THE VISIT รื่นรมย์ชมเรือนเวลา กับ HUBLOT
By: Dr. Pramote Rienjaroensuk
"บางทีถ้าคุณมีไลน์นาฬิกาหลากหลาย มีทั้งแบบสปอร์ต มีทั้งแบบสุภาพสตรี แล้วก็มีทั้งแบบเดรสหรูหรา มันก็น่าจะเป็นการยากในการทำตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการโฟกัสไปที่กลุ่มนาฬิกาประเภทใด ก็จะกลายเป็นปัญหาของนาฬิกากลุ่มประเภทอื่นไปทันที”
Mr. Jean-Claude Biver เคยคุยเรื่องนี้กับผมมาก่อน เมื่อผมมีคำถามว่าทำอย่างไร Hublot จึงประสบความสำเร็จในตลาดได้อย่างรวดเร็ว
Mr. Jean-Claude Biver
“อยากรู้มั้ยทำไม ก็เพราะเรามุ่งมั่นแต่นาฬิกาสปอร์ต ผมชอบนาฬิกาสปอร์ตและความตื่นเต้นของความเป็นเกมกีฬาแบบสปอร์ต และนั่นเป็นสิ่งที่ Hublot ถนัดที่สุดและจะเป็นแนวทางที่เด่นที่สุดของเรา” เขาเฉลยให้ผมฟังอย่างตรงไปตรงมาตามสไตล์ Mr. Biver ตัวจริง และสิ่งสุดท้ายที่เขาบอกผมไว้ก็คือ “มาดูโรงงานของเราที่นียอง (Nyon) สิ คุณจะได้เข้าใจถึงสิ่งที่เราสร้างและทำ มันง่ายกว่าการที่ผมต้องอธิบายอีก 3 ชั่วโมงด้วยซ้ำ” เขาพูดชักชวนแบบจริงใจและทำให้ผมคิดมาตลอดว่าจะต้องหาเวลาไปโรงงานแห่งนี้ให้ได้เพื่อพิสูจน์ในสิ่งที่เขาบอก จริงๆ แล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมไปสวิตเซอร์แลนด์ก็มีโอกาสได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานนาฬิกาทันที และจำได้แม่นเลยว่ามันทำให้ความรักในนาฬิกาของผมฝังตัวลึกเข้าไปในหัวใจจนไม่มีวันลืมเลือนได้อย่างแน่นอน เพราะโรงงานนาฬิกาบอกได้มากกว่าแค่คำว่าการผลิต มากกว่าแค่คำว่าละเอียด และมากกว่าแค่คำว่าพัฒนาการที่ตีกรอบความหมายจนไม่สามารถเห็นได้ถึงรายละเอียดที่เกินจะพรรณนา
โรงงาน Hublot ที่นียองอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2010 ภายหลังจากที่มีการปรับปรุงสายการผลิตต่างๆ จนหมดซึ่งรวมไปถึงการผนวกรวมกิจการของกลุ่ม BNB ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตกลไกนาฬิกาแบบคอมพลิเคชั่นมาก่อนหน้านี้แล้ว และเมื่อเข้ามารวมกิจการกับ Hublot ด้วยก็ทำให้สายการผลิตนาฬิกาแบบคอมพลิเคชั่นของ Hublot สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นโดยยังคงยึดรูปแบบดั้งเดิมของนาฬิกา Hublot ที่เน้นความเป็นสปอร์ตไว้ได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง (Hublot แปลว่าหน้าต่างเรือ เนื่องจากนาฬิกาถูกออกแบบขึ้นตามรูปลักษณ์ของหน้าต่างเรือมาตั้งแต่ปี 1980) อีกทั้งการรวมกิจการของ BNB เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Hublot ยังทำให้เกิดการพัฒนากลไกอินเฮ้าส์ของตัวเองในนาม UNICO ที่นอกจากจะมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อใช้กับนาฬิกาของ Hublot เองแล้ว ยังมองการณ์ไกลไปถึงการให้แบรนด์อื่นมาใช้กลไกนี้อีกด้วย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเนื่องจาก BNB เองก็มีทีมช่างนาฬิกามากประสบการณ์ที่พร้อมจะสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างอยู่แล้ว
และถึงแม้ว่า Hublot จะอยู่ภายใต้กลุ่ม LVMH ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีกิจการอันหลากหลายในระดับลักชัวรี่ แต่ Hublot ภายใต้การนำของ Mr. Jean-Claude Biver ก็ไม่เคยทำให้แฟนๆ ผิดหวังเลย ด้วยแนวทางการตลาดที่แตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อได้เจอตัวจริงของเขา และ Mr. Biver นี่เองที่สร้างสิ่งใหม่ให้กับวงการอีกครั้งเมื่อเขาตัดสินใจยกทีมงานการพัฒนาเรื่องวัสดุศาสตร์ของสถาบันเทคโนโลยีแห่งโลซานน์ (Swiss Federal Institute of Technology Lausanne) เข้ามาอยู่ภายในโรงงาน จริงๆ แล้วสถาบันแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ทำการพัฒนาเรื่องวัสดุศาสตร์มาโดยตลอดซึ่งหลายต่อหลายครั้งแบรนด์นาฬิกาดังทั้งหลายต่างก็เคยใช้บริการจนเราพาลคิดไปว่าแบรนด์ดังต่างๆ นั้นพัฒนาด้วยตัวเอง วัสดุอย่างเมจิกโกลด์ (Magic Gold) ซึ่งเป็นชื่อที่ทาง Hublot ตั้งขึ้นมา เป็นวัสดุใหม่ที่ถูกสร้างตามแนวคิดของ Hublot ซึ่งเป็นนาฬิกาสปอร์ต Mr. Biver บอกว่า “Hublot เป็นนาฬิกาสปอร์ต ดังนั้นหากเป็นนาฬิกา Hublot ที่ใช้ตัวเรือนทำจากทองคำ ก็ต้องเป็นทองคำที่แข็งแกร่งที่สุด” Mr. Senad Hasanovic วิศวกรประจำแผนกพัฒนาวัสดุศาสตร์ของ Hublot เล่าให้เราฟัง ในแผนกนี้เรายังได้เห็นการพัฒนาการด้านการเคลือบแบบกัลวาไนซ์ (Galvanoplasty) ที่ Hublot พัฒนามาแล้วช่วงหนึ่งและเริ่มนำมาใช้กับชิ้นส่วนที่สำคัญบางชิ้นไปแล้วและเชื่อว่าจะได้เห็นอย่างเด่นชัดขึ้นอีกในเร็ววันนี้ นอกจากนี้ อุปกรณ์ในการพัฒนาวัสดุเหล่านี้กว่าครึ่งก็เป็นเครื่องจักรประเภทที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อการนี้ทั้งสิ้น เช่น เตาหลอมความร้อนสูงหรือแม่พิมพ์ชนิดต่างๆ ที่เป็นมากกว่าอุปกรณ์ทั่วไปที่ใช้ในโรงงานอื่นๆ “เราต้องพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้ให้เหมาะสมกับงานด้วย และเนื่องจากสิ่งที่เราทำค่อนข้างแตกต่างจากวัสดุทั่วๆ ไป กว่า 50% จึงเป็นเครื่องจักรที่เราต้องปรับปรุงใหม่ซึ่งหลายครั้งเราก็พัฒนาเครื่องจักรไปพร้อมๆ กับบริษัทผลิตเครื่องจักรด้วย” Mr. Senad พูดเสริมในเรื่องของอุปกรณ์ที่ดูแตกต่างจากอุปกรณ์ทั่วๆ ไป
นอกจากเมจิกโกลด์แล้ว วัสดุต่างๆ อย่างคาร์บอนไฟเบอร์ เซอร์โคเนียม แทนทาลัม ทังสเตน หรือแม็กนีเซียม ก็ยังต้องมีการพัฒนาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับการใช้งานกับนาฬิการุ่นต่างๆ ด้วยนอกเหนือจากวัสดุปกติอย่าง ไทเทเนียม แพลตินั่ม หรือเซรามิกที่มีใช้กันโดยทั่วไปแล้ว “Mr. Biver เป็นผู้ที่ไม่หยุดนิ่งครับ เขาจะเข้ามาที่แผนกนี้ด้วยตัวเองและคุยกับผมด้วยตัวเขาเองเลยว่าเขาอยากได้อะไรและหลายต่อหลายครั้งหลังจากการพูดคุยเราก็จะได้สิ่งใหม่ๆ เสมอ” Mr. Senad เล่าต่ออย่างสนุกสนานในเรื่องการทำงานที่ผู้นำองค์กรไม่ได้เป็นแค่คนที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของเขาเท่านั้น ข้ามมาที่แผนกพัฒนาด้านกลไกบ้าง Hublot เพิ่งผนวกกิจการของบริษัทที่มีความชำนาญด้านการทำงานเกี่ยวกับคาร์บอนไฟเบอร์เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งสิ่งแรกที่เห็นเลยก็คือฟันเฟืองชิ้นเล็กผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบาพร้อมความแข็งแกร่งที่เหมาะกับนาฬิกาสปอร์ตแบบ Hublot เป็นอย่างยิ่ง แผนกพัฒนาด้านกลไกยังมีช่างนาฬิกามากประสบการณ์และทันสมัยที่มีแนวคิดนอกกรอบซึ่งพร้อมจะประสานการทำงานกับทีมงานอื่นๆ ไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัว และทำให้ผมเข้าใจได้เลยว่าทำไม Hublot จึงประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเช่นนี้