Hong Kong Watch & Clock Fair, Salon de TIME conclude successfully
งาน HONGKONG WATCH & CLOCK FAIR ครั้งที่ 43 และ SALON de TIME ครั้งที่ 12 ซึ่งจัดโดย HONGKONG TRADE DEVELOPMENT COUNCIL (HKTDC), HONGKONG WATCH MANUFACTURING ASSOCIATION LIMITED และ THE FEDERATION OF HONGKONG WATCH TRADES & INDUSTRIES LIMITED จบลงพร้อมความสำเร็จ แม้ว่าจะมีช่วงการปิดชั่วคราว เนื่องจากพายุไต้ฝุ่น แต่จากการขยายวันเพิ่มเติมของงานในปีนี้
ก็ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนผู้สนใจเข้าชมงานได้ พร้อมกันกับ Hybrid Model Exhibition+ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ทำให้งานนี้สามารถมีผู้เข้าร่วมงานได้ถึง 17,000 คนจาก 106 ประเทศและภูมิภาค พร้อมผู้ที่สนใจจากทั่วโลกที่นอกจากฮ่องกงแล้ว ก็ยังมีจากจีน ไต้หวัน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของฮ่องกง ในฐานะศูนย์กลางการค้านาฬิกา ที่ทำให้สินค้าและบริการที่นำเสนอ สามารถไปถึงผู้คนจำนวนมากทั่วโลกได้มากยิ่งขึ้น
Ms. Sophia Chong รองผู้อำนวยการบริหารของ HKTDC กล่าวว่า “งาน HONGKONG WATCH & CLOCK FAIR และ SALON de TIME เป็นการรวบรวมผู้จัดแสดงมากกว่า 700 รายจาก 15 ประเทศและภูมิภาค นอกจากผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศแล้ว งาน SALON de TIME ในปีนี้ยังเปิดให้ผู้สนใจทั่วไปเข้าชม อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก โดยเป็นแพลทฟอร์มแบบครบวงจร พร้อมโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในด้านการออกแบบ วิจัยและพัฒนาเพิ่มมากขึ้น”
และเพื่อวัดแนวโน้มทางอุตสาหกรรมนาฬิกาในปีหน้า องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) จึงได้ทำการสำรวจ ณ สถานที่ โดยสัมภาษณ์ผู้จัดแสดงและผู้เข้าชมงานประมาณ 900 รายเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดและผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลสำรวจพบว่า 42% ของผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่า ยอดขายโดยรวมจะเติบโตในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า ในขณะที่ 47% คาดว่ายอดขายจะไม่เปลี่ยนแปลง โดยมี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิค รวมทั้งเกาหลีใต้ ที่น่าจะเติบโตที่ดีในอีกสองปีข้างหน้า
ในแง่ของแนวโน้มผลิตภัณฑ์ 40% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า สมาร์ทว็อทช์ยังคงเป็นรูปแบบนาฬิกา ที่จะได้รับความนิยมสูงสุดต่อไป ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามอื่นๆ ให้ความสนใจไปที่นาฬิกาอะนาล็อกควอท์ซ 17% และให้คะแนนกับนาฬิกาแบบกลไก 15% ส่วนนาฬิกาดิจิทัลอยู่ที่ 14% โดยเมื่อถามเกี่ยวกับนาฬิกาที่มีศักยภาพ ในการเติบโตสูงสุดผู้ตอบแบบสอบถาม 46% ให้คะแนนกับสมาร์ทว็อทช์ ส่วน 37% เห็นว่าเป็นนาฬิกาแฟชั่น และ 19% เห็นว่าเป็นนาฬิกาเพื่อสุขภาพ
นอกจากนี้ผู้ผลิตนาฬิกาจำนวนมาก ได้เริ่มใช้วัสดุที่ยั่งยืนในธรรมชาติ สำหรับกระบวนการผลิตนาฬิกาและสาย ท่ามกลางแนวโน้มความยั่งยืนที่งานได้เปิดตัวฉลาก Green Solutions Supplier เพื่อเป็นมาตราฐานใหม่จากการเริ่มต้นโดยผู้ผลิต 30 ราย โดย Ms. Amy Chow รองประธานบริษัท Gordon C & Co Ltd กล่าวว่า "ฉลาก Green Solutions Supplier จะช่วยดึงดูดผู้คนจากทั้งตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ให้ความสนใจ กับนาฬิกาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก”