Hands-on PARMIGIANI Tonda 1950 Steel
Tonda 1950 Steel (ทอนดา 1950 สตีล) ครั้งแรกของนาฬิกาเดรสตัวเรือนบางเฉียบรุ่นดัง Tonda 1950 จากแบรนด์ Parmigiani (พาร์มิเจียนี) แห่ง เฟลอริเยร์ ในแบบตัวเรือนวัสดุสตีล ที่มิใช่แค่การนำวัสดุที่ทำให้วางระดับราคาได้อย่างน่าสนใจยิ่งขึ้นเท่านั้น เพราะทางแบรนด์ได้ลงมือปรับดีไซน์ของขาตัวเรือนและขยายขนาดของตัวเรือนให้ใหญ่ขึ้นด้วย
Tonda 1950 คือ นาฬิกาเดรสดีไซน์คลาสสิกร่วมสมัยที่เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมของสูงสุดของ Parmigiani มาเนิ่นนานหลายปีแล้ว โดยมีการสร้างสรรค์เวอร์ชั่นต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นล้วนใช้แต่ตัวเรือนทองคำไวท์โกลด์หรือโรสโกลด์เท่านั้น จนกระทั่งมาถึงปี 2017 นี้ ทางแบรนด์จึงตัดสินใจผลิตเวอร์ชั่นตัวเรือนวัสดุสตีลขึ้นมาในที่สุด
UNIQUE SIGNATURE DESIGN
คุณลักษณะสำคัญที่เป็นจุดเด่นของ Tonda 1950 ตลอดมาก็คือ ตัวเรือนที่มีความเพรียวบางพร้อมขาตัวเรือนทรงโค้งรับข้อมือรูปทรงคล้ายหยดน้ำอันอ่อนช้อยแต่แฝงความคมคายอยู่ในที โดยประจำการทำหน้าที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติอินเฮ้าส์ ที่ ออกแบบและสร้างอย่างตั้งใจให้มีความบางเฉียบเป็นพิเศษ ทำให้มี ความหนาเพียงแค่ 2.6 มม. เท่านั้น ด้วยลักษณะของโครงสร้างการจัดวางชิ้นส่วนและการใช้โรเตอร์ขนาดเล็กที่แกว่งตัวอยู่ภายในระดับ เดียวกับชิ้นบริดจ์ ทั้งยังถึงพร้อมด้วยความงามของงานตกแต่งอย่างพิถีพิถันไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการขัดแต่งบนบริดจ์หรือลวดลายแสนละเอียดที่สลักอยู่บนชิ้นโรเตอร์ และรูปแบบดีไซน์หน้าปัดและเข็มที่ เรียบง่าย สง่างาม และอ่านค่าได้สะดวกที่สุด ด้วยชิ้นแท่งหลักชั่วโมงผอมเพรียวปลายเรียวแหลมและเข็มชั่วโมงกับนาทีทรงสามเหลี่ยม “เดลต้า-เชพ” เคลือบสารเรืองแสง อันเป็นลักษณะเฉพาะตัวของแบรนด์ Parmigiani
ลักษณะสำคัญทั้งหมดที่กล่าวมานี้ยังคงปรากฎอย่างครบถ้วน ใน Tonda 1950 เอดิชั่นตัวเรือนสตีลนี้ หากแต่ทางดีไซเนอร์ของแบรนด์ ได้ทำการปรับดีไซน์ของขาตัวเรือนให้มีลักษณะเป็นเส้นตรง ยิ่งขึ้นพร้อมออกแบบให้มีระนาบที่เว้าเข้าไปกว่าเดิมอีกเล็กน้อยโดยนำลักษณะมาจากขาตัวเรือนของรุ่น Tonda 39 Qualité Fleurier ซึ่งเป็น Tonda รุ่นระดับสูงกว่า ทั้งยังขยายขนาดตัวเรือนให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 1 มม. จาก 39 มม. มาเป็น 40 มม. ขณะที่ความหนานั้น เพิ่มขึ้นเพียงนิดเดียวแทบไม่รู้สึกจาก 8 มม. มาเป็น 8.2 มม. เท่านั้น ภาพรวมของ Tonda 1950 เรือนสตีล จึงดูมีความเข้มแข็งกว่าเอดิชั่นเรือนทองคำเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันสมดังคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ว่าเป็น “Ultra-thin everyday watch” แต่ยังคงบุคลิกเฉพาะตัวของ Tonda 1950 เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์
ด้านรูปแบบของหน้าปัดนั้น มีความแตกต่างจากเอดิชั่นเรือนทองคำอยู่เล็กน้อยตรงที่มีการพิมพ์ขีดสเกลนาทีและขีดสเกลย่อยของวินาทีเพิ่มเข้ามา แต่ไม่มีการล้อมโลหะวงรีสีเดียวกับตัวเรือน ณ บริเวณรอบชื่อแบรนด์ ซึ่งเป็นการเพิ่มและลดรายละเอียดไปพร้อมๆ กัน
ULTRA-THIN PROPRIETARY MOVEMENT
กลไกอัตโนมัติไมโครโรเตอร์ เครื่องบาง ที่นำมาใช้กับ Tonda 1950 Steel นั้น มีรหัสว่า PF702 ซึ่งมีพื้นฐานเดียวกับกลไกรหัส PF701 ที่ใช้กับ Tonda 1950 เอดิชั่นเรือนทองคำนั่นเอง รูปแบบ ขนาด โครงสร้าง คุณสมบัติทางเทคนิค ลักษณะการแสดงเวลาแบบ สองเข็มกลางพร้อมแสดงวินาทีด้วยเข็มขนาดเล็กที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ไปจนถึงการตกแต่งลาย “โค้ต เดอ เชอแนฟ” บนบริดจ์ และลายสลัก บนโรเตอร์นั้นยังคงมีลักษณะไม่แตกต่างกัน เว้นแต่เพียงการเปลี่ยน แปลงในรายละเอียดของกลไกซึ่งทางแบรนด์ก็ไม่ได้บอกว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง แต่ดูจากสเปคแล้วพบว่าชิ้นส่วนโดยรวมนั้นเพิ่มขึ้นจาก 146 ชิ้นใน PF701 มาเป็น 160 ชิ้น ขณะที่จำนวนจิวเวลยังคงมี 29 ชิ้นเท่ากัน แต่สิ่งที่ดีขึ้นแน่ๆ เท่าที่เห็นจากสเปคก็คือ กำลังสำรองที่เพิ่มขึ้นจาก 42 ชั่วโมง มาเป็น 48 ชั่วโมง ซึ่งการต่ออายุลานเพิ่มอีก 6 ชั่วโมงนี้ก็ทำให้สามารถใช้งานนาฬิกาได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้นมากพอควรเลยทีเดียว
BLACK OR WHITE
Tonda 1950 Steel เปิดตัวมาพร้อมกัน 2 เวอร์ชั่น คือ หน้าปัดผิวโอปอลีน สีดำสนิท และสีเงินขาวกระจ่าง ซึ่งคงเป็นการจงใจทำให้ต่างจากหน้าปัดผิวเกรนด์สีขาวและสีกราไฟต์ของเอดิชั่นเรือนทอง ทั้ง 2 เวอร์ชั่นของเรือนสตีลนี้ต่างสวมคู่มากับสายหนังจระเข้สีดำซึ่งไม่ได้ผลิตโดย Hermès เหมือนที่ใช้กับเอดิชั่นเรือนทอง อันน่าจะเป็นด้วยเหตุผลประกอบการตั้งราคาจำหน่ายของนาฬิกา แต่สิ่งที่ได้มาชดเชยก็คือ ตัวล็อควัสดุสตีลที่เป็นแบบบานพับซึ่งสะดวกและ เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่าตัวล็อคแบบหัวเข็มขัดทองคำที่ใช้กับสายของเอดิชั่นเรือนทอง
ความประทับใจเมื่อได้เห็นและสัมผัสเรือนจริงของ Tonda 1950 Steel ก็คือ ความสวยงามของรายละเอียดต่างๆ ที่ถูกทำขึ้น อย่างประณีต ความมินิมัลของดีไซน์หน้าปัดที่ดูไม่เยอะแต่ทำหน้าที่ในการแสดงเวลาได้อย่างชัดเจน และดีไซน์อันสละสลวยของตัวเรือนที่แข็งแกร่งแต่แฝงไว้ซึ่งความอ่อนโยน ตลอดจนความสวยงามของ โครงสร้างและการตกแต่งกลไกที่มองเห็นได้อย่างเต็มๆ ผ่านกระจกแซฟไฟร์บานใหญ่ที่ผนึกอยู่กับขอบฝาหลังวงไม่หนานัก ทุกๆ องค์ประกอบถูกออกแบบมาอย่างได้สัดส่วนและลงตัวดีมากๆ เมื่อคาด ข้อมือแล้วก็รู้สึกได้ถึงความบางกระชับรับกับข้อมือที่เกิดจากการดีไซน์ มาอย่างยอดเยี่ยม ดูสง่างาม และมีความหรูหราอยู่ในที แม้จะเป็นวัสดุสตีลก็ตาม และตัวล็อคแบบบานพับที่ใช้งานได้ง่ายก็ยิ่งทำให้น่าสวมใส่มากขึ้นไปอีก หากใครที่กำลังมองหานาฬิกาเดรสเรือนสตีลอยู่ Tonda 1950 Steel รุ่นนี้จัดเป็นนาฬิกาเดรสหรูอีกรุ่นที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาดครับ ส่วนใครจะถูกใจหน้าปัดสีใดมากกว่ากัน อันนี้คงต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลเพราะต่างก็ดูดีด้วยกันทั้งคู่
รายละเอียดทางเทคนิค
แบรนด์: PARMIGIANI
รุ่น: Tonda 1950 Steel
Ref. PFC288-0001400-XA1442 หน้าปัดสีดำ พิมพ์สเกลสีขาว
Ref. PFC288-0000100-XA1442 หน้าปัดสีเงิน พิมพ์สเกลสีดำ
ตัวเรือน: สตีล ขนาด 40 มม. หนา 8.2 มม.
ระดับการกันน้ำ: 30 เมตร
กระจกหน้าปัด: แซฟไฟร์ เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน
ฝาหลัง: ผนึกกระจกแซฟไฟร์
สาย: หนังจระเข้สีดำ ตัวล็อคแบบบานพับวัสดุสตีล
หน้าปัด: ผิวโอปอลีน หลักชั่วโมง: เคลือบโรเดียม
เข็ม: เข็มชั่วโมงกับนาทีสีเงิน ทรงเดลต้า เคลือบสารเรืองแสง ; เข็มวินาทีสีเงิน
กลไก: อัตโนมัติ อินเฮ้าส์ PF702 ขึ้นลานด้วยโรเตอร์ขนาดเล็ก ; ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง ; กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง ; ตัวกลไกบางเฉียบเพียง 2.6 มม.
ฟังก์ชั่น: แสดงชั่วโมง นาที ; แสดงวินาทีด้วยเข็มขนาดเล็ก
มีจำหน่ายที่: พีเอ็มที เดอะ อาวร์ กลาส บูติก ศูนย์การค้า สยามพารากอน ชั้น M โทร. 02 129 4777 เกษรวิลเลจ ชั้น 1 โทร. 02 656 1212
By: Viracharn T.