นาฬิกาอะไรที่คุณอยากได้ (ภาคต่อ: TAG HEUER)
บทความภาคที่แล้วผมเล่าถึงความนิยมของ Panerai กับ Omega ไปแล้ว ภาคนี้เรามาทำความรู้จักคร่าวๆ กันกับ TAG Heuer นาฬิกายอดฮิตอีกแบรนด์หนึ่งกันนะครับ
ตั้งแต่ช่วงผมเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย TAG Heuer นับว่าเป็นนาฬิกาแบรนด์ที่ทุกคนต้องรู้จักกัน ต้องใส่กัน และเป็นเทรนด์ที่ต้องเรียกว่ายอดนิยมเลยทีเดียว เพราะหากใครใส่ Rolex ในตอนช่วงนั้น อาจจะกลายเป็นคนแก่ไปโดยปริยายในสายตาเพื่อนๆ
(จากซ้าย) Formula 1 แบบพลาสติกทั้งเรือน, ก้างปลา S/el แบบสองกษัตริย์, กระดูกงู Series 6000
TAG Heuer ช่วงนั้นเรียกกันเป็นภาษาง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น รุ่นกระดูกงู หรือรุ่นก้างปลา ซึ่งก็คือรุ่น Series 6000 และ Series S/el นั่นเอง โดย TAG Heuer ถือกำเนิดจากความร่วมมือกันของบริษัท TAG ผู้นำด้านเทคโนโลยีสำหรับการบินกับ Heuer แห่งสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีความรู้ ประวัติศาสตร์ และประสบการณ์ในเรื่องเครื่องบอกเวลามาอย่างยาวนาน ทำให้ TAG Heuer สร้างตัวเองจากเรื่องการจับเวลาในสนามการแข่งขันซึ่งการแข่งขันรถยนต์ก็เป็นกีฬามอเตอร์สปอร์ตชนิดหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาพร้อมๆ กับพัฒนาการด้านเทคโนโลยีของรถยนต์สำหรับการแข่งขัน
อย่างไรก็ตามในช่วงต่อๆ มา จากความสำเร็จอย่างสูงของ TAG Heuer ก็สร้างให้นาฬิกาในหลายๆ รุ่น ได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายโดยมีรุ่นหลักๆ คือ:
Formula 1 นาฬิกาที่เป็นภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตอย่างเต็มตัวของ TAG Heuer ที่ต้องเรียกว่าเป็นพื้นฐานแห่งความสำเร็จตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่ TAG เริ่มรวมกิจการกับ Heuer นาฬิการุ่นนี้มีลักษณะดั้งเดิมคือเรียบง่าย ใช้งานง่าย ใช้วัสดุพื้นฐานเป็นหลักตั้งแต่ พลาสติกจนถึงเหล็ก ซึ่งในปัจจุบันส่วนประกอบดังกล่าวก็ยังคงเป็นส่วนประกอบหลักในหลายรุ่นของนาฬิกาคอลเลคชั่นนี้อยู่ โดยมีฟังก์ชั่น Chronograph เป็นอีกหนึ่งในภาพลักษณ์หลักๆ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงเนื่องจากราคาที่ไม่สูงมากนักในตลาดเนื่องจากกลไกที่ใช้จะเป็นควอตซ์ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมี Formula 1 Lady ที่ใช้ดีเอ็นเอของนาฬิการุ่นนี้มาปรับปรุงสำหรับผู้หญิงมากขึ้นรวมไปถึงการประดับเพชร การใช้เซรามิก จนกระทั่งล่าสุดไปถึงกลไกอัตโนมัติในรุ่น Formula 1 Lady Automatic
Formula 1 (ซ้าย) และ Formula 1 Chronograph Steel & Ceramic (ขวา) รุ่นปัจจุบัน
(ซ้าย) Formula 1 Lady Steel & Ceramic Chronograph และ (ขวา) Formula 1 Lady Steel & Ceramic Automatic รุ่นปัจจุบัน
Aquaracer เป็นนาฬิการุ่นที่พัฒนามาจากรุ่น Series 2000 โดยมีการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควรจากเดิมแต่ยังคงเน้นความแข็งแกร่ง บึกบึน และแน่นอนคือความเป็นนาฬิกาสปอร์ต พร้อมทั้งมีรุ่น Aquaracer 500M เป็นรุ่นเสริมด้านความสามารถในการดำน้ำให้มากกว่าเดิมอีกด้วย
(ซ้าย) Aquaracer Calibre 5 และ (ขวา) Aquaracer 500M Calibre 5 All Black รุ่นปัจจุบัน
Carrera รุ่นที่ถือเป็นความคลาสสิกของ TAG Heuer ตั้งแต่ยุค Heuer ที่มีการปรับปรุงรูปลักษณ์ความเป็นสปอร์ตมากขึ้นตามสมัยนิยมทำให้ภาพของสายหนังในรุ่นนี้ดูจะโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ แต่ก็ยังคงครบถ้วนทั้งสาย Steel แบบสองกษัตริย์ แบบ Chronograph หรือแบบประดับเพชรสำหรับสุภาพสตรี
(ซ้าย) Carrera Calibre 5 และ (ขวา) Carrera Chronograph Calibre 16 รุ่นปัจจุบัน
Link ที่คนไทยเรียกกันคุ้นปากว่ารุ่นก้างปลาซึ่งก็คือรุ่น S/el ก่อนที่จะมีการปรับปรุงเป็นรุ่น Link นั่นเอง เป็นนาฬิการุ่นที่ขายดีที่สุดของ TAG Heuer และยังเป็นรุ่นที่มีเอกลักษณ์อย่างครบถ้วนของ TAG Heuer อีกด้วย ไม่ว่าจะเรื่องความเป็นนาฬิกาสปอร์ต ฟังก์ชั่นอันหลากหลาย และที่สำคัญที่สุดคือสายนาฬิกาที่เป็นข้อต่อร้อยเรียงกันอย่างสะดุดตาอันเป็นที่มาของชื่อรุ่นนั่นเอง
(ซ้าย) Link Calibre 6 และ (ขวา) Link Chronograph Calibre 16 รุ่นปัจจุบัน
Link Lady รุ่นปัจจุบัน
Monoco ตัวเรือนเหลี่ยมที่สะดุดตาทุกครั้งแต่บางคนก็อาจติว่าใส่บนข้อมือไม่สวย มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจอันมาจากการที่ Steve Mcqueen สวมใส่นาฬิกาเรือนนี้ในภาพยนต์เรื่อง Le Mans อันเป็นเรื่องราวการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูล่าวันในสนามแข่ง ภาพของ Steeve Mcqueen กับนาฬิกาเรือนนี้จึงปรากฏให้เห็นเป็นหลักฐานกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ยังเป็นนาฬิกาที่มีมูลค่าการประมูลสูงที่สุดในจำนวนรุ่นต่างๆ ของ TAG Heuer อีกด้วย
Monaco Chronograph Calibre 12 รุ่นปัจจุบัน
Grand Carrera กลไก Rotating System ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของนาฬิการุ่นนี้ได้รับการพัฒนาจากโรงงานของ TAG Heuer เอง โดยในหน้าต่างย่อยบอกค่าต่างๆ แทนที่เข็มจะเคลื่อนที่แต่จะเป็นแผ่นดิสก์ที่จะเคลื่อนที่เพื่อบอกค่าเอง นาฬิการุ่นนี้จึงนับเป็นรุ่นที่มีฟังก์ชั่นพิเศษต่างๆ เหนือไปจากรุ่น Carrera
(ซ้าย) Grand Carrera Calibre 8 RS Grande Date GMT และ (ขวา) Grand Carrera Chronograph Calibre 17 RS2 Ti2 รุ่นปัจจุบัน
นอกจากนี้แล้ว ยังมีรุ่น SLR ที่เป็นนาฬิการุ่นที่ทางแบรนด์ทำงานร่วมกันกับทีมแข่งขัน McLaren Mercedes-Benz ที่จับมือกันมากว่า 20 ปีแล้ว หรือรุ่น Golf ที่สวมใส่ได้แสนสบายเหมาะกับการเล่น Golf ตามชื่อ หรือรุ่น Mikrograph ที่จับเวลาได้อย่างละเอียดที่สุดในบรรดานาฬิกาจับเวลาทั่วๆ ไป และรุ่น Monaco V4 ที่มีกลไกการทำงานที่แสนจะพิเศษ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นรุ่นสร้างชื่อให้กับ TAG Heuer ได้เป็นอย่างดี
(จากซ้าย) SLR Chronograph Calibre S และ Professional Golf
(ซ้าย) Mikrograph และ (ขวา) Monaco V4
คอยติดตามเรื่องราวของนาฬิกายอดนิยมแบรนด์ต่อไปในภาคต่อไปนะครับ กับ Chopard แบรนด์ที่มีทั้งนาฬิกาจักรกลชั้นเยี่ยมและนาฬิกาประดับเพชรชั้นเลิศ
By: Pramote R.