Special Report: รีวิวนาฬิกาเด่นจากงานสยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2012 (ตอนที่ 1)
งานแสดงนาฬิกา สยาม พารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป ประจำปี 2012 เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา และจะมีไปจนถึงวันที่ 19 สิงหาคม โดยทาง IAMWATCH ก็ไม่พลาดที่จะรีบไปโฉบดูนาฬิการุ่นเด่นๆ จากแต่ละแบรนด์ ว่าปีนี้มีอะไรเด็ดๆ มาให้ชมและเลือกเป็นเจ้าของกันบ้าง แน่นอนว่าจะต้องนำมาฝากทุกท่านกันด้วยครับ
เนื่องจากนาฬิกาที่มาจัดแสดงมีจำนวนมาก จึงจะต้องขอแบ่งออกเป็นสองตอนด้วยกันนะครับ เพราะเดินวันเดียวนี่เก็บได้ไม่ครบจริงๆ และก็ต้องขอต้อนรับแบรนด์นาฬิกาใหม่ๆ หรือบางแบรนด์ก็ไม่ใหม่แต่หายไปพักหนึ่งและกลับมาพร้อมกับตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ หรือบางแบรนด์ก็มีการเปลี่ยนแปลงผู้แทนจำหน่ายใหม่
ขอต้อนรับแบรนด์มาใหม่หรือกลับมาใหม่สู่เมืองไทยอย่างเป็นทางการ กับแบรนด์ JUNGHANS, DAMASKO, DAVOSA, BRERA และ HAEMMER ซึ่งทั้ง 5 แบรนด์นำเข้ามาจำหน่ายโดย World of Watches 2 Co., Ltd. ต่อด้วยแบรนด์เนมสุดหรู SALVATORE FERRAGAMO ที่นำเข้ามาจำหน่ายโดย DKSH (Thailand) Ltd. และตัวแทนรายใหม่ของนาฬิกา PHILIP STEIN บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด
เชิญชมนาฬิกาสวยๆ ภายในงาน ที่เราคัดมาเป็นตัวอย่างกันได้เลยครับ
ORIS Tubbataha Limited Edition (ซ้าย): นาฬิกาลิมิเต็ด 2,000 เรือน ผลิตเพื่อเป็นเกียรติแก่โครงการอนุรักษ์แนวปะการัง'ทับบาทาฮา' ในฟิลิปปินส์ บอกเวลาแบบเรกูเลเตอร์ บอกชั่วโมงที่ 3 นาฬิกาบนหน้าปัดย่อย บอกนาทีด้วยเข็มกลาง เคลือบซูเปอร์ลูมิโนวาสีส้มที่เข็มกลางกับหลักชั่วโมง ตัวเรือนไทเทเนียม มีฮีเลียมวาล์วแบบอัตโนมัติ กันน้ำได้ 500 ม. ราคาคู่กับสายยาง 91,900 บาท คู่กับสายไทเทเนียม ราคา 95,900 บาท
GRAND SEIKO Hi Beat 36,000 Special Edition (กลาง) : นาฬิกาสุดพิเศษบอกเวลาอย่างแม่นยำด้วยเครื่องจักรกลที่ความถี่สูงถึง 36,000 ครั้งต่อชั่วโมงรุ่นนี้เป็นสเปเชี่ยลเอดิชั่นที่ผลิตเพียง 150 เรือนทั่วโลก โดยมากับหน้าปัดสีเขียวเข้ม พร้อมโลโก้และเข็มวินาทีสีทอง ราคา 327,280 บาท (รุ่นปกติอยู่ที่ 283,600 บาท)
FORTIS F-43 Flieger Chronograph Alarm GMT (ขวา): มาพร้อมฟังก์ชั่นจีเอ็มทีบอกเวลาที่สอง โครโนกราฟ และอลาร์ม ผลิตจำนวนจำกัด 100 เรือน ราคา 695,200 บาท
FREDERIQUE CONSTANT Classic Manufacture (ซ้าย): นาฬิกาสไตล์คลาสสิกร่วมสมัยมากับเครื่องออโต้อินเฮ้าส์ในราคาคุ้มค่า เปิดราคาในตัวเรือนสตีลที่ 87,000 บาท และตัวเรือนเคลือบโรสโกลด์ 99,000 บาท
GUCCI Bamboo (กลาง): นาฬิกาสำหรับสาวๆ รุ่นนี้นำไม้ไผ่ เช่นเดียวกับที่ใช้ประดับบนกระเป๋าและใช้ทำหูกระเป๋า เอกลักษณ์ของ GUCCI มาใช้บนตัวเรือนและสาย ออกแบบโดย Frida Giannini ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ GUCCI ราคา 37,000 บาท
MONDAINE (ขวา): ตัวเรือนทรงเก๋สำหรับสาวๆ มากับแพ็คเกจสวยคุ้มที่มีสายสตีลถักสไตล์ Milanese ให้เลือกเปลี่ยนเองได้ด้วย ราคา 15,900 บาท
PERRELET Turbine Toxic (ซ้าย): เปี่ยมเอกลักษณ์กับโรเตอร์ใบพัดด้านหน้าที่มองทะลุเห็นการจัดเรียงเพชรเป็นภาพหัวกะโหลกบนหน้าปัดด้านใน ราคา 420,000 บาท
PERRELET Turbine Magic (ขวา): อีกขีดขั้นของจินตนาการจากดีไซเนอร์ของ Perrelet กับโรเตอร์วาดลวดลายวงวนยามหมุน ราคา 340,000 บาท
WELDER K-32 (ซ้าย): นาฬิกาจากอิตาลีรุ่นนี้บอกเวลาได้ 3 ไทม์โซน ด้วยเครื่องควอตซ์ 3 เครื่องแยกกันอิสระ (2 บนหน้าปัด และอีก 1 บอกเวลาบนหน้าปัดเล็กด้านข้างตัวเรือน) ราคา 80,900 บาท
VICTORINOX SWISS ARMY Alpnach Special Edition (ขวา): ตัวเรือนเคลือบแบล็กไอซ์พีวีดี เครื่องออโต้โครโนกราฟ หน้าปัดได้แรงบันดาลใจมาจากหน้าจอบนค็อกพิทเครื่องบิน ส่วนเข็มวินาทีนำมาจากรูปแบบของใบพัดเครื่องบิน ราคา 96,300 บาท
LUMINOX Deepdive Seawolves Limited Edtion (ซ้าย): นาฬิกาดำน้ำรุ่นพิเศษในตัวเรือนสตีลเคลือบพีวีดีพร้อมฮีเลียมวาล์วกันน้ำได้ลึกถึง 500 เมตร เดินด้วยเครื่องออโต้ ราคา 8x,xxx บาท
U-BOAT Classico (ขวา): นาฬิกาจากอิตาลีที่เห็นอยู่นี้มาในตัวเรือนที่ทำจาก Silver 925 เครื่องออโต้ มากับสองขนาดตัวเรือนให้เลือก คือ 45 มม. กับ 53 มม. ราคา 219,900 กับ 239,900
GLAMROCK SoBe Special Box set (ซ้าย): พิเศษด้วยแพ็คเกจนาฬิกา SoBe เปลี่ยนกรอบหน้าปัดได้ ที่ให้กรอบมาเปลี่ยนอีก 3 ชิ้น และสายหนังอีก 2 เส้น ในกล่องดีไซน์เฉพาะ ในราคา 45,900 บาท
RAYMOND WEIL Jasmine Collection (ขวา): คอลเลคชั่นใหม่สำหรับสาวๆ มากับหลายคอมบิเนชั่นให้เลือก โดยมีทั้งแบบเครื่องควอตซ์ในราคาเริ่มต้นที่ 58,000 บาท จนถึงแสนกว่าบาทในแบบประดับเพชร และเครื่องออโต้ในราคาเริ่มต้นที่ 90,000 บาท ไปจนถึงราว 190,000 บาทในแบบประดับเพชร
RAYMOND WEIL Nabucco Cuore Vivo Limited Edition (ซ้าย): Nabucco รุ่นพิเศษนี้มากับการเปิดช่องบนหน้าปัดให้เห็นบาลานซ์ของเครื่องออโต้โครโนกราฟ ตัวเรือนทำจากไทเทเนียมและสตีล ผลิตจำนวนจำกัด 400 เรือน นำเข้ามาในไทยเพียง 2 เรือนเท่านั้น ราคา 274,700 บาท
JUNGHANS Max Bill Chronoscope (ซ้าย): นาฬิกาเครื่องออโต้โครโนกราฟสุดคลาสสิก กลับมาแล้วโดยตัวแทนรายใหม่ ราคา ตัวเรือนสตีล+สาย Milanese 108,000 บาท ส่วนตัวเรือนสตีลเคลือบทองราคา 98,800 บาท
ERHARD JUNGHANS Aerious Chronograph (กลาง): นาฬิกาโครโนกราฟดีไซน์แปลกตาทั้งตัวเรือน ตำแหน่งวางเม็ดมะยมกับปุ่มกด และตำแหน่งหน้าปัดย่อยต่างๆ ราคา 298,000 บาท
JUNGHANS World Timer Chronoscope (ขวา): มามาดใหม่ด้วยเครื่องควอตซ์ที่ปรับเวลาของแต่ละไทม์โซนที่ไปเยือนโดยอัตโนมัติด้วยการรับสัญญาณจากคลื่นวิทยุ (Radio Control) บอกเวลาแบบเรกูเลเตอร์โดยแสดงชั่วโมงในช่องหน้าต่าง พร้อมดิสเพลย์ดิจิตัลแสดงปฏิทิน ราคา 125,000 บาท
DAMASKO (ซ้าย): นาฬิกาจากเยอรมนีเครื่องออโต้ตัวเรือนสตีลเคลือบดำด้วยเทคนิคพิเศษอันแข็งแกร่งทนทานต่อรอยขีดข่วนเรือนที่มากับหน้าปัดสะอาดตารุ่นนี้ เปิดราคาที่ 90,000 บาท
DAVOSA (ขวา): เรือนนี้มากับตัวเรือนไทเทเนียม เครื่องออโต้ ในราคา 90,000 บาท
SALVATORE FERRAGAMO Gancino Sparkling (ขวา): นาฬิกาสำหรับสาวๆ มากับขอบตัวเรือนประดับพลอยเก๋ๆ หมุนได้ เครื่องควอตซ์ 41,000 บาท
SALVATORE FERRAGAMO 1898 (ซ้าย): นาฬิกาสำหรับคุณผู้ชายในตัวเรือนสองกษัตริย์ เครื่องควอตซ์ 43,000 บาท
PHILIP STEIN: นาฬิกาเพื่อสุขภาพช่วยปรับสมดุลย์ให้กับพลังงานในร่างกายด้วยชิปพิเศษที่ติดตั้งไว้ภายในตัวเรือน กลับมาอีกครั้งกับตัวแทนรายใหม่ ทั้ง 2 แบบที่เห็นอยู่นี้เป็นเครื่องออโต้ไม่ใช่ควอตซ์เหมือนก่อน เรือนซ้ายราคา 130,500 บาท ส่วนเรือนดูอัลไทม์บอกเวลา 2 ไทม์โซน ทรงคุ้นตาเรือนขวา ราคา 160,500 บาท
เปลี่ยนบรรยากาศมาชมนาฬิกาสวยๆ ที่จัดแสดงอยู่ภายในบูติกนาฬิกากันบ้าง กับเรือนเด่นๆ ล่าสุดของนาฬิกา ANDREAS STREHLER, M.BENJAMIN, DELACOUR และ JACOB&CO. ซึ่งนำเข้ามาจำหน่ายโดย ญาฟริโร่ บูติก ที่ชั้น M สยามพารากอน ครับ
ANDREAS STREHLER Papillon: ตัวเรือนไวท์โกลด์ ศิลปะแห่งการบอกเวลาชั้นสูง วางราคาไว้ที่ 6,xxx,xxx บาท
M.BENJAMIN Spider: ตัวเรือนไทเทเนียมเคลือบพีวีดี หน้าปัดกับเครื่องเป็นแบบสเกเลตันที่จัดวางองค์ประกอบได้อย่างลงตัวสะอาดตา กับราคา 1.6 ล้านบาท
DELACOUR Promess Glamour (ซ้าย): ประดับแบล็กแซฟไฟร์และเพชร ราคา 1.4 ล้านบาท
JACOB & CO. G5 Global Collection (ขวา): นาฬิกาบอกเวลาได้ 5 ไทม์โซน ตัวเรือนสตีลเคลือบพีวีดีดำพื้นตัวเรือนด้านบนเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ขอบหน้าปัดและเม็ดมะยมเคลือบพีวีดีแดง
หมายตาหรือถูกใจรุ่นไหน ขอเชิญไปเยี่ยมชมขึ้นข้อที่งานได้ตามสะดวกเลยนะครับ สำหรับราคาที่แจ้งนั้นเป็นราคาเต็มที่ยังไม่ได้หักส่วนลดใดๆ ซึ่งได้มาจากการสอบถามพนักงานของแต่ละแบรนด์ หากมีคลาดเคลื่อนบ้างต้องขออภัยเอาไว้ด้วยครับ โปรดเช็คราคาที่ถูกต้องกับพนักงานอีกครั้งนะครับ
โปรดติดตามตอนที่ 2 ของไฮไลต์นาฬิกาภายในงาน สยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2012 ที่เราจะนำมาให้ชมกันเร็วๆ นี้ครับ
By: Viracharn T.