Elegance Reinvented

ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุยางเป็นครั้งแรกในการผลิตนาฬิกา ไปจนถึงการสร้างสรรค์วัสดุผสมล้ำค่าใหม่ๆ เช่น เมจิกโกลด์ ที่มีความสามารถในการป้องกันรอยขีดข่วนได้ รวมไปถึงการผลิตวัสดุคอมโพสิทที่ปฏิวัติวงการ เช่น เซรามิคและแซฟไฟร์ที่มีสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าแนวทาง ด้านวัสดุศาสตร์ถือเป็นหัวใจหลักของ HUBLOT เสมอมา ดังนั้นเพื่อให้บรรลุถึงแนวคิดของ "ศิลปะแห่งการผสมผสาน" ฝ่ายการผลิตของ HUBLOT จึงมีห้องปฏิบัติการโลหะวิทยาและวัสดุศาสตร์เป็นของตัวเอง

 

Classic fusion original yellow gold 29 mm LS 2

 

โดยทำงานร่วมกันกับแผนกวิจัยและพัฒนาอย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมไปถึงโรงหล่อของ HUBLOT เองกับวัสดุที่เป็นนวัตกรรมเหล่านี้ ที่สร้างและผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะในการผลิตนาฬิกาและพัฒนา รวมกันกับงานด้านการออกแบบซึ่งสำหรับ HUBLOTแล้ววัสดุถือเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ ดังนั้นจึงจะต้องส่งเสริมงานด้านการออกแบบ ที่ในขณะเดียวกันก็สามารถปกป้องกลไก และทนทานต่อการทดสอบด้านการแสดงค่าเวลาได้เป็นอย่างดีไปพร้อมกันด้วย

 

classic fusion original yellow gold trio square

 

และด้วยเหตุนี้เอง HUBLOT จึงเลือกพัฒนาวัสดุอย่างไฮเทคเซรามิค สำหรับขอบและตัวเรือนในนาฬิกาบางรุ่น จากความเป็นวัสดุที่ทนทานเป็นพิเศษ พร้อมความสามารถในการป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็เป็นแนวคิดพื้นฐานไปถึงวัสดุอื่นๆ อย่างเช่นทองคำที่ไม่เคยมีคุณสมบัตินี้มาก่อน ดังนั้น HUBLOT จึงคิดค้นเมจิคโกลด์ขึ้น และได้รับการพัฒนารวมทั้งจดสิทธิบัตร รวมทั้งยังเป็นโลหะผสมทองคำแบบ 18 เคแบบแรกในโลก ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

Classic fusion original yellow gold 29 mm LS

 

แม้จะอยู่ในไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ โดยจะยังคงรักษาความสวยงาม ความแวววาว และรูปลักษณ์ที่หรูหราไว้ได้ แม้ผ่านเวลาการใช้งานไปหลายต่อหลายปี ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติที่แท้จริงในโลกของวัสดุล้ำค่า จากแนวคิดในปี 1980 ที่ HUBLOT ได้ปฏิวัติการผลิตนาฬิกาโดยการรวม ตัวเรือนทองคำเข้าไว้กับสายยาง จนทำให้เกิดนาฬิการูปแบบใหม่เป็นครั้งแรก โดยแนวคิดอันกล้าหาญนี้ทำให้เกิดการแสดงออกเป็นครั้งแรกของ "ศิลปะแห่งการผสมผสาน" ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์นับตั้งแต่นั้นมา

 

Classic fusion original yellow gold 29 mm PB shot

 

จนวัสดุยางก็ได้กลายเป็นหนึ่งในวัสดุหลักของ HUBLOT รวมทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของแนวทางการผลิตนาฬิกาที่ทันสมัยในโลกยุคปัจจุบัน โดยนาฬิกา HUBLOT รุ่น Classic Fusion Original Yellow Gold ใหม่นี้ยังได้รับการคัดเลือก เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่เข้าชิงรางวัลในกลุ่ม Iconic ของงาน GPHG ในปี 2024 กับนาฬิกาใน Ref. 591.VX.1230.RX.MDMจากตัวเรือนเยลโลว์โกลด์แบบคลาสสิคที่ขนาด 29 มิลลิเมตร ที่มีการขัดด้วยลายซาตินและขัดเงา รวมไปถึงขอบเบเซิลเยลโลว์โกลด์ที่ผนึกเข้ากับตัวเรือน ด้วยสกรูว์ไทเทเนียมรูปทรงตัว H จำนวน 6 ตัว ให้ความสามารถในการกันน้ำที่ระดับ 50 เมตรหรือ 5 เอทีเอ็ม

 

Classic fusion original yellow gold 29 mm close up shot 2

 

กรุด้วยกระจกแซฟไฟร์พร้อมการเคลือบด้วยสารป้องกันแสงสะท้อน ในหน้าปัดที่เคลือบเงาสีดำและปราศจากมาร์กเกอร์ ผนวกเข้ากับหน้าต่างแสดงค่าวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ทำงานด้วยกลไกควอท์ซคาลิเบอร์ HUB2915 ให้พลังงานสำรองนาน 2 ปี ใช้งานคู่กันกับสายยางสีดำแบบเรียบ และชุดล็อคแบบบัตเตอร์ฟลายที่ผลิตจากเยลโลว์โกลด์ โดยมีบานพับที่ผลิตจากไทเทเนียมดีแอลซีสีดำ เพื่อการใช้งานได้กับทุกสัมผัส ในราคาจำหน่ายที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ 15,900 สวิสฟรังก์

 

Classic fusion original yellow gold 29 mm close up shot

 

รวมกันทำให้นาฬิการุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในไอคอนนิค หรือภาพลักษณ์สำคัญของนาฬิกาในแบบ Classic Fusion ยุคปัจจุบันที่ยึดถือรูปแบบดั้งเดิมของนาฬิกาในยุคแรกของ HUBLOT ที่บริหารงานโดย MDM ที่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นนาฬิกาสปอร์ตอันหรูหรา ในทุกอนูตั้งแต่การมองเห็นจนถึงการสัมผัส ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะกรรมการของ GPHG เห็นและเลือกให้เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่เข้าชิงรางวัล Iconic นี้ที่ต้องรอดูผลที่จะประกาศในช่วงปลายปีอย่างเป็นทางการกันต่อไป

 

Classic fusion original yellow gold 29 mm soldier shot