Gravée Main, ศิลปะบนข้อมือ, Part I
ตั้งแต่ตัวเรือนไปจนถึงขอบตัวเรือน และจากสลักรวมถึงเม็ดมะยมไปจนถึงหัวเข็มขัด โดยชิ้นส่วนสตีลทุกชิ้นล้วนผ่านการแกะสลักด้วยมือ และตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยกระบวนการที่ใช้เวลานานกว่า 50 ชั่วโมงในนาฬิกาทุกเรือน จากงานการแกะสลักด้วยมือที่นำเสนอสิ่งที่เครื่องจักรไม่สามารถให้ได้ นั่นก็คือความเป็นเอกลักษณ์ในการเจียระไน แต่ละส่วนทั้งส่วนที่เรียบและส่วนที่โค้งแบบต่างๆ ซึ่งล้วนกระทำขึ้นด้วยมือ ซึ่งจะไม่มีชิ้นงานใดเหมือนกัน แต่จะมีเพียงศิลปินหนึ่งคนกับหนึ่งชิ้นงาน

จากประเพณีอันทรงพลังที่นำสู่งานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ ในรูปแบบการทำงานอันเก่าแก่จากช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา เพื่อทั้งการสวมใส่และการสะสม สู่นาฬิกาเรือนพิเศษสำหรับคนทั่วไปและผู้ที่รู้จริง “สิ่งที่ผมชอบที่สุดเกี่ยวกับความร่วมมือเหล่านี้ คือการที่นาฬิกาสไตล์มินิมอลกลายเป็นสิ่งที่แตกต่าง ได้อย่างสิ้นเชิงจากมือของศิลปิน ที่เริ่มต้นจากเส้นสายอันเรียบง่ายของนาฬิการุ่น Noirmont พร้อมลวดลายดอกไม้สไตล์บาโรคที่กระจายไปทั่วตัวเรือน ที่แม้จะเป็นสตีลแต่กลับให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา”

“โดย Gravée Main จะเน้นย้ำถึงความแตกต่าง ระหว่างการตกแต่งอันหรูหราที่ตัดกัน ได้อย่างงดงามกับดีไซน์อันบริสุทธิ์ จากนาฬิกาที่มีความโดดเด่นและไม่เพียงแต่จะมี สิ่งที่แสดงออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งที่สื่อความหมายพิเศษอีกด้วย ที่ล้วนบอกเล่าถึงกาลเวลา ศิลปะ มรดก และความยืดหยุ่นในชีวิต ที่มาพร้อมหน้าที่ในการปกป้องและสืบทอดงานฝีมืออันหายาก กับงานฝีมือที่เป็นศิลปะที่ควรได้รับการสวมใส่ มีชีวิตอยู่ และสืบทอดต่อไป ซึ่งนั่นคือพันธกิจของเรา”

Manuel Emch แห่ง LOUIS ERARD เล่าและกล่าวถึงนาฬิกาเรือนพิเศษนี้ กับนาฬิกาที่ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นเพียง 99 เรือนทั่วโลก พร้อมเทคนิคในการแกะสลักด้วยมือทั้งหมดกับตัวเรือนของนาฬิการุ่น Noirmont ในขนาด 42 มิลลิเมตรที่ผลิตจากสตีลที่ผ่านขั้นตอนการแกะสลักนานกว่า 50 ชั่วโมง ด้วยเทคนิคการแกะสลักด้วยมือแบบดั้งเดิม ทั้งเทคนิคแบบบูริน (Burin), ดริปพ๊อยท์ (Drypoint) และเชดดิ้ง (Shading) ซึ่งกระทำได้ด้วยมือเท่านั้นกับทั้งตัวเรือน, สลักขา, เม็ดมะยม, ขอบตัวเรือน และหัวเข็มขัด

ซึ่งผ่านการแกะสลักทั้งหมดและจะไม่มีชิ้นใดเหมือนกันทั้งหมด จากการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากลวดลายดอกไม้สไตล์บาโรคในศตวรรษที่ 18 พร้อมหน้าปัดสีแอนทราไซต์เคลือบเงาดำ และลายทรานส์สีดำ กับเข็มนาฬิกาทรงลูกแพร์ที่ผ่านการเคลือบด้วยโรเดียม จากพันธกิจสู่ศิลปะของ LOUIS ERARD ที่ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมาที่แบรนด์ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของศิลปะมาทิดาร์ท (Métiers d’Art) ต่างๆ มากมายตั้งแต่ศิลปะอีนาเมลลิ่งแบบกรองฟูว์, ศิลปะการแกะสลักลายกิโยเช่

ศิลปะการประกอบชิ้นไม้ และศิลปะการฝังลวดทองที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้โดย Gravée Main ถือเป็นอีกหนึ่งในการเปิดศักราชใหม่ของแบรนด์ เพื่อเป็นเครื่องบรรณาการแด่หนึ่งในงานฝีมือ ที่มีความเก่าแก่ที่สุดในวงการนาฬิกา จากงานการสลักด้วยมือที่มีมาก่อนนาฬิกา และถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับงานช่างทอง ในช่วงศตวรรษที่ 18 ที่งานแกะสลักนี้ถูกนำมาใช้กับการ ประดับตกแต่งทุกสิ่งตั้งแต่นาฬิกาพก ไปจนถึงของใช้ต่างๆ มากมาย ซึ่งเป็นช่วงการก่อกำเนิดของลวดลาย ดอกไม้ในแบบบาโรคเช่นกัน
กรุณาติดต่อในบทความครั้งต่อไป



