RUDIS SYLVA RS16 Rose Gold
กับนาฬิกาตัวเรือนโรสโกลด์ที่ผ่านการขัดเงาในขนาด 44 มิลลิเมตร หนา 14.3 มิลลิเมตร แกะสลักแท่นกลไกด้านล่างด้วยลวดลายกิโยเช่แบบปิรามิด และแท่นกลไกด้านบนด้วยลวดลายซันเรย์แบบละเอียด พร้อมขอบหน้าปัดเทคนิคกรองฟูว์อีนาเมล ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ที่มีความหนานูนในสไตล์ของนาฬิกา จากแนวทางการผลิตจากช่วงปี 1750 ผนวกเข้ากับงานการขัดแต่งลวดลายต่างๆ ตั้งแต่การขัดลวดลายเซอร์กูล่าเกรน การขัดขอบเงาแบบไดมอนด์ และการขัดลวดลายสเนล รวมถึงการขัดขอบของบริจด์ไทเทเนียม

ที่ใช้เวลาในการทำงานนานถึงระดับ 30 ชั่วโมงต่อหนึ่งชิ้นงาน คู่กันกับสายนาฬิกาที่ผลิตจากหนังจระเข้ ที่มีรอยท่อนแยกบนชิ้นหนังขนาดใหญ่ และหัวเข็มขัดวัสดุเดียวกันกับตัวเรือน เช่นเดียวกันกับเม็ดมะยมที่ประดับด้วยตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ และเข็มแสดงค่าเวลาที่ผ่านการขัดเงาในสองมุม พร้อมการขัดเงาที่ขอบทั้งหมดเพื่อให้เกิดความคมชัด และความสวยงามในระดับสูงสุด ทำงานด้วยกลไกไขลานอินเฮ้าส์ ที่ความถี่ 21,800 รอบต่อชั่วโมงหรือ 3 เฮริท์ซ และให้พลังสำรองลานนานถึง 70 ชั่วโมง

จากฮาร์โมเนียสออสซิลเลเตอร์ที่เป็นเอกสิทธิ์ของแบรนด์ ที่มาจากฟันเฟืองของบาลานซ์วีลพร้อมชุดประสานการทำงาน เพื่อให้เกิดแอมปลิจูดที่เท่ากันตลอดเวลาของบาลานซ์วีลทั้งสอง โดยมีการทำงานของเอสเคปเมนท์วีล ที่เกิดขึ้นจากพาเล็ทฟอร์คชุดเดียวที่ติดตั้ง ณ ความลาดเอียงระดับ 90 องศา พร้อมกรงขนาด 17.40 มิลลิเมตรที่หมุนรอบ 360 องศาในเวลา 60 นาที จากสปริงแบบเรียบทั้งสองชุดในแบบสมมาตร และปลายสปริงในแบบอสมมาตร เพื่อให้เกิดการทำงานของชุดกลไกในระดับคงที่ตลอดเวลา

ผนวกเข้ากับระบบเวอร์ติคัลกราวิตี้คอร์เรคชั่น ที่ทำหน้าที่ในการปรับตั้งและลดทอนความผิดพลาด อันเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากแรงโน้มถ่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวตั้ง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “ฮาร์โมเนียสออสซิลเลเตอร์” โดย Mr. Mika Rissanen ช่างนาฬิกาผู้มีความเชี่ยวชาญในด้าน กลไกที่มีความซับซ้อนระดับสูง ซึ่งพัฒนาและทำงานให้กับแบรนด์ RUDIS SYLVA มาโดยตลอด รวมไปถึงการจดสิทธิบัตรของระบบการทำงานนี้ ที่ถือเป็นการปฏิวัติวงการนาฬิกา จากรูปแบบเดิมที่มักตัดประเด็นเรื่องแรงกดบนบาลานซ์วีล

แต่ด้วยคุณสมบัติทางเทคนิคที่ล้ำสมัยนี้ ที่ทำให้เกิดการปรับตั้งค่าที่มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการจัดวางสปริง ในชุดบาลานซ์วีลทั้งสองแบบอสมมาตร ซึ่งมีความแตกต่างจากชุดกลไกตูร์บิยอง ที่ต้องใช้เวลาหนึ่งนาที ในการชดเชยผลกระทบของแรงโน้มถ่วง แต่กับฮาร์โมเนียสออสซิลเลเตอร์นี้ ที่จะสามารถปรับตั้งได้ทันทีในแนวตั้ง โดยอาศัยการเชื่อมต่อระหว่างบาลานซ์วีล และการวางสปริงบาลานซ์แบบอสมมาตร เพื่อให้ชุดกลไกไม่ได้รับอิทธิพลใดๆ เลยตลอดเวลาจากแรงโน้มถ่วง

ดังนั้นจึงถือได้ว่าระบบฮาร์โมเนียสออสซิลเลเตอร์ มีความแม่นยำสูงกว่าชุดกลไกตูร์บิยองหรือคารูเซลทั่วไปมาก โดยระบบกลไกนี้เกือบจะสมบูรณ์แบบในเรื่องของการปรับตั้งค่า จากการทดสอบที่ดำเนินการกับเครื่องมือวัดแบบต่างๆ ที่ให้ผลลัพธ์ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของแอมพลิจูดจากทุกตำแหน่งการวาง หรือแม้แต่หลังจาก 24 ชั่วโมงในการวางเฉพาะตำแหน่งแนวตั้ง พร้อมลดทอนค่าความแตกต่างขององศาแอมพลิจูด เมื่อเกิดการเปลี่ยนตำแหน่งจัดวางไป


