกาที่มีความพิเศษเฉพาะตัวของผู้สวมใส่ เช่นเดียวกับขนาดตัวเรือนบรอนซ์ที่ 36 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเขียวอ่อนที่ได้แรงบันดาลใจจากคีย์บอร์ดที่ Le Corbusier’s Polychromie architecturale ที่ทําให้เกิดมิติของความล้ำสมัยและทันสมัยตอบสนองความต้องการของผู้ที่มีความมุ่งมั่นได้อย่างตรงจุด