CARTIER, Shape Your Time
CARTIER จัดงาน “Shape Your Time” ดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อฉลองความเป็นเลิศด้านงานออกแบบในโลกแห่งเรือนเวลา พร้อมจัดแสดงนาฬิการะดับไอคอน และชิ้นงานหายากที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ตอกย้ำจุดยืนของ CARTIER ในฐานะผู้สร้างสรรค์เรือนเวลา ที่ใช้ดีไซน์และใช้รูปทรงของนาฬิกา ในการกำหนดฟังก์ชั่นการใช้งาน และนวัตกรรมเพื่อมอบมิติใหม่แห่งการบอกเวลา โดยภายในงานมีการพูดคุยเป็นพิเศษ กับสองนักสะสมผู้หลงใหลในนาฬิกา CARTIER ได้แก่ ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ และ คุณอมรพันธุ์ อร่ามวัฒนานนท์

ที่มาร่วมแบ่งปันมุมมองพร้อมจัดแสดง นาฬิกาในคอลเลคชั่นส่วนตัวที่หาชมได้ยากนอกจากนี้ยังได้สองนักแสดงแถวหน้าของไทยอย่าง ต่อ ธนภพ (@Thanapob_Lee) และ หลิงหลิง ควอง (@Linglingkwong) ที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนแห่งเรือนเวลานี้ กับCARTIER ที่ยืนหยัดมาโดยตลอดในฐานะ King of Shape Watch ซึ่งสร้างให้ “รูปทรง”เป็นดาวเด่นของงานออกแบบเสมอ ซึ่งแตกต่างจากแนวทางดั้งเดิมของนาฬิกา ที่จะเน้นในเรื่องของกลไกเป็นหลัก โดย CARTIER เริ่มจากการออกแบบรูปทรง แล้วจึงปรับกลไกให้เข้ากับดีไซน์

ซึ่งหลักการนี้ได้ให้กำเนิดเรือนเวลาระดับตำนาน ที่มอบนิยามใหม่ให้กับความสง่างามอยู่เสมอ อาทิ Tank ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1917 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากทรงสี่เหลี่ยมของรถถัง RENAULT พร้อมตัวเลขโรมันและเม็ดมะยมที่ประดับด้วยแซฟไฟร์ หรือ Santos ที่ถือว่าเป็นเรือนเวลาข้อมือสมัยใหม่เรือนแรกของโลก รวมทั้ง Baignoire เรือนเวลาทรงรี และ Ballon Bleu ที่มาพร้อมหน้าปัดทรงกลมอันมีสไตล์ของตัวเอง นอกจากนี้ยังรวมถึงดีไซน์แปลกใหม่ และผลงานการสร้างสรรค์อย่างเรือนเวลา Crash และ Pebble ที่โดดเด่นอีกด้วย

กับ CARTIER ที่ยังคงเดินหน้าสร้างความแตกต่าง ด้วยดีไซน์ที่เผยสิ่งที่มักถูกซ่อนไว้ภายใน เช่น สกรูว์ของ Santos หรือกลไกแบบสเกเลตันอันประณีตที่เห็นได้จากหน้าปัด รวมทั้งนาฬิกาตั้งโต๊ะแบบมิสเตอรี่ ที่เข็มนาฬิกาจะเสมือนล่องลอยอยู่ในอากาศ โดยผลงานเหล่านี้สะท้อนการผสานโลก ของเรือนเวลาให้เข้ากับการรังสรรค์จิวเวลรี่ได้อย่างกลมกลืน เพื่อเปลี่ยนเรือนเวลาให้เป็นเสมือนเครื่องประดับอันล้ำค่า ทั้งการตกแต่งด้วยอัญมณีหรือรังสรรค์ในรูปทรง ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติอย่าง Panthère สัตว์สัญลักษณ์ประจำแบรนด์ CARTIER

โดยไฮไลท์สำคัญของค่ำคืน คือการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยของ Tank à Guichet ทั้งในตัวเรือนแพลทตินั่ม, เยลโลว์โกลด์ หรือโรสโกลด์ ซึ่งเผยโฉมเป็นครั้งแรกในงาน WATCHES and WONDERS Geneva 2025 ซึ่งถือเป็นการกลับมาอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานกว่า 20 ปี ในฐานะหนึ่งในผลงานเอกของคอลเลคชั่น CARTIER Privé ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์หน้าปัด และขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานคาลิเบอร์ 9755 MC พร้อมฟังก์ชั่นจัมปิ้งอาวร์ และการแสดงนาทีแบบแดรกกิ้งมินิท รวมทั้งเม็ดมะยม ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกาเช่นเดียวกับเรือนดั้งเดิม

ในส่วนของเรือนเวลาชั้นสูง มีการจัดแสดงนาฬิการุ่น Rotonde de Cartier Double Tourbillon Mystérieux จากปี 2015 ในตัวเรือนโรสโกลด์ ที่โดดเด่นด้วยกลไกคาลิเบอร์9454 MC ที่ผ่านการรับรองตราประทับปวงซงเดอเจอเนฟ พร้อมชุดกรงตูร์บิยองคู่แบบลอยตัวราวกับไร้แรงโน้มถ่วง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาตั้งโต๊ะมิสเตอรี่ที่ CARTIER สร้างสรรค์ขึ้นตั้งแต่ปี 1912 โดยมีสองนักสะสมเรือนเวลาของ CARTIER มาแบ่งปันความรู้และความหลงใหล ในช่วงการพูดคุยพิเศษเกี่ยวกับเรือนเวลา ซึ่งกล่าวถึงประสบการณ์ของการเป็นนักสะสม

ตั้งแต่เรือนเวลาจาก CARTIER เรือนแรก ไปจนถึงเรือนล่าสุดที่ประทับใจเป็นพิเศษจากงาน WATCHES and WONDERS Geneva 2025 พร้อมเผยเรื่องราวที่ทำให้ CARTIER เป็นที่โดดเด่นและแตกต่าง ในโลกแห่งการรังสรรค์เรือนเวลา พร้อมนำเรือนเวลารุ่นหาชมได้ยากของ CARTIER จากคอลเลคชั่นส่วนตัวมาร่วมจัดแสดง อาทิ Crash Skeleton จากปี 2017 และ Pebble-shaped 50th Anniversary Re-Edition ของปี 2022 จากคอลเลคชั่นส่วนตัวของ ดร. ก้องเกียรติ รวมไปถึง Tonneau Skeleton Dual Time Zone จากคอลเลคชั่น CARTIER Privé

ในปี 2019 และ Tank Asymétrique Skeleton ในปี 2020 จากคอลเลคชั่นส่วนตัวของคุณอมรพันธุ์ และอื่นๆ อีกหลายเรือน ซึ่งล้วนเป็นผลงานที่สะท้อนถึงความพิถีพิถัน และศิลปะในการรังสรรค์เรือนเวลาแห่งรูปทรงของ CARTIER ได้อย่างแท้จริง กับ CARTIER ในฐานะผู้นำด้านเรือนเวลาแห่งรูปทรง ที่ยังคงเดินหน้าทลายกรอบแนวคิดเดิมๆ พร้อมสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ในการออกแบบเรือนเวลา ด้วยเส้นสายอันบริสุทธิ์และรูปทรง ที่มีความแม่นยำพร้อมสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ ผนวกด้วยรายละเอียดอันล้ำค่า เพื่อสืบสานเอกลักษณ์ที่ยืนยงเหนือกาลเวลา




