ตัวจบ ของคนสุดทาง
เริ่มจากเรือนแรก ตัวจบสายวินเทจ หรือตัวจบมหาชน 2018 นั่นก็คือ Rolex Daytona Paul Newman Ref. 6239 นาฬิกาเรือนนี้ในงานประมูลนาฬิการะดับโลก สามารถทำราคาทุบสถิติการประมูลของนาฬิกา Rolex ทุกเรือนที่เคยทำมาก่อน และนับเป็นนาฬิกาอีกหนึ่งเรือนที่ทำให้กระแสนาฬิกาวินเทจเข้มข้นยิ่งขึ้น และเชื่อเลยว่านักสะสมทุกคนที่ชื่อนชม Rolex หรือสะสมนาฬิกา Rolex อยู่แล้ว ล้วนหวังและฝันลึกๆ ว่า ถ้ามีโอกาสได้เก็บนาฬิกาที่มีอยู่ไว้อีกซักสามสิบปี ราคาจะขยับขึ้นไปขนาดไหน ซึ่งอาจเป็นมรดกให้ลูกหลานร่ำรวยกันได้เลยทีเดียว แต่ก็อยากให้ระวังไว้ด้วยในจุดที่ว่า ปัจจุบันนี้ Rolex ไม่ได้ผลิตนาฬิกาด้วยวิธีแบบดั้งเดิมอีกแล้ว ดังนั้นจำนวนการผลิตที่แน่ชัดจึงอาจไม่ปรากฏ และมีผลต่อราคาที่จะเป็นในอนาคต
Rolex Daytona Paul Newman Ref. 6239
เรือนสอง ต้องบอกเลยว่านี่คือสุดทางสายอินดี้ นั่นก็คือ Richard Mille Tourbillon RM 56-02 Sapphire ที่ถึงแม้ว่า Richard Mille จะได้รับการยอมรับทั้งในตลาดอินดี้และตลาดทั่วไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนใส่ใจหรือบอกว่า Richard Mille นั้นดูกลาดเกลื่อนแต่อย่างใด เพราะทั้งจำนวนการผลิต รูปแบบการตลาด รวมทั้งการคำนึงถึงนวัตกรรมทางด้านกลไกต่างๆ ที่มีความโดดเด่น และสำหรับนาฬิกาเรือนนี้ วัสดุแซฟไฟร์ถือเป็นนาฬิกาเรือนแรกๆ ของโลกที่ Richard Mille นำมาผลิตเป็นตัวเรือนนาฬิกา โดยมีราคาอยู่ที่ USD 2 Million หรือประมาณ 64 ล้านบาท ซึ่งก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลของการสุดทาง
Richard Mille Tourbillon RM 56-02 Sapphire
เรือนสามคือสุดทางสายเพชร นั่นก็คือ Rotonde De Cartier Flying Tourbillon Reversed Dial ซึ่งคงมีน้อยคนนักที่จะได้สัมผัสตัวจริงของนาฬิกาเรือนนี้ โดย Cartier ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเป็นแบรนด์ที่เลือกใช้เพชรเกรดดีที่สุด ซึ่งเพชรกลมจะมีราคาต่ำกว่าเพชรเหลี่ยมบาร์เก็ทประมาณ 1 ใน 3 นอกจากนี้แล้ว ทางโรงงานนาฬิกายังมีความมั่นใจและเชื่อว่าการประดับเพชรชั้นสูงในนาฬิกาคืออีกหนึ่งงานศิลปะอันสุงค่า และต้องใช้แรงงานชั้นสูงในการผลิตเท่านั้น ซึ่งเพชรแต่ละเม็ดที่นำมาเรียงกันต้องใช้ความละเอียด และเลือกเฉพาะสีที่สม่ำเสมอซึ่งนาฬิกาเรือนนี้ก็มีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีตัวเรือนที่ผลิตจากแพลทตินั่ม ที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้อยู่ในกลุ่มบลิ๊งๆ ที่สุดทาง
Rotonde De Cartier Flying Tourbillon Reversed Dial
เรือนสุดท้าย คงเป็นแบรนด์อื่นไปไม่ได้นอกจากพี่ใหญ่ ที่ต้องเรียกว่าสุดทางปาเต็ก นั่นก็คือ Patek Philippe Ref. 6002 Sky Moon Tourbillon ที่หลายๆ คนคงปฎิเสธไม่ได้ว่าเปรียบดั่งความฝันอันเจิดจรัส กับฟังก์ชั่นที่ครบทุกอย่างในสากลโลก อาจขาดไปเพียงแค่กลไกจับเวลา แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยฟังก์ชั่นแสดงเวลาต่างๆ พร้อมตัวเรือนแกะสลักอย่างงดงามทั้งเรือน กับราคาประมาณ 45 ล้านบาท ซึ่งเชื่อได้ว่าสุดสายปาเต็กคนไทยมีคนครอบครองแน่นอนอย่างน้อยที่สุดก็หนึ่งเรือน ที่ต้องเรียกว่าสุดทางจริงๆ สำหรับผู้ที่ได้ครอบครองนาฬิกาเรือนนี้
Patek Philippe Ref. 6002 Sky Moon Tourbillon