ULYSSE NARDIN Hourstriker Phantom with DEVIALET
ทั้ง ULYSSE NARDIN และ DEVIALET ต่างก็มีดีเอ็นเอ และความปรารถนาในการสร้างสรรค์ประสบการณ์พิเศษให้เกิดขึ้นมาโดยตลอด โดยทั้งสองแบรนด์ต่างก็มีความยอดเยี่ยมจากทั้งโลกแห่งเสียง และการแสดงเวลา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่แผนกวิจัยและพัฒนาของทั้งสองแบรนด์ จะได้มีโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน พร้อมนำโลกทั้งสองมาบรรจบกัน
"เป้าหมายหลักของเราคือการสร้างนาฬิกาที่มีประสิทธิภาพสูง" Patrick Pruniaux ซีอีโอของ ULYSSE NARDIN กล่าวถึงความร่วมมือกันของทั้งสองแบรนด์ในครั้งนี้ “ยิ่งไปกว่านั้น จะถือเป็นการพัฒนาร่วมกันในสิ่งที่ทั้งสองแบรนด์ต่างก็ทำไม่ได้” Emmanuel Nardin หนึ่งในผู้ก่อตั้ง DEVIALET กล่าวเสริมถึงนาฬิการุ่น Hourstriker Phantom ที่เป็นความพิเศษในวงการนาฬิกาโลก
ความพิสมัยในเสียงที่ดีที่สุดเป็นคำนิยามของ DEVIALET ในฐานะผู้นำเสนอระบบเสียงประสิทธิภาพสูงที่ "ทำในฝรั่งเศส" และทันสมัยที่สุดในโลก เพราะสำหรับผู้เสพสุนทรีย์จากเสียงนั้น จะคอยค้นหาประสบการณ์การฟังที่สมบูรณ์แบบที่สุดอยู่เสมอ โดย DEVIALET มีมากกว่า 160 เทคโนโลยีในเรื่องของเสียงที่ได้รับการจดสิทธิบัตรอย่างเป็นทางการ
โดย The Phantom ผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงของ DEVIALET ซึ่งเป็นลำโพงสัญญาณเสียงความละเอียดสูงรุ่นใหม่ ก็มีความสามารถในการสร้างเสียงได้สูงถึง 108dB SPL ในรุ่น Gold Phantom ซึ่งเป็นรุ่นที่ทรงพลังที่สุดในคอลเลกชั่น พร้อมขนาดประมาณเดียวกันกับหมวกกันน็อค แต่สามารถสร้างคุณภาพเสียง ที่ไม่มีใครกล้าเทียบ จนชื่อ Phantom ได้กลายเป็นชื่อพ่วงท้ายของนาฬิกา ULYSSE NADIN รุ่นใหม่ล่าสุดนี้
และหากการได้ยินซึ่งเวลา เป็นสิ่งปรารถนาสูงสุดของผู้นิยมในเรือนเวลาระดับสูง ลำโพงของ DEVIALET ก็น่าจะเอาชนะใจแฟนของ ULYSSE NARDIN Hourstriker ได้เช่นกัน จากพื้นฐานของนาฬิกาเรือนนี้ที่จะส่งเสียงสัญญาณแสดงเวลาในชั่วโมงและครึ่งชั่วโมงตามคำสั่ง ไม่เพียงแต่ช่วยให้สามารถรู้เวลาได้ แต่ยังเป็นการรับรู้จากเสียงอีกด้วย
หลักการใช้งานนาฬิกาที่แสดงเวลาด้วยเสียง ถูกสร้างขึ้นในยุคที่ระบบไฟฟ้ายังไม่สะดวกสบายอย่างเช่นในปัจจุบัน โดยมีจุดประสงค์ที่จะสามารถทำให้รับรู้เวลาได้แม้ปราศจากแสงไฟ และรูปแบบนี้ถูกนำกลับมาใช้อย่างแพร่หลายจาก ULYSSE NARDIN โดย Rolf Schnyder ผู้นำแบรนด์กลับสู่ตลาดอีกครั้งในช่วงปี 1980 พร้อมกลไกที่สามารถสร้างเสียงได้อย่างมีคุณค่าและน่าทึ่ง
ด้วยกลไกที่โดดเด่นแบบดั้งเดิม ที่ใช้รูปแบบของแฮมเมอร์ตีบนก็อง ที่เป็นลักษณะขดลวดรอบภายในตัวเรือนนาฬิกา สร้างความถี่เสียงต่ำและเปล่งออกมาภายนอก ในขณะที่ Hourstriker Phantom จะเป็นการแก้ไขระบบเพื่อเปลี่ยนทิศทางของแรงกระทำ ที่เกิดจากการสั่นสะเทือนและสร้างเสียงต่ำออกมา โดยจะมีกลไกพิเศษที่จะช่วยถ่ายเทเสียงต่ำเหล่านี้ไปยังเมมเบรน และทำให้เกิดความถี่เสียงสูงขึ้น ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้อย่างง่ายๆ กับระบบลำโพง กรวยเสียง และเมมเบรน
ด้านล่างของนาฬิกา จะมีช่องทั้ง 8 ภายใต้เมมเบรน ที่จะทำให้เสียงเดินทางและมีการเคลื่อนไหว จากพลังงานของกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ UN-610 ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้น ก็น่าทึ่งและนับเป็นการสร้างศักยภาพคลื่นเสียงของนาฬิกาอย่างมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีการขยายของเสียงและเพิ่มคุณภาพของเสียงได้จากตัวเรือนไททาเนียมขนาด 43 มิลลิเมตร ที่ได้รับการขัดเงา และยังช่วยขยายเสียง รวมถึงขยายเสียงสะท้อนได้ดีอีกถึง 85 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับเสียงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกของนาฬิกายุคปัจจุบัน
นาฬิกาเรือนนี้มีหน้าปัดสีแอนทราไซต์ ตัดกับเข็มที่ผลิตจากโรสโกลด์ และตัวเลขแบบอารบิค เข้าคู่กับสายหนังจระเข้สีดำ พร้อมจำนวนการผลิตเพียง 85 เรือนในราคาจำหน่ายที่ CHF 72,500 โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019 เป็นต้นไป