Highlight of SEIKO for June and July 2023
นาฬิกา SEIKO เปิดตัวแรงในปีนี้ โดยกำหนดช่วงเวลานำนาฬิการุ่นใหม่สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมิถุนายนและกรกฏาคม จะมีการนำเสนอนาฬิกาในกลุ่ม Prospex 2 รุ่นเด่นทั้ง SEIKO Prospex 1968 Diver’s Modern Re-Interpretation GMT ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบ มาจากนาฬิกาดำน้ำที่เปิดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1968 พร้อมการปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ มากมาย พร้อมการเลือกใช้กลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติรุ่นใหม่คาลิเบอร์ 6R54 ที่ให้พลังสำรองลานได้นานถึง 72 ชั่วโมงกับนาฬิการุ่นนี้
และมีให้เลือกใน 2 สีทั้งหน้าปัดสีเขียวเข้ม (Dark Green) และสีดำ โดยมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 70,500 บาท รวมทั้งนาฬิการุ่นพิเศษ SEIKO Prospex 1968 Diver’s Modern Re-Interpretation GMT SEIKO Watchmaking 110 th Anniversary Save the Ocean Limited Edition กับหน้าปัดสีไอซ์บลู (Ice Blue) และผลิตในแบบจำนวนจำกัดเพียง 4,000 เรือนทั่วโลก พร้อมราคาจำหน่ายที่ 75,000บาท และจะมีกำหนดวางจำหน่ายภายในเดือนกรกฎาคม 2023
ส่วนนาฬิกาในกลุ่ม Presage ก็มีการเปิดตัวออกมาในหลากหลายรุ่น เริ่มที่ซีรี่ย์ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยความประณีตนั่นก็คือ Craftmanship Series ที่แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของงานฝีมือชั้นสูง จากช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ผู้มีชื่อเสียง ในด้านงานคราฟท์จากญี่ปุ่นในแขนงต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตเป็นหน้าปัดของ SEIKO Presage ในซีรี่ส์ล่าสุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคอีนาเมล (Enamel), อุรุชิแลคเกอร์ (Urushi Lacquer),อริตาพอร์ซเลน (Arita Porchelain) หรือชิปโปอีนาเมล (Shippo Enamel)
ซึ่งจะถูกนำเสนอผ่านนาฬิการุ่นพิเศษทั้ง 4 เรือน โดยเป็นนาฬิกาคอลเลคชั่นพิเศษ ที่สร้างขึ้นในโอกาสการฉลองครบรอบ 110 ปีในการผลิตนาฬิกาของ SEIKO โดยมีกำหนดการวางจำหน่ายภายในเดือนกรกฎาคม 2023 รวมทั้งยังมีนาฬิกาอีกหนึ่งซีรี่ส์พิเศษของ SEIKO Presage นำเสนอพร้อมกันด้วยนั่นก็คือ Sharp Edge Series ที่นำเสนอในแบบเซมิ-ทรานสพาเรนท์ (Semi-Transparent) ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ของตัวเรือน พร้อมหน้าปัดแบบโอเพ่นฮาร์ท ที่เผยให้เห็นกลไกการทำงานและชุดเข็มแสดงเวลา
โดยมีให้เลือกใน 2 สีทั้งสีขาวแบบชิโรโนริ (Shironeri) และสีน้ำเงินครามเข้ม (Aitetsu) พร้อมการทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติชุดใหม่คาลิเบอร์ 6R5J ให้พลังสำรองลานได้นานสูงสุดถึง 3 วัน โดยมีกำหนดวางจำหน่ายภายในเดือนมิถุนายน 2023 โดยจะนำเสนอพร้อมกับรุ่น Style 60’s GMT ที่มีฟังก์ชั่นแสดงเวลาได้ 2 ไทม์โซน ในนาฬิกาสไตล์วินเทจสีสโมคแบล็ค (Smoky Black) ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 7 มิถุนายน พร้อมราคาจำหน่ายที่ 28,500 บาท ตามหลัง 3 สีหน้าปัดที่วางจำหน่ายไปก่อนแล้วในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ส่วนนาฬิกาสุดล้ำเทคโนโลยีอย่าง SEIKO Astron GPS Solar ที่เปิดตัวในแบบโฉมใหม่ ที่ทั้งดูทันสมัยและสมกับคอนเซ็ปท์ ในการใช้เทคโนโลยีพิเศษ กับนาฬิกาตัวเรือนไทเทเนียมในแบบอินทิเกรดเบรสเล็ท (Integrated Bracelet) ที่สายและตัวเรือนถูกออกแบบให้ต่อเนื่องกัน ตามสไตล์นาฬิกาสปอร์ตชั้นดี พร้อมความโดดเด่นที่ตัวเรือนในขนาด 41.2 มิลลิเมตร และทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์ชุดใหม่คาลิเบอร์ 3X62 ที่มีความสามารถในการจับสัญญาณจีพีเอสได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้น
แบ่งเป็นรุ่นปกติ 3 รุ่นที่หน้าปัดลวดลายที่เป็นแท่งสี่เหลี่ยม เพื่อสื่อถึงผลึกควอตซ์ที่วางเรียงรายกัน และรุ่นพิเศษอีกหนึ่งรุ่นที่ผลิตแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นจำนวน 1,500 เรือนทั่วโลกเพื่อเป็นการระลึกถึงนาฬิการุ่น Astron ดั้งเดิมในปี 1969 โดยมีความโดดเด่นด้วยลวดลายหน้าปัดแนวขวาง โดยนาฬิกาทั้ง 4 รุ่นจะมีกำหนดการวางจำหน่ายภายในเดือนกรกฎาคม 2023 เช่นกัน โดยสามารถชมนาฬิกาเรือนจริงทั้งหมดได้ที่บูติคนาฬิกา SEIKO เซ็นทรัลแกรนด์พระรามเก้า และเคาท์เตอร์นาฬิกา SEIKO ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ