No Mystery, Just Only Craftsmanship for More Than Two Centuries
By Rose Panattha
Girard-Perregaux มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนานนับเป็นอันดับต้นๆ ของแบรนด์นาฬิกาต่างๆ ซึ่งนั่นก็หมายถึงผลงานด้านต่างๆ ที่โดดเด่นมาตลอดช่วงระยะเวลาอันยาวนานนี้ และในปี 1975 ก็เป็นอีกหนึ่งปีในหน้าประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ที่ Girard-Perregaux ได้นำเสนอนาฬิกาแนวสปอร์ตที่มาพร้อมกับขอบเบเซิลทรง 8 เหลี่ยมสะดุดตา พร้อมกับสายที่ผลิตจากวัสดุเดียวกันกับตัวเรือนและผนึกเข้ากับตัวเรือนอย่างไร้รอยต่อ อันเป็นหนึ่งในคุณสมบัติหลักของนาฬิกาสปอร์ตในยุคนั้น และเป็นต้นแบบของการนำสปอร์ตคอลเลคชั่นนี้มานำเสนอใหม่อีกครั้ง ในรูปแบบที่ยังคงความเป็น Laureato ได้อย่างครบถ้วนทุกประการ
Laureato นาฬิกาไลน์สปอร์ตที่ยังคงความคลาสสิคและหรูหราไปพร้อมๆ กันสำหรับคุณสุภาพสตรีเรือนนี้ ยังคงตัวเรือนในรูปแบบขัดซาตินสลับขัดเงา เติมแต่งความเป็นนาฬิกาสไตล์เจเวลรี่ด้วยการประดับเพชรต่างขนาดกันที่ขอบเบเซิลทรง 8 เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของนาฬิการุ่นนี้ ซึ่งการเลือกใช้เพชรจำนวน 56 เม็ดที่ต่างขนาดกันนี้ (รวม .82 กะรัต) ยังเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ความระยิบระยับนั้น สามารถเปล่งประกายความงดงามออกมาได้อย่างครบถ้วน เนื่องจากเพชรต่างขนาดนั้น จะต้องมีองค์ประกอบ ขนาด สีสัน และความสะอาด ที่แตกต่างกันไป แต่เมื่อนำมาเทียบเคียงกันแล้ว ต้องทำให้เกิดประกายความงดงามได้ในระดับที่สูงที่สุด และอีกส่วนสำคัญและโดดเด่นที่สุดของนาฬิการุ่นนี้ ก็คือการใช้กระจกแซฟไฟร์คริสตัลที่ฝาหลังตัวเรือน เพื่อให้สามารถเห็นแท่นกลไกคาลิเบอร์ GP013100-0004 ซึ่งได้รับการตกแต่งเป็นพิเศษเฉพาะรุ่นของนาฬิกาเรือนนี้ได้อย่างชัดเจนและโดดเด่นเป็นที่สุด
LAUREATO 34 mm Royalty Ref. 80189D11A433-11A
ซึ่งแม้ว่านาฬิการุ่นนี้ จะเลือกใช้กลไกแบบควอทซ์ก็ตาม ทาง Girard-Perregaux ก็ยังยืนยันที่จะแสดงให้เห็นถึงความประณีตในรายละเอียดที่ทาง Girard-Perregaux ใส่ใจกับนาฬิกาในทุกรุ่น โดยเฉพาะกับนาฬิการุ่นนี้ ที่เป็นหนึ่งในตำนานของกลไกควอทซ์สำหรับ Girard-Perregaux และวงการนาฬิกา และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการร่วมปฏิวัติวงการ และริเริ่มการผลิตกลไกควอทซ์ป้อนตลาดในยุคที่กลไกควอทซ์รุ่งเรือง โดยทาง Girard-Perregaux ได้เริ่มใช้กลไกควอทซ์เป็นครั้งแรกในช่วงปี 1970s และนำมาใช้กับนาฬิกาสุภาพสตรีในขนาดที่เล็กลงเป็นครั้งแรกในปี 1978
โดยตัวเรือนขนาด 34 มิลลิเมตรของนาฬิการุ่นนี้ ถือเป็นขนาดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณสุภาพสตรีที่หลงใหลในความงามแบบกุลสตรีผู้ใส่ใจในความละเอียดอ่อน และยังแสดงให้เห็นถึงความอ่อนช้อยของข้อมืออันเรียวเล็กของคุณสุภาพสตรีได้อย่างโดดเด่น โดยบานพับแบบสามตอนด้านล่างของตัวเรือน ยังอ่อนช้อยและช่วยประครองข้อมืออันเรียวเล็กได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้การสวมใส่เป็นไปได้อย่างคล่องตัว และจุดที่โดดเด่นที่สุดของนาฬิกาเรือนนี้คือการเลือกใช้หน้าปัดแบบแล็กเกอร์สีน้ำเงินที่เปล่งประกายโดดเด่น และสะดุดตากับทุกคนที่พบเห็นได้ในทันที
LAUREATO 34 mm Royalty Ref. 80189D52A434-52A