iamwatch

ไม่ว่าจะเป็นบูติคนาฬิกา ห้องจัดเลี้ยงขนาดเล็กในโรงแรม หรือจะเป็นพื้นที่ต่างๆ ในเจนีวา แบรนด์นาฬิกาต่างก็ร่วมกันจัดงานตามรูปแบบของตัวเอง เพื่อนำเสนอนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดให้กับวงการ ตามรูปแบบที่เคยมีมาก่อนอย่างอิสระ โดยมีรัฐเจนีวาเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงานนี้ โดยปราศจากข้อกำหนดของกลุ่มแบรนด์นาฬิกาใดๆ หรือแบรนด์ใดในค่ายใดก็ตาม

MAURICE LACROIX ปิดโรงแรมในเจนีวา เพื่อจัดงานสำหรับปีนี้โดยเฉพาะ กับไฮไลท์สำคัญคือ Aikon Urban Tribe ที่มีการเปิดตัวอย่างฮือฮาไปก่อนหน้านี้ รวมทั้ง Aikon Chronograph Sprint ตัวเรือนสีดำ สายยางสีฟ้าสดใส เข้ากันกับสีฟ้าของวงแสดงเวลาวินาทีที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และเข็มจับเวลาวินาทีกลางหน้าปัดอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอสายยางสีใหม่ให้กับนาฬิการุ่น Aikon ทั้งสีเทาและสีเขียวอีกด้วย

DOXA บุกตลาดนาฬิกาสำหรับการดำน้ำอย่างเต็มตัวอย่างต่อเนื่อง จากประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยิ่งใหญ่ของแบรนด์ จนมาถึงการนำเสนอรูปแบบของสีสันอันสดใสมากขึ้นในปีนี้ กับนาฬิการุ่น Sub 600T Pacificสีน้ำเงินของหน้าปัดและขอบเบเซิล ที่มีการแสดงสเกลบนขอบได้อย่างน่าสนใจ กับตัวเลขสีส้มที่ใช้งานเข้ากันกับเข็มแสดงเวลานาที นอกจากนี้ยังมี Sub 200 Whitepearl ในโทนสีขาวใสบริสุทธ์อีกด้วย

LOUIS ERARD กับความสำเร็จอย่างงดงามของนาฬิกาในกลุ่ม Collaboration ตั้งแต่กับ Alain Silberstein หรือ Vianney Halter ต่อเนื่องไปจนถึงนาฬิกาในกลุ่ม Art Piece ทั้งในแบบหน้าปัดลายกิโลเช่ที่แปลกตา หรือหน้าปัดแบบกรองฟูว์อีนาเมล ที่ล้วนแล้วแต่ทำราคาในตลาดได้สูงกว่าราคาเปิดตัว และสำหรับงานนี้ก็เป็นการต่อยอดของนาฬิกาในกลุ่ม Art Piece อีกครั้งในรูปแบบของหน้าปัดหินสีในหลากหลายรูปแบบ 3 เรือน

ARNOLD & SONS. นำเสนอนาฬิกาอันโดดเด่นของแบรนด์รุ่น Globetrotter อีกครั้งพร้อมการปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้นาฬิกาในขนาดตัวเรือน 45 มิลลิเมตรนี้ ดูเหมาะสมกับทุกข้อมือของผู้สวมใส่ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอนาฬิการุ่น Ultrathin Tourbillion Dragon & Phoenix ในแบบหน้าปัดหินสีเขียวกับวัสดุพิ๊งค์โกลด์ รวมทั้งนาฬิการุ่น Luna Magna และ Luna Magna Ultimate I ที่สวยงามอย่างอลังการอีกด้วย

BIANCHET โดยสองสามีภรรยานักออกแบบ ผู้ได้รับแนวคิดจากตัวเลข 1.618 Golden Ratioอันเป็นพื้นฐานการออกแบบที่สำคัญของโลก มาใช้ในการสร้างนาฬิกากลไกไขลานตูร์บิยองของตัวเองขึ้น กับนาฬิกาทรงตัวเรือนตอนโนสเกเลตัน โดยมีทางเรือนในซีรี่ส์แรกทั้งตัวเรือนวัสดุไทเทเนี่ยม และตัวเรือนคาร์บอนไฟเบอร์ โดยมีเส้นยางสอดเป็นลวดลายเป็นกรอบตัวเรือนอย่างน่าสนใจ

MB&F กับอีกครั้งของการทำงานร่วมกับ L’ÉPÉE 1839 ในนาฬิการุ่น Orb ที่มีการเล่นกับลักษณะของรูปทรงในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของดอกไม้บาน หรือจะเป็นนัยน์ตาของมนุษย์ โดยมีแกนกลางเป็นกลไกพร้อมหน้าปัดแสดงเวลาด้านหน้า/ด้านบน ในขณะที่มีกรอบนอกสีขาวที่ผลิตจากอลูมินัมดีแอลซี ที่สามารถอ้าเปิดออกได้ในหลากหลายองศา เพื่อเพิ่มมุมมองให้กับเทเบิลคล็อคเรือนนี้ พ่วงท้ายด้วย M.A.D.1 ที่เปิดตัวไปอย่างงดงามก่อนหน้านี้ โดยเป็นนาฬิกาสำหรับสาวกของ MB&F เท่านั้นที่จะสามารถครอบครองได้

ติดตามเรื่องราวตอนสุดท้ายของ GENEVA WATCH DAYS 2021 ได้ในวันพรุ่งนี้