SIHH 2012 - New pieces from BAUME & MERCIER & JEANRICHARD
มาชมนาฬิการุ่นใหม่ๆ จากแบรนด์อื่นๆ ที่เปิดตัวในงาน SIHH 2012 ที่ผ่านมากันบ้าง เริ่มจากกลุ่มที่จับต้องได้ไม่ลำบากยากเย็นนักอย่าง BAUME & MERCIER และ JEANRICHARD กันบ้าง สองแบรนด์นี้ออกอะไรมาใหม่ในปีนี้กันบ้าง รับชมกันได้เลยครับ
BAUME & MERCIER
Capeland Collection
Capeland Ref.10068
Capeland Ref.10068 ตัวเรือนสตีลขนาด 44 มิลลิเมตร กระจกหน้าปัดและฝาหลังแซฟไฟร์คริสตัล ด้านหน้าปัดเคลือบสารกันแสงสะท้อน หน้าปัดทรงโดมสีดำโอปอลีน มีสเกลทาคีมิเตอร์และเทเลมิเตอร์ที่ขอบ หลักชั่วโมงเลขอารบิก เข็มทรงเบรเกต์ชุบทอง หน้าต่างบอกวันที่อยู่ที่ตำแหน่ง 4.30 นาฬิกา เครื่องขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟพร้อมฟังก์ชั่นฟลายแบ็ค La Joux-Perret 8147-2 กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง 27 จิวเวล ขัดแต่งลายเซอร์คูล่าเกรนบนเพลทและบริดจ์ โรเตอร์แบบโอเพ่นเวิร์คขัดแต่งลายโค๊ตเดอเชอแนฟและลายก้นหอย สายเป็นหนังจระเข้สีน้ำตาลอ่อน
Capeland Ref.10063 Ref.10064 Ref.10065
Capeland Ref.10063, Ref.10064, Ref.10065 ตัวเรือนสตีลขนาด 44 มิลลิเมตร กระจกหน้าปัดและฝาหลังแซฟไฟร์คริสตัล ด้านหน้าปัดเคลือบสารกันแสงสะท้อน หน้าปัดขัดซาตินและลายก้นหอย มีสเกลทาคีมิเตอร์และเทเลมิเตอร์ที่ขอบ หลักชั่วโมงเลขอารบิก จุดชั่วโมงและปลายเข็มแต้มซูเปอร์ลูมิโนวาสีเขียว หน้าต่างบอกวันที่อยู่ที่ตำแหน่ง 4.30 นาฬิกา เครื่องขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ La Joux-Perret 8120 กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง 25 จิวเวล ขัดแต่งลายเซอร์คูล่าเกรนบนเพลทและบริดจ์ โรเตอร์ขัดแต่งลายโค๊ตเดอเชอแนฟและลายก้นหอย ในรุ่น Ref.10063 กับ 10064 จะเป็นหน้าปัดสีเงิน ใช้สายหนังจระเข้สีน้ำเงินใน 10063 และสายสตีลใน 10064 ส่วน 10065 จะเป็นหน้าปัดสีน้ำเงินขัดซาตินร่วมกับสีดำขัดลายก้นหอย สวมคู่กับสายหนังจระเข้สีดำ
Capeland Ref.10062 Front Ref.10062 Back Ref.10084
Capeland Ref.10062, Ref.10084 ตัวเรือนสตีลขนาด 42 มิลลิเมตร กระจกหน้าปัดและฝาหลังแซฟไฟร์คริสตัล ด้านหน้าปัดเคลือบสารกันแสงสะท้อน หน้าปัดสีดำขัดซาตินร่วมกับสีแอนทราไซต์ขัดลายก้นหอย มีสเกลทาคีมิเตอร์และเทเลมิเตอร์ที่ขอบ หลักชั่วโมงเลขอารบิก จุดชั่วโมงและปลายเข็มแต้มซูเปอร์ลูมิโนวาสีเขียว หน้าต่างบอกวันที่อยู่ที่ตำแหน่ง 4.30 นาฬิกา เครื่องขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Valjoux 7753 กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง 27 จิวเวล ขัดแต่งลายเซอร์คูล่าเกรนบนเพลทและบริดจ์ โรเตอร์ขัดแต่งลายโค๊ตเดอเชอแนฟและลายก้นหอย สายใน Ref.10062 เป็นสตีล ส่วน 10084 จะเป็นหนังจระเข้สีดำ
Hampton Collection
Hampton Ref.10047 Ref.10048
Hampton Ref.10047, Ref.10048 ตัวเรือนสตีลขนาด 45x32.3 มิลลิเมตร กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลทรงโค้ง หน้าปัดขัดซาตินลายรัศมีพระอาทิตย์ หลักชั่วโมงเลขอารบิก มีวงวินาทีเล็กอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และหน้าต่างบอกวันที่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา สวมคู่กับสายสตีล ทำงานด้วยเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติ ETA2895 กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง 27 จิวเวล ในรุ่น Ref.10047 จะมากับหน้าปัดสีเงินโอปอลีน และเข็มบลูด์สตีล ส่วน 10048 จะใช้หน้าปัดสีดำโอปอลีน
Linea Collection
Linea Ref.10070 Ref.10071 Ref.10072
Linea Ref.10070, Ref.10071, Ref.10072 นาฬิกาสำหรับคุณผู้หญิงชุดใหม่ในคอลเลคชั่น Linea นี้มากับทางเลือกที่หลากหลายในตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ที่สลักเลขชั่วโมงลงบนขอบตัวเรือน กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลทรงโดมเคลือบสารกันแสงสะท้อน เดินด้วยกลไกควอตซ์ Ronda 705 บอกวันที่บนหน้าต่างในตำแหน่ง 6 นาฬิกา และมีไฮไลต์อยู่ที่สายซึ่งสามารถเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายด้วยตนเองโดยจะแถมสายมาให้เปลี่ยนอีกเส้นหนึ่งด้วย Ref.10070 จะมากับตัวเรือนสตีลหน้าปัดสีเงินขัดซาตินลายรัศมีพระอาทิตย์ร่วมกับลายก้นหอย สายที่แถมมาให้เพิ่มจากสายสตีลจะเป็นสายหนังลูกวัวสีดำ Ref.10071 จะมากับตัวเรือนสตีลประดับเพชร 10 เม็ดบนขอบตัวเรือน หน้าปัดเปลือกหอยมุก สายที่ให้มาเพิ่มจากสายสตีลจะเป็นสายซาตินสีดำ ส่วนใน Ref.10072 จะมากับตัวเรือนสตีลประดับเพชร 22 เม็ดบนขอบตัวเรือน หน้าปัดเปลือกหอยมุกขัดลายก้นหอย และให้สายซาตินสีดำมาอีกเส้นหนึ่งเพิ่มจากสายสตีลเช่นเดียวกับ 10071
Linea Ref.10073 Ref.10074
นอกจากรุ่นเครื่องควอตซ์แล้วก็ไม่ลืมที่จะออกเครื่องออโต้มาเอาใจคุณผู้หญิงที่ไม่ชอบนาฬิกาใส่ถ่านด้วยเช่นกัน ใน Linea Ref.10073 และ Ref.10074 โดยมีขนาดตัวเรือนที่เท่ากับรุ่นควอตซ์แต่จะหนาขึ้นเล็กน้อยจาก 8.3 มิลลิเมตร เป็น 10 มิลลิเมตร กระจกหน้าปัดและฝาหลังเป็นแซฟไฟร์คริสตัลโดยเคลือบสารกันแสงสะท้อนบนกระจกหน้าปัด ทำงานด้วยเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติ ETA2892-A2 21 จิวเวล หรือ Sellita SW300 25 จิวเวล ซึ่งมีกำลังสำรองเท่ากันที่ 42 ชั่วโมง ขัดแต่งลายเซอร์คูล่าเกรนบนเพลทและบริดจ์ โรเตอร์ขัดลายโค้ตเดอเชอแนฟและลายก้นหอย มีหน้าต่างบอกวันที่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา Ref.10073 จะมาในแบบทูโทนด้วยตัวเรือนสตีลขอบตัวเรือนเคลือบทอง ใช้หน้าปัดสีเงินขัดซาตินเป็นรัศมีดวงอาทิตย์ร่วมกับลายก้นหอย หลักชั่วโมงและเข็มชุบทอง คู่กับสายสตีลทูโทนโดยสายที่ให้มาเพิ่มจะเป็นสายซาตินสีน้ำตาล ส่วน Ref.10074 จะมากับตัวเรือนสตีล หน้าปัดเปลือกหอยมุก ประดับเพชรบนหลักชั่วโมง 11 หลัก สวมใส่กับสายสตีลและสายซาตินสีดำที่ให้มาด้วย
JEANRICHARD
Highlands Big Life Limited Edition
Highlands Big Life Limited Edition เป็นนาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นจำนวน 100 เรือน ที่กำเนิดขึ้นจากความร่วมมือของ JEANRICHARD กับมูลนิธิ Big Life องค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีจุดมุ่งหมายในการอนุรักษ์สัตว์ป่าและระบบนิเวศน์ของทวีปอาฟริกา ในปี 2011 มูลนิธินี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2010 โดย Nick Brandt ช่างภาพชาวอังกฤษผู้เชี่ยวชาญในการถ่ายภาพเหล่าสัตว์หลากสายพันธุ์ในทุ่งซาวันน่าห์ของทวีปอาฟริกา นาฬิการุ่นนี้จะมาในตัวเรือนสตีลเคลือบพีวีดีดำขนาด 44.5x40 มิลลิเมตร กระจกแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารกันแสงสะท้อน เม็ดมะยมขันเกลียว กันน้ำได้ที่ระดับ 100 เมตร ขอบตัวเรือนสีเขียวระบุตัวเลขชั่วโมงหมุนได้ 2 ทิศทางให้สามารถปรับเพื่อบอกเวลาไทม์โซนที่ 2 ได้ หลักชั่วโมงแบบตัวเลขเคลือบสารเรืองแสงสีงาช้าง เข็มเคลือบสารเรืองแสง พร้อมบ่งบอกความพิเศษด้วยข้อความ BIG LIFE สีแดง ทั้งหมดดูโดดเด่นหมดจดบนหน้าปัดสีดำด้าน ฝาหลังแซฟไฟร์คริสตัลปรากฏภาพช้างซึ่งเป็นโลโก้ของมูลนิธิ BIG LIFE ทำงานด้วยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติอินเฮ้าส์ JR 1000 กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง 27 จิวเวล สวมใส่คู่กับสายผ้าสีดำบัคเกิ้ลสตีลเคลือบพีวีดีดำ
Diverscope LPR
อีกรุ่นของ JEANRICHARD ที่เปิดตัวในงานครั้งนี้ก็คือ Diverscope LPR นาฬิกาดำน้ำรุ่นล่าสุดจากคอลเลคชั่น Diverscope โดยรุ่นใหม่นี้ถือเป็นรุ่นแรกของคอลเลคชั่นที่มาในตัวเรือนสตีล (ก่อนหน้านี้จะเป็นไทเทเนียม) และจุดเด่นของนาฬิการุ่นนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ เม็ดมะยมขันเกลียว 2 เม็ด ที่ตำแหน่ง 3 กับ 9 นาฬิกา โดยเม็ดหนึ่งจะใช้ตั้งเวลากับวันที่ ส่วนอีกเม็ดจะใช้สำหรับปรับเลขนาทีบนขอบหน้าปัดซึ่งสามารถหมุนได้ทั้ง 2 ทิศทาง มาพร้อมกับความสามารถในการกันน้ำได้ที่ระดับความลึก 300 เมตร หน้าปัดอ่านค่าง่ายพื้นสีดำโอปอลีน มีช่องบอกวันที่ที่ตำแหน่ง 7.30 นาฬิกา เข็มและหลักชั่วโมงแต้มสารเรืองแสง ทำงานด้วยเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติ JR1010 26 จิวเวลซึ่งปรับปรุงมาจากเครื่องอินเฮ้าส์ JR1000 นั่นเอง ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง และหลายท่านคงสงสัยว่าแล้ว “LPR” ที่ต่อท้ายชื่อรุ่นมันคืออะไร นี่ละครับที่เป็นไฮไลต์อันโดดเด่นอีกอย่างของนาฬิการุ่นนี้ นั่นก็คือ ภายในของเอ้าท์ไลน์เลข 12 บนหน้าปัดนั้นจะมีแถบแสดงกำลังสำรองแนวตั้งซึ่งเคลือบด้วยสารเรืองแสงสีขาวซ่อนอยู่โดยมีตัวอักษร F กับ E กำกับไว้คล้ายกับเกจ์น้ำมันในรถยนต์ ซึ่งเป็นระบบที่ JEANRICHARD เรียกว่า LPR นั่นเอง ตัวเรือนขนาด 43x43 มิลลิเมตรของนาฬิการุ่นนี้จะมีสายมาให้ 2 เส้น คือสายยางสีดำกับสายผ้าเคฟล่าร์สีดำพร้อมกับบานพับสตีล
By: Viracharn T.