Luxury Smart Watch which really smart
By Dr. Attawoot Papangkorn
ในยุคที่อะไรๆก็ต้องสมาร์ท อย่างที่เห็นได้อย่างดาษดื่นก็คือ Smart TV, Smart Phone และอีกมากมายหลาย Smart ที่ขนาดวัฒนธรรมองค์กรก็ยังต้องมีคำว่า Smart เลย แล้วไฉนจะมี Smart Watch บ้างไม่ได้ แต่จะให้ว่ากันถึง Smart Watch แบบธรรมดาทั่วไปที่เน้นฟังก์ชั่นอย่างเดียวก็คงจะใช่ที เลยจะขอว่ากันถึง Smart Watch ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น และความหรูหราผสมความคลาสสิคกันจะดีกว่า
FREDERIQUE CONSTANT Horological Smartwatch
หากมองอย่างผิวเผินเครื่องบอกเวลาเรือนนี้ ก็ดูเป็นนาฬิกาเดรสทรงคลาสสิกดั้งเดิมที่มีตัวเรือนสตีลขัดเงาขนาด 42 มิลลิเมตร ประกบด้วยสายหนังจระเข้อย่างนาฬิกาหรูหราทั่วไป เพราะนี่คือสิ่งที่ผู้ผลิตอยากให้เป็น แต่กับภายใต้หน้าปัดอันสุขุมเรียบเฉยนั้น กลับมีความไฮเทคซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ การนับจำนวนก้าวและระยะทางที่เดินในแต่ละวัน ปริมาณการเผาผลาญแคลเลอรี่ระหว่างวัน และที่สำคัญที่สุดนาฬิกาเรือนนี้สามารถตรวจจับพฤติกรรมการนอนได้อีกด้วย โดยทำงานผ่านระบบ MotionX ที่สามารถซิงค์กับแอพพลิเคชั่นบน IOS และ Android ได้ตลอดเวลาอย่างสะดวกอีกด้วย
HUBLOT Big Bang Referee FIFA World Cup Russia 2018 Limited Edition
ผู้ผลิตนาฬิกาหรูรายแรก ที่สนับสนุนการจับเวลาการแข่งขันฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการตั้งแต่ ปี 2010 ก็ยังเข้าสู่ตลาด Smartwatch บ้างเหมือนกัน โดยประเดิมด้วยการให้บรรดากรรมการในสนามสวม Smart Watch ขนาด 49 มิลลิเมตรเรือนนี้ ในการควบคุมเวลาและช่วยเหลือการตัดสินด้วยเทคโนโลยี Goal Line และ VAR ที่นำมาใช้กับฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบปฎิบัติการ Wear OS ผ่าน Referee Mode ได้ตลอดเวลาการแข่งขัน ผ่านหน้าจอแบบ AMOLED และสามารถเก็บข้อมูลระยะทางในการวิ่ง และอัตราการใช้พลังงานของผู้สวมใส่ได้อีกด้วย ที่สำคัญที่สุดคือผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 2,108 เรือนเท่านั้น
MONTBLANC Summit 2+
นำเสนอรุ่นแรกในปี 2017 ต่อด้วยรุ่น Summit 2 เมื่อปี 2018 จนเดินทางมาถึงรุ่นล่าสุด Summit 2+ ที่อัพเกรดให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมีตัวเรือนขนาด 43 มิลลิเมตรที่แสดงผลด้วยหน้าจอ AMOLED มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับคลื่นหัวใจ สามารถตรวจจับการออกกำลังกาย หรือให้คำแนะนำเหมือนเป็นโค้ชส่วนตัวผ่านแอพลิเคชั่น Running Coach รวมทั้งมี GPS ในตัว และยังรองรับ eSIM ระบบ 4G LTE อีกด้วย ในขณะที่ยังคงรักษารูปร่าง หน้าตา และสไตล์ของเรือนเวลาแบบคลาสสิคได้เป็นอย่างดีในขณะเดียวกัน
APPLE WATCH Series 4 Hermès
มาถึงค่ายแอปเปิ้ลแหว่งกันบ้าง ถึงแม้ APPLE จะไม่ได้มีประวัติศาสตร์ในการทำเรือนเวลาแบบกลไกอย่างคนอื่น แต่ถ้าว่ากันถึง Smart Watch แล้วหละก็ ต้องบอกว่านี่คือแนวหน้าในกลุ่มแน่นอน โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ที่การันตีถึงประสิทธิภาพด้วยการเดินทางมาถึงรุ่นที่ 4 แล้วในปัจจุบัน และสร้างความพิเศษยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการนำเสนอระบบ GPS+Cellular ภายใต้ตัวเรือนสตีลมาทำงานร่วมกันกับแบรนด์เครื่องหนังสุดหรูอย่าง HERMÈS เช่นเคย กับขนาดตัวเรือนที่มีให้เลือกทั้ง 40 และ 44 มิลลิเมตร ประดับโลโก้ HERMÈS บน APPLE Watch Face เพื่อเพิ่มคุณค่าและความแตกต่างจากรุ่นปกติทั่วไป
และแม้ว่าการมาของ Smart Watch จะไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลง หรือผลกระทบต่อวงการนาฬิกาอย่างหนักเช่นการมาของกลไกควอท์ซในอดีต แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง การตัดสินใจผันตัวเองเข้าสู่ตลาดนาฬิกากลุ่มนี้ ก็ดูจะเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าที่ดี ซึ่งทำให้แบรนด์สามารถเชื่อมต่อเข้ากับลูกค้าอีกกลุ่ม ที่ไม่เคยสนใจนาฬิกาหรูหรา ให้หันมามองแบรนด์นาฬิกาของตัวเองเป็นหนึ่งในตัวเลือก ทั้งยังสามารถป้องกันไม่ให้ลูกค้าที่กำลังมองหา Smart Watch ย้ายความรักไปสู่แบรนด์อื่นได้อีกด้วย จนดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเทรนด์ของแบรนด์นาฬิกาหรูในตั้งแต่ช่วงปี 2017 เป็นต้นมาไปเสียแล้ว