BEST ON THE WRIST OF SIHH 2018
ถ้าเป็นคนรักนาฬิกาแล้ว โอกาสดีอย่างนึงของคนทำงานสื่อด้านนาฬิกาคือมีโอกาสได้ลองของชอบก่อนใคร แถมยังได้ใส่ได้ดูแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย (แล้วแต่เวลาจะเอื้ออำนวย) อีกต่างหาก และควันหลงจากงาน SIHH 2018 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาก็คือ ความงดงามของเรือนเวลาแต่ละเรือน ที่จะได้มีโอกาสมาวางบนข้อมือของเรา และทำให้เรารู้สึกว้าว รวมถึงเป็นก้าวต่อไปที่จะมองหาเวลาเรือนเด็ดๆ เหล่านี้เข้าสู่โชว์รูมของแต่ละแบรนด์ ฉะนั้นบทความนี้จะเป็นเฉพาะสำหรับผู้ที่มั่นใจแล้วว่าจะต้องเสียเงินแน่ๆ ถ้าอ่านจนจบ 5555
By: Dr. Pramote Rienjaroensuk
AUDEMARS PIGUET
Royal Oak ‘Jumbo’ Extra-Thin
Ref. 15202IP.OO.1240IP.01
ความเงาแวววาวของขอบตัวเรือนแพลตินั่มกับข้อต่อต่างๆ ช่างทำให้นาฬิกาเรือนนี้ เมื่อวางอยู่บนข้อมือแล้ว ยิ่งทวีความงดงามมากขึ้นอีกโข และจะว่าไปแล้ว ความเงาแวววาวนี้ ก็ไม่ได้มีมากจนเกินไป ตรงกันข้าม กลับจะเหมาะกับบุคลิกความเคร่งขรึมของเจ้าของ ที่จะมีน้อยคนนักที่จะรู้ว่านี่คือ 15202 ที่เหนือว่า 15202 ทั่วไป
AUDEMARS PIGUET
Royal Oak RD#2 Perpetual Calendar Ultra-Thin
Ref.26586PT.OO.1240PT.01
ไม่ใช่แค่รายละเอียดบนหน้าปัดและฟังก์ชั่นเพอเพทชวลคาเลนดาร์ เท่านั้น ที่ทำให้ Royal Oak เรือนนี้ ดูเป็นเรือนที่พิเศษยิ่งขึ้น แต่เป็นเพราะความบางของตัวเรือนที่ยิ่งทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูเป็นนาฬิการะดับสูงกว่า Royal Oak เรือนอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีความหนักของวัสดุล้ำค่าอย่างแพลตินั่ม ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสูงค่าขึ้นทันทีที่ได้สัมผัส
HERMES
Arceau Chrono Titane
น่าจะคุ้นเคยกับรูปแบบของนาฬิการุ่นนี้มาพอสมควรแล้ว แต่พอมีการปรับลุคโดยการเพิ่มความดิบแบบคลาสสิกเข้าไป เช่น หน้าปัดแบบพ่นทราย ตัวเรือนแบบด้านวัสดุไทเทเนี่ยม พร้อมสายหนังสไตล์เบาะรถสปอร์ต ผนวกกับเข็มวินาที และเข็มจับเวลาวินาทีสีแดง ก็ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ใส่ได้สวยในลุคของสปอร์ตโครโนลักชัวรี่ได้ทันที
JAEGER-LECOULTRE
Polaris Automatic
ถึงแม้แว๊บแรกจะยังรู้สึกขัดตานิดๆ กับเลข 12 3 6 และ 9 ที่ถูกดันให้อยู่ในขอบตัวเรือนลึกเข้าไปเพื่อให้ขีดสเกลนาทีมีความยาวและเด่นชัด รวมไปตัวเรือนที่ดูหนาและกว้างกว่าชุดสายวัสดุสตีลพอสมควร แต่พอลองวางบนข้อมือเท่านั้นแหละ ความสว่างใสของหน้าปัดสีน้ำเงินก็เก็บเกือบทุกปัญหาไปหมดเกลี้ยง หลงเหลือเพียงความสวยแบบพอดีๆ บนข้อมือ
JAEGER-LECOULTRE
Polaris Chronograph
อยากจะบอกว่าเป็นนาฬิกาสายหนังที่ใส่ขึ้นข้อมือที่สุดในงานปีนี้เลย จากหน้าปัดสีดำออกด้าน ขีดสเกลทาคีมิเตอร์รอบขอบด้านในสีขาวนวลและคมดูสะอาดตา ผนวกกับมาร์กเกอร์และชุดจับเวลาที่วงจับเวลาทั้งสองวางอย่างสมมาตรตรงกึ่งกลางแกนเม็ดมะยมได้อย่างสวยงาม ทำให้นาฬิกาโครโนกราฟเรือนนี้เมื่อสวมใส่แล้ว มองดูโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง
PANERAI
Luminor Due 3 Days Automatic Acciaio 42 mm PAM906 (เรือนหน้าปัดสีขาว สายหนังสีน้ำเงิน)
และ 38 mm PAM755 (เรือนหน้าปัดสีเทา สายหนังสีเขียว)
แม้จะมีการปรับเปลี่ยนโทนสีและรูปแบบบนหน้าปัดไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้นาฬิการุ่นนี้ดูแตกต่างมากจนเกินไปจากนาฬิการุ่นยอดนิยมดั้งเดิมที่คุณสุภาพสตรีนิยมนำไปสวมใส่ทั่วบ้านทั่วเมือง โดยทั้ง 2 เรือนถือว่ามีความโดดเด่นในหลายด้านตามสไตล์ของ Panerai ที่มีจุดเด่นสำคัญตรงความใหญ่ ที่แม้ว่าเรือน PAM755 ซึ่งเป็นเรือนหน้าปัดสีเทา สายหนังสีเขียว จะลดลงเหลือเพียง 38 มิลลิเมตรแล้วก็ตาม ความใหญ่และเด่น ก็ยังคงเป็นตัวชูโรงของนาฬิการุ่นนี้ได้อยู่ดี
CARTIER
Santos Large Model in steel & Santos Skeleton Large Model in steel
ความบางของตัวเรือน กับความกว้างแบบพอดีๆ กำลังกลายเป็นคุณสมบัติหลักอย่างหนึ่งของนาฬิกาแนวสปอร์ตลักชัวรี่ที่ซึ่ง CARTIER Santos ใหม่นี้มีมาอย่างครบถ้วน นอกจากองค์ประกอบพื้นฐานที่มีมาให้อย่างครบถ้วนตามสไตล์ Santos แล้ว นาฬิกาเรือนนี้ยังแก้ปัญหาความกางของสายทั้ง 2 ด้านด้วยการสร้างให้ข้อต่อของสายชุดแรกมีองศาการกางได้มากขึ้นเพื่อให้รับกับข้อมือได้ทุกขนาด
A. LANGE & SOHNE
Saxonia Thin “Copper Blue dial”
ต้องยอมรับว่า 2 ปีมานี้ เป็นช่วงเวลาของหินสีอย่างอเวนจูรีนจริงๆ เพราะหลายต่อหลายแบรนด์ต่างก็นำเอาหินสีสวยที่มีประกายแวววาวนี้มาใช้กับหน้าปัดนาฬิกากันอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับ A. LANGE & SOHNE รุ่น Saxonia Thin ที่แม้จะโดดเด่นด้วยความเรียบแบบมินิมัลลิสท์ แต่ก็สามารถเพิ่มความหรูหราได้จากหน้าปัดหินชนิดนี้ นับเป็นการเปลี่ยนลุคจากความ “น้อย” เป็นความ “น้อยแบบหรูหรา” ขึ้นมาโดยทันที และที่สำคัญที่สุดคือความสวยงามบนข้อมือแบบไม่อาจหยุดมองได้
ROGER DUBUIS
Excalibur Aventador S
สีสัน วัสดุ และกลไกที่เลือกใช้ ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูพิเศษและมีความแตกต่างอย่างสุดโต่งบนข้อมือ เพราะเพียงแค่ความโดดเด่นของกลไกก็เพียงพอกับความพิเศษและสวยงามอยู่แล้ว นี่ยังมีสีสันที่ตัดกัน รวมเข้ากับวัสดุตัวเรือนอย่าง C-SMC คาร์บอน ซึ่งเป็นคาร์บอนแบบมัลติ-เลเยอร์ ที่มีสีสันในตัวของวัสดุเองเข้ามารวมกันด้วยแล้ว ความสวยงามและโดดเด่นจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยสำหรับทุกคนที่ได้ลองสวมใส่นาฬิกาเรือนนี้
SPEAKE-MARIN
London Chronograph
ขาตัวเรือนอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเรือนแบบ Piccadilly พร้อมสายหนังสีน้ำเงินคาดแดง เข้าคู่กับหน้าปัดจับเวลานาทีสีแดง ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูโดดเด่นและแตกต่างจริงๆ โดยเฉพาะจากตัวเรือนและรูปแบบโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นสกรูว์ที่ขาตัวเรือนทั้ง 2 ด้าน ปุ่มกดโครโนกราฟที่ลอยเด่นออกจากตัวเรือน หรือเม็ดมะยมทรงโตที่พร้อมใช้งานได้อย่างง่ายดาย ก็ส่งผลทำให้หน้าปัดที่มีตัวอักษร S P E A K E สีดำ โดดเด่นจากพื้นสีขาวอย่างสวยงาม และแม้จะมองดูตัวเรือนว่ามีความหนาอยู่บ้าง แต่บนข้อมือเมื่อสวมใส่แล้วกลับรู้สึกพอดีและสวยงามเหมาะข้อมือมากที่สุด