THE VISIT ULYSSE NARDIN MANUFACTURE เยือนโรงงานนาฬิกานาวิก
By: Dr. Pramote Rienjaroensuk & Viracharn Termpipatpong
"ในบรรดาแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่ของโลกที่มีอายุเกินกว่าศตวรรษนั้น แม้ปัจจุบันจะยังคงมีการผลิตนาฬิกาภายใต้ชื่อแบรนด์เหล่านั้นอยู่หลายแบรนด์ด้วยกัน แต่ทว่าความขลังของหลายต่อหลายแบรนด์ก็ได้ลดน้อยถอยลงไปตามกาลเวลา อาจด้วยจากโครงสร้างการบริหารที่เปลี่ยนสู่การควบคุมขององค์กรใหญ่จนหลายแบรนด์แทบจะไม่เหลือความเป็นตัวตนจากรากฐานอันเก่าแก่อยู่เลย แต่ก็มีบางแบรนด์ครับที่ถูกบริหารต่อโดยผู้รักนาฬิกาอย่างแท้จริงโดยดำรงตนเป็นบริษัทผลิตนาฬิกาอิสระและมีเจตจำนงค์อันแน่วแน่ที่จะธำรงรักษาแก่นแท้ของแบรนด์เอาไว้ หนึ่งในนั้นก็คือ Ulysse Nardin แบรนด์ที่ทาง IAMWATCH ได้มีโอกาสไปเยือนโรงงานของเขามาเมื่อเร็วๆ นี้"
ชื่อเสียงของ Ulysse Nardin แต่เก่าก่อนนั้นโด่งดังในด้านการผลิตนาฬิกาความเที่ยงตรงสูงสำหรับใช้ในการเดินเรือ (Marine Chronometer) เป็นพิเศษ ถึงขนาดที่ว่ากองทัพเรือถึง 50 ประเทศในสมัยกลางศตวรรษที่ 18 ต่างไว้วางใจให้นาฬิกาจากผู้ผลิตในมณฑลเนอชาแตล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แห่งนี้ เข้าประจำการบนเรือของพวกเขา ล่วงเลยมาจนถึง ค.ศ.1983 เมื่อทาง Rolf W. Schnyder ได้เข้าซื้อกิจการของ Ulysse Nardin เขาได้นำพาแบรนด์ให้เจริญก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่องโดยมีนักประดิษฐ์ยอดฝีมืออย่าง Dr. Ludwig Oechslin เป็นคู่ใจในการสร้างนาฬิกาที่มีความเลิศล้ำทั้งในด้านวิศวกรรมและดีไซน์ออกมาให้กับชาวโลกได้ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับของวงการ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ปัจจุบันนี้ Ulysse Nardin เป็นเจ้าของรางวัลต่างๆ มากมายกว่าสี่พันรายการและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นวัตกรรมชิ้นส่วนและระบบกลไกต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็รวมถึงการเป็นผู้บุกเบิกในการนำวัสดุซิลิคอนมาใช้ทำชิ้นส่วนของกลไกด้วย และในปัจจุบันก็กำลังเป็นช่วงเวลาที่ทางแบรนด์ได้นำกลไกอินเฮ้าส์ของตนเองเข้ามาใช้งานในนาฬิการุ่นทั่วๆ ไปของตนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และก็คงจะประจำการอยู่ในนาฬิกาทุกแบบของแบรนด์ในไม่ช้าเพื่อก้าวขึ้นสู่ความเป็นแมนูแฟคตูร์อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้งานในด้านศิลปะการลงยาบนหน้าปัดนาฬิกาก็เป็นที่เลื่องลือไปทั่วหล้าด้วยผลงานจากฝีมือของ Donzé Cadrans ยอดฝีมือด้านงานอีนาเมล บนหน้าปัดนาฬิกา ทำให้นาฬิกาหน้าปัดอีนาเมลของแบรนด์กลายเป็นที่ปรารถนาของผู้รักงานศิลปะบนเรือนเวลาทั่วโลก ที่ Ulysse Nardin มีวันนี้ได้นั้นต้องยกเครดิตให้กับ Rolf ที่ตัดสินใจยื่นมือเข้ามารักษา Ulysse Nardin เอาไว้และทะนุบำรุงจนรุ่งเรือง แม้เขาจะจากไปแล้วด้วยวัย 75 ปี เมื่อปี 2011 ในขณะที่เขายังคงเป็นทั้งประธานและซีอีโอของบริษัท แต่จิตวิญญาณของเขาก็ยังคงสถิตย์อยู่กับแบรนด์ที่ถูกสืบทอดกิจการต่อโดย Chai Schnyder ภรรยาของเขาซึ่งก้าวขึ้นทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการบริหาร และ Patrik P. Hoffmann ซึ่งทำงานกับ Rolf มากว่าสิบปี ที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งซีอีโอ ร่วมกันทำหน้าที่นำพานาวาลำนี้สู่ความรุ่งเรืองต่อไปตามเจตนารมณ์ของ Rolf
โรงงานของ Ulysse Nardin ในปัจจุบันนั้น ถูกแบ่งส่วนงานต่างๆ ออกเป็น 2 โรงงานด้วยกัน ซึ่งก็ตั้งอยู่ไม่ห่างจากกันมากนัก แห่งแรกนั้นเป็นโรงงานเก่าแก่ดั้งเดิมของ Ulysse Nardin ใน เลอ ล็อคล์ ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1864 ส่วนแห่งที่สองซึ่งเริ่มเปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2002 นั้นตั้งอยู่ใน ลา โชซ์-เดอ-ฟงด์ส โดยถูกวางรูปแบบเอาไว้ตั้งแต่เริ่มสร้างว่าจะต้องเป็นโรงงานที่มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเพื่อสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ได้เสมอ และจะต้องสามารถผลิตชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดของนาฬิกาได้ นับว่าเป็นวิสัยทัศน์และความปรารถนาอันแรงกล้าของ Rolf ที่ต้องการสร้างให้ Ulysse Nardin เป็นผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำของโลกอย่างแท้จริง
โรงงานที่ ลา โชซ์-เดอ-ฟงด์ส นั้น ประกอบด้วยส่วนงานทางด้านวิจัยและพัฒนา, ส่วนงานผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ด้วยเครื่องจักรอันทรงประสิทธิภาพจำนวนมากตั้งแต่เครื่องจักรอัตโนมัติขนาดใหญ่ไปจนถึงเครื่องมือเฉพาะทางที่ต้องใช้งานโดยช่างผู้ชำนาญ, ส่วนงานควบคุมคุณภาพของชิ้นส่วน, ส่วนงานประกอบกลไก และส่วนงานประกอบนาฬิกา ในขณะที่โรงงานดั้งเดิมที่ เลอ ล็อคล์ จะเป็นส่วนงานตรวจสอบคุณภาพขั้นสุดท้ายซึ่งจะเป็นการตรวจสอบว่านาฬิกาที่ผลิตออกมามีคุณสมบัติถูกต้องตามสเป็คหรือไม่ทั้งในด้านความสมบูรณ์ของรายละเอียดทุกส่วนและการทำงานของกลไก, ส่วนงานประกอบกลไกและประกอบนาฬิการุ่นพิเศษรวมถึงนาฬิกาคอมพลิเคท อันซับซ้อนจำพวกนาฬิกาตูร์บิยอง นาฬิการีพีทเตอร์ นาฬิกา Sonata นาฬิกา Freak และส่วนของงานเซอร์วิสหลังการขาย โรงงานทั้ง 2 แห่งนี้ เต็มไปด้วยพนักงานรวมกว่าร้อยชีวิต ซึ่งรวมถึงช่างนาฬิกามากฝีมือหลายสิบท่านด้วย ผลผลิตนาฬิกานับหมื่นเรือนต่อปีของ Ulysse Nardin ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ทั้งสิ้น
เมื่อได้ไปเห็นกระบวนการผลิตของนาฬิกา Ulysse Nardin ด้วย ตัวเองแล้ว ก็นึกชื่นชมในตัวของ Rolf W. Schnyder ที่เขาสามารถสืบสานตำนานแห่งนาฬิกาเก่าแก่ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1846 แบรนด์นี้ให้มีลมหายใจต่อไปไม่เลือนหายไปในกาลเวลา ที่สำคัญคือยังคงรักษาตัวตนและจิตวิญญาณแห่งรากฐานความเป็นนาฬิกานาวิกอันแสนเที่ยงตรงแม่นยำเอาไว้ได้อย่างเต็มภาคภูมิไปพร้อมๆ กับการคิดค้นรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งในด้านวัสดุและระบบกลไก ตลอดจนสรรสร้างงานศิลปะสุดวิจิตรบนหน้าปัดนาฬิกาออกมาให้โลกได้ทึ่งกันอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา โลกแห่งนาฬิกาจะไม่ลืมคุณอย่างแน่นอนครับคุณ Rolf และทางเราก็ขอเอาใจช่วยให้ครอบครัวของคุณ Rolf นำพานาวานาม Ulysse Nardin ให้เจริญรอยรุ่งเรืองตามแนวทางตลอดเกือบ 30 ปีที่กัปตัน Rolf วางเอาไว้ต่อไปอย่างไร้อุปสรรคคลื่นลมใดๆ ครับ เชื่อว่าดวงวิญญาณแห่งคุณ Ulysse Nardin ช่างนาฬิกาผู้เชี่ยวชาญด้านการประดิษฐ์นาฬิกาสำหรับการเดินเรือซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ก็คงจะเอาใจช่วยอยู่เช่นเดียวกัน