Watch Market Analysis : The end of 2020, and beginning of 2021
อุตสาหกรรมนาฬิกาถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของวงการสินค้าระดับลักซ์ชัวรี่ ซึ่งแน่นอนว่าต้องได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ของโควิด-19 ที่เปิดฉากและซัดกระหน่ำทั้งงานทางด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์อย่างหนักหน่วง พร้อมทั้งส่งผลให้ยอดขายมีการปรับเปลี่ยนกันตลอดเวลา เนื่องจากตลาดนี้ต้องการงานการตลาดและงานการประชาสัมพันธ์ เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของสินค้าอยู่ตลอดเวลา
ในขณะเดียวกันที่ความต้องการของตลาด แม้จะถดถอยลงตามกำลังซื้อของผู้คน ที่โดนผลกระทบโดยตรงทางด้านเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีความต้องการของตลาดมากพอที่จะหล่อเลี้ยงแบรนด์นาฬิกาต่างๆ ได้พอสมควร พร้อมๆ กับความโดดเด่นของแบรนด์หลักที่มีความแข็งแกร่งในตลาดอยู่แล้ว ยังได้แรงหนุนจากกำลังซื้อใหม่ๆ ที่เพียงต้องการแบรนด์หลักและเป็นที่นิยมในตลาดเท่านั้น
ซึ่งกำลังซื้อใหม่ๆ เหล่านี้เอง ที่เป็นตัวชี้วัดใหม่ของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดกลุ่มแบรนด์หลักที่นำโดย PATEK PHILIPPE และ ROLEX เสริมด้วย AUDEMARS PIGUET และ OMEGA ที่สามารถรวบรวมสาวกและคนรักนาฬิกากลุ่มนี้ได้มากที่สุดจากพื้นฐานดังกล่าว ซึ่งโดยรวมแล้วจะเป็น PATEK PHILIPPE และ AUDEMARS PIGUET ที่เป็นแบรนด์ที่มีความต้องการสูงเกินกว่าที่เคยเป็นมาในรอบหลายปี
เนื่องจากแนวโน้มที่เคยเป็นมา แม้ PATEK PHILIPPE และ ROLEX จะเคยเป็นนาฬิกาที่ตลาดต้องการมากที่สุดอยู่แล้ว และเคยมีราคาค่าตัวที่สูงกว่าราคาจากโรงงานมาในหลายต่อหลายรุ่น แต่ก็ยังไม่เคยทำไฮไพรส์ได้มากเท่ากับปัจจุบันอย่างเช่นในกรณีของนาฬิกาในคอลเลคชั่น Nautilus ของ PATEK PHILIPPE หรือกลุ่มนาฬิกาสปอร์ตของ ROLEX ที่มีราคาในตลาดสูงเกินกว่าราคาจากโรงงานแทบทุกรุ่นในปัจจุบัน
และสำหรับ ROLEX แล้ว ยังแผ่อิทธิพลไปถึงนอกกลุ่มนาฬิกาสปอร์ตอย่างเช่น Oyster Perpetual ที่ไม่เคยทำราคาสูงกว่าราคาจากโรงงานเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนสีสันของหน้าปัด ในแบบที่แปลกตากว่าที่เคยเห็นจาก ROLEX รวมไปถึงความเป็นนาฬิกาในกลุ่มเอ็นทรี่ไพร์ส ที่ถือว่ามีราคาค่าตัวต่ำที่สุดในบรรดาคอลเลคชั่นต่างๆ ของแบรนด์
นอกจากนี้ยังมีนิวไฮท์ของนาฬิกาหลายรุ่น โดยเฉพาะจาก PATEK PHILIPPE ในกลุ่ม Nautilus ที่นำโด่งโดย Ref. 5711/1A ที่มีราคาค่าตัวในตลาดสูงกว่าสองเท่าจากราคาโรงงานในปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นความแปลกใหม่ของวงการ รวมทั้งถือเป็นกรณีศึกษาที่ต้องจับตามองต่อไป ทั้งเนื่องจากความไม่สมเหตุสมผลของระดับราคาของตัวนาฬิกา และข้อสงสัยของเจ้าของนาฬิกาที่อาจต้องการเพียงมีนาฬิกาที่ยอดนิยมเท่านั้น
โดยข้อหลังนี้อาจทำให้เกิดความไม่มั่นคงของระดับราคา เมื่อเจ้าของต้องการจำหน่ายออกสู่ตลาดในช่วงเวลาพร้อมๆ กันจำนวนมาก ก็จะทำให้เกิดระดับราคาที่ลดหลั่นลงมาตามลำดับ จนทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงในนาฬิการุ่นนั้นๆ ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ไม่ว่าจะจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าของ หรือจะเป็นอารมณ์และความรู้สึกในการตัดสินใจขายในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งนับเป็นจุดเปราะบางของตลาด
ซึ่งจุดนี้จะแก้ไขในเบื้องต้นได้ก็เพียงให้เจ้าของนาฬิกาเรือนนั้น เข้าใจและรักนาฬิกาจนกระทั่งสามารถลดการตัดสินใจจำหน่ายออก และไม่เกิดเหตุที่จะทำให้นาฬิการุ่นนั้นๆ ล้นตลาด อย่างที่ AUDEMARS PIGUET มีส่วนช่วยในการรวบรวมเจ้าของ คนรัก และคนสะสมนาฬิกา AP เพื่อรวมตัวกันและทำให้แบรนด์แข็งแกร่งในตลาดได้อย่างเป็นเอกภาพในปัจจุบัน
ยังมี OMEGA ที่นำโด่งโดยนาฬิการุ่น Speedmaster ที่มีการปรับปรุงและแนะนำรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ก็ทำให้สามารถปรับฐานราคาและกลุ่มผู้สนใจได้เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงนาฬิการุ่นเดิมที่ประกาศยกเลิกสายการผลิตไปแล้ว ก็มีความต้องการที่สูงขึ้นในตลาดทันที รวมทั้งมีการทำการตลาดในขั้นพื้นฐาน ที่เป็นการปูพื้นความรู้และความเข้าใจ ในนาฬิกาฉายามูนว็อชนี้ได้ดีขึ้นก่อนการปรับเปลี่ยนรุ่นใหม่
สุดท้ายคือ SEIKO กลุ่มนาฬิกาจากประเทศญี่ปุ่น ที่ถือว่าประสบความสำเร็จและสามารถทำงานด้านการตลาดได้ดีในช่วงที่ผ่านมา รวมไปถึงการแยกตัวกันของ GRAND SEIKO ออกจาก SEIKO ที่ทำให้แบรนด์มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และสามารถตีตลาดได้ดีในหลายภูมิภาคทั่วโลก จากสไตล์และรูปแบบของแบรนด์ที่แตกต่าง รวมทั้งมีเอกลักษณ์ของตัวเอง เพื่อรองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความต่าง
ที่ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ แต่สถานการณ์โควิด-19 ก็ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงไปได้อีกอย่างน้อยในระดับ 8-9 เดือนต่อไปนี้ ที่ต้องจับตามองการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไม่กระพริบตา
