Legend for Generation

 

By: Dr. Pramote Rienjaroensuk

 

ตอนช่วงปี 1998 ผมมีโอกาสติดตามคุณพ่อเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ยุโรป และหลังจากเสร็จสิ้นงานแล้ว เมื่อมีโอกาสเราจึงมีโอกาสเดินเล่นและผ่านหน้าร้านนาฬิกาในเมือง คุณพ่อผมเดินดูนาฬิกาที่ในตอนนั้นผมแทบไม่รู้จักเลย จำได้แต่ว่าอะไรที่ลงท้ายด้วยคำว่า.. เก้ ดูจะเป็นนาฬิกาที่ดี ซึ่งมารู้ทีหลังว่าคือ Piaget และ Audemars Piguet นอกจากนั้นก็มี Chopard และ Patek Philippe ที่นอกเหนือจาก Rolex ที่ผมรู้จักดีอยู่แล้ว

  

ในจำนวนนาฬิกาเหล่านี้ มีอยู่เรือนนึง ภายใต้แบรนด์ Omega ที่คุณพ่อบอกว่าสวยมาก ที่น่าจะได้ความประทับใจมาจากภาพโฆษณาทั้งในนิตยสารต่างประเทศ และในป้ายโฆษณาทั่วไปในต่างประเทศ ซึ่งในขณะนั้นความรู้สึกของผมคือเป็นนาฬิกาที่ดูหรูหรา ดูดี ดูเป็นนาฬิกาสปอร์ต และดูไม่ค่อยเหมาะกับผมเท่าไหร่ แต่จำได้ว่าคุณพ่อฝังใจกับนาฬิกาเรือนนี้พอสมควร

  

ww

  

มาถึงปี 2000 ที่ผมมีโอกาสไปทำงานที่สิงคโปร์และคุณพ่อเอ่ยถึงนาฬิกาเรือนนี้อีกครั้งในทำนองที่ว่าถ้าเห็นก็ลองดูๆ ให้หน่อย ผมจึงไม่ลังเลที่จะพุ่งไปหานาฬิการุ่นนี้โดยเฉพาะและต้องยอมรับว่าหาซื้อได้ไม่ง่ายนักเพราะผลิตออกมาตั้ง 7 ปีแล้ว แต่ในที่สุดก็หาให้คุณพ่อจนได้ จนมาเป็นที่มาของความเป็นเจ้าของนาฬิกาเรือนงามเรือนนี้

 

IMG 3586

 

Omega ผลิตนาฬิกา Seamaster 300M Chronograph เรือนนี้ออกสู่ตลาดในปี 1993 เพื่อเป็นนาฬิการุ่นสูงในกลุ่ม (ซึ่งจริงๆ ก็มีแบบตัวเรือนทองคำทั้งเรือนด้วยเหมือนกัน) แต่เรือนนี้นับว่าเด่นกว่าจากความที่เป็นนาฬิกากลไกโครโนกราฟ (มีแบบรุ่นสามเข็มให้เลือกด้วย) และที่สำคัญคือวัสดุตัวเรือนที่โดดเด่นทั้งไทเทเนียม พิ๊งค์โกลด์ และแทนทาลัม คือเป็นแบบสามกษัตริย์นั่นเอง (วัสดุทั้งหมดมีตั้งแต่สตีล ไทเทเนียม เยลโลว์โกลด์ พิ๊งค์โกลด์ และแทนทาลัม) ซึ่งในยุคนั้น แทนทาลัมนับว่าเป็นวัสดุที่พิเศษและมีแบรนด์นาฬิกาไม่มากที่นำเสนอวัสดุนี้สู่ตลาด เนื่องจากสีสันของแทนทาลัมที่ออกโทน น้ำเงิน-เทา ที่คู่ขนานไปกันกับสีเทาของวัสดุอย่างไทเทเนียมได้อย่างดี พร้อมๆ กับการตัดโทนสีด้วยวัสดุพิ๊งค์โกลด์ (ซึ่งในยุคนั้นก็ยังไม่ค่อยมีแบรนด์ไหนนำเสนอมากเหมือนในปัจจุบัน) และนำเสนอในราคาค่าตัวที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกันกับวัสดุทองคำล้วนซึ่งเข้าใจได้ทันทีว่าน่าจะเป็นรุ่นสูงสุด โดย นาฬิกา Omega Seamaster 300M Chronograph, Ref. 2296.80 เรือนนี้ใช้กลไก Omega คาลิเบอร์ 1164 (เบสจาก ETA/Valjoux 7750) ซึ่งในขณะนั้น Omega ยังไม่เริ่มพัฒนากลไกสำหรับตัวเองอย่างจริงจัง

 

IMG 3555

 

และในปี 2004 ในวันที่ผมได้รับตำแหน่งแฟนพันธุ์แท้จากรายการแฟนพันธุ์แท้นาฬิกา คุณพ่อก็ส่งนาฬิกาเรือนนี้มาให้ผมเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าเป็นของขวัญและเป็นสิ่งที่จะทำให้ผมระลึกได้ถึงความสำเร็จในครั้งนั้น รวมทั้งเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่จะถูกส่งต่อเป็นทอดๆ ต่อไป และต่อไป...

 

IMG 3563

 

IMG 3559

 

IMG 3560 copy

 

IMG 3601