นาฬิกาอะไรที่คุณอยากได้ (ภาคต่อ: CHOPARD)
มาต่อกันในซีรี่ส์บทความ "นาฬิกาอะไรที่คุณอยากได้" ด้วยแบรนด์นาฬิกาที่นอกจากจะมีความชำนาญในการประดิษฐ์นาฬิกาตามศาสตร์ดั้งเดิมแห่งสวิสแล้วยังมีความเชี่ยวชาญในด้านเพชรเป็นพิเศษและก็โด่งดังมากๆ ในทางนี้อีกด้วย Chopard คือหนึ่งในแบรนด์อันดับต้นๆ ของโลกที่มีคุณสมบัติถึงพร้อมดังที่กล่าวมาครับ
นาฬิกาที่มีความพิเศษเรื่องเพชรที่ผมนึกออกเป็นแบรนด์แรกเลยก็คือ Chopard ซึ่งนับว่าเป็นนาฬิกาที่ผู้คนรู้จักกันเป็นอย่างดีกับการประดับเพชรระดับโลก ในอดีตนั้นการฝังเพชรลงบนเรือนนาฬิกานับเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องการความประณีตและความละเอียดในการทำงานมากที่สุด และที่ Chopard มีมากไปกว่านั้นอีกก็คือการที่เขาทำให้เพชรในเรือนนาฬิกาสามารถกลิ้งไปมาได้ภายในกรอบกระจกของนาฬิกา และก็เป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ผมมีโอกาสได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ตอนเด็กเนื่องจากเป็นของพี่สาวที่ซื้อมาจากต่างประเทศ
การกลิ้งไปมาของเพชรในนาฬิการุ่น Happy Diamond นี้ มีส่วนที่น่าสนใจที่สุดในยุคนั้นก็คือ การทำให้เพชรสามารถฝังอยู่ในเบ้าได้อย่างพอดิบพอดี ในขณะที่เพชรที่อยู่ในเบ้าก็ต้องมีองศาการจัดวางให้มีความลึกแบบพอดีกับหน้าปัดซึ่งจะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหลและทำให้เกิดประกายเพชรเมื่อกระทบกับแสงในมุมต่างๆ มากขึ้นเมื่อมีการขยับ Chopard ผลิตนาฬิการุ่น Happy Diamond ในซีรี่ยส์ต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งสายหนังและสายโลหะสีต่างๆ ตามตัวเรือน การประดับเพชรหรือพลอยสีต่างๆ ทั้งบนตัวเรือน สาย รวมไปถึงหน้าปัดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจากซีรี่ส์ Happy Diamond ซึ่งมีผลิตเฉพาะตัวเรือนแบบทองคำแล้ว ก็มีการเริ่มต้นผลิตนาฬิการุ่น Happy Sport ซึ่งผลิตตัวเรือนจากเหล็กในปี 1993 และได้รับความนิยมอย่างสูงสุดทั่วโลก กลายเป็นนาฬิกาเรือนที่สุภาพสตรีทุกคนทั่วโลกต้องสวมใส่ไปในทันที
นาฬิการุ่น Happy Sport นอกจากตัวเรือนเหล็กแล้วยังมีการผลิตแบบตัวเรือนทองคำ หรือทองคำแบบฝังเพชรทั้งเรือนด้วย นอกจากนี้ยังแตกไลน์ออกไปอีกมากมายในหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Happy Fish (เพชรที่กลิ้งจะประดับอยู่ในตัวปลาที่อยู่ภายใน) หรือ Happy Snow (เพชรประดับอยู่ในเกล็ดหิมะ) ซึ่งนับว่าเป็นไอเดียที่ยังสามารถสานต่อไปได้เรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ถึงแม้ Chopard จะประสบความสำเร็จด้านภาพลักษณ์ของนาฬิกาประดับเพชรอย่างท่วมท้นแล้ว แต่ก็ยังมีอีกไลน์หนึ่งซึ่งประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน นั่นก็คือ Mille Miglia
Mille Miglia เกิดขึ้นจากความรักในการแข่งขันรถโบราณของ Mr. Karl-Friedrich Scheufele ประธานของ Chopard ผู้ซึ่งสร้างให้เกิดนาฬิกาแบบ Limited Edition ในรุ่น Mille Miglia ขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1988 เป็นต้นมา การแข่งขันนี้จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่ Italy ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะขับรถโบราณคลาสสิกของตัวเองเข้าร่วมแข่งขันซึ่งต้องขับกว่า 1,000 ไมล์จาก Brescia ไปถึง Rome
นาฬิกาจับเวลาเรือนเหล็กพร้อมสายยาง นับเป็นนาฬิกาอีกรุ่นที่คุ้นตาผู้คนจำนวนมากมาแล้ว สายยางนี้ยังเป็นลายแบบดอกยาง Dunlop ที่ใช้กับรถโบราณที่แข่งขันกันในรายการ Mille Miglia อีกด้วย และถึงแม้จะเป็นนาฬิกาจับเวลาภายใต้ชื่อ Chopard อันเป็นแบรนด์ที่ผู้คนจะรู้จักกับนาฬิกาแบบประดับเพชรมากกว่า แต่ด้วยความมุ่งมั่นของ Chopard ก็สามารถทำให้ Mille Miglia กลายเป็นซีรี่ส์นาฬิกามอเตอร์สปอร์ตที่แข็งแกร่งและได้รับความนิยมกันไปทั่วโลกได้สมดังตั้งใจ นอกจากนี้ยังมีในรุ่นพิเศษต่างๆ จนถึงปัจจุบันที่พัฒนาการไปถึง Grand Tourismo ซึ่งมีตัวเรือนที่หนาและใหญ่ขึ้นตามสมัยนิยม
นอกจากนี้ Chopard ยังมุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมสำหรับวงการนาฬิกาเพิ่มขึ้นมาอีกไลน์หนึ่ง นั่นก็คือ Chopard L.U.C โดยจะถูกผลิตจากโรงงานที่ Fluerier ซึ่งเน้นผลิตไลน์นาฬิการะดับสูงสุดของแบรนด์โดยเฉพาะและจะเน้นผลิตเครื่องด้วยตัวเอง (In-house Movement) เป็นหลัก
นาฬิกาหลากหลายรุ่นและฟังก์ชั่นที่น่าสนใจของ Chopard L.U.C นั้นมีตั้งแต่ Chronograph ไปจนถึง Tourbillon หรือแม้กระทั่งฟังก์ชั่นระดับ Grand Complication เอง Chopard L.U.C ก็ผลิตขึ้นและสร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลกมาแล้วหลายแบบตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงสามารถกล่าวได้ว่า Chopard มิใช่เป็นเพียงแบรนด์ที่มีความพิเศษเฉพาะด้านการผลิตนาฬิกาและการประดับเพชรอย่างละเอียดอ่อนพิถีพิถันด้วยดีไซน์เฉพาะตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นแบรนด์นาฬิกาแห่งนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่งในการสรรสร้างผลงานเรือนเวลาระดับสุดยอดให้กับโลกใบนี้โดยแท้จริงด้วย
By: Pramote R.