The Shapeshifting Fiaba การรังสรรค์ของตำนานบทใหม่
MAURICE LACROIX เปิดตำนานบทใหม่ให้กับนาฬิกาผู้หญิงคอลเลคชั่น Fiaba ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่น Fiaba Square ทั้ง 12 แบบ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความโค้งมน อันเรียบเนียนของผิวก้อนกรวด ที่ผสมผสานไปกับสุนทรียศาสตร์ ของงานช่างฝีมือจากสวิสจนก่อให้เกิด เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันโดดเด่น จากความหมายที่แฝงอยู่ในชื่อ Fiaba ในภาษาอิตาลีที่มีความหมายว่าเทพนิยาย และเปรียบเสมือนการรวบรวมเอาจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์เข้าไว้ด้วยกัน
สะท้อนให้เห็นถึงการหล่อหลอมมุมมอง ในวัยเด็กที่มีต่อโลกเป็นครั้งแรก แม้จะเติบโตผ่านเทพนิยายเหล่านี้มาแล้วมากมาย แต่มนตร์สะกดของเทพนิยายก็ยังคงอยู่ โดย MAURICE LACROIX ถ่ายทอดจิตวิญญาณเหล่านี้สู่นาฬิกา Fiaba Square รุ่นใหม่ในแนวคิดการนำพาอดีตที่มีสไตล์ อันสุดคลาสสิคมาพบกับความทันสมัยในยุคปัจจุบัน ในสไตล์การออกแบบเพื่อให้เป็นผู้นำเทรนด์ จากการผสมผสานศิลปะอันงดงาม และมรดกอันล้ำค่าเข้าไว้ กับความสะดวกสบายและโดดเด่น
นาฬิกา Fiaba Square รุ่นใหม่นี้จึงถือเป็นการชุบชีวิตสไตล์จากยุค 80s ขึ้นใหม่ในดีไซน์รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตามแบบดั้งเดิมของคอลเลคชั่นในช่วงทศวรรษ ที่ผู้คนต่างหลงใหลในความกล้า และต้องการแสดงถึงตัวตนที่ชัดเจน พร้อมทั้งยังแสดงถึงความเคารพต่อเรื่องราว ทางประวัติศาสตร์ด้วยการเชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงยังเป็นการสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของยุคใหม่ โดยเหลี่ยมมุมเดิมได้ถูกพัฒนาไปสู่ความโค้งมน ที่พลิ้วไหวจนได้รูปทรงที่มีความลื่นไหล
ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นนาฬิกาที่ถูกต้อง ตามหลักสรีรศาสตร์ที่ผสมผสานกับความแข็งแกร่ง ของรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มาพร้อมความนุ่มนวลของทรงกลม ซึ่งทำให้คอลเลคชั่น Fiaba ใหม่นี้เหมาะกับทุกสไตล์ รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบโทนสีทองอันอบอุ่น ที่ MAURICE LACROIX ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนาฬิกาโทนสีทองแบบพีวีดีทั้งหมด 4 แบบ โดยมีสองแบบที่เป็นแบบสตีลและสีทองพีวีดี และอีกสองแบบเป็นสีทองเยลโลว์โกลด์พีวีดีแบบคลาสสิค ที่มาพร้อมสายในสไตล์เดียวกันหรือสายหนังวัว
กับระบบการเปลี่ยนสายอย่างง่ายดาย เพื่อความอเนกประสงค์อันล้ำสมัย และในส่วนของแบบสตีลจะมาพร้อมสายหนังวัวที่มีสีสันต่างกันไป ต้้งแต่สีดำและสีน้ำตาลสุดคลาสสิค ไปจนถึงสีเขียวพิสตาชิโอที่สะดุดตาและสีฟ้าสกายบลูที่สดใส โดยทุกแบบจะมาพร้อมตัวเลขโรมัน ที่ประดับอยู่บนหน้าปัดลายฟลิงเก้แบบคลื่นอันประณีต โดยในรุ่นสีเขียวพิสตาชิโอและสีฟ้าสกายบลู ยังได้มีการรังสรรค์หน้าปัดในแบบประดับมุกสีขาวเพิ่มขึ้น เพื่อการผสมผสานกันระหว่างพลังงานและความสง่างามยิ่งขึ้น
โดยกรุด้วยกระจกแซฟไฟร์ที่มีการเคลือบป้องกันการสะท้อนแสง และช่วยป้องกันแสงสะท้อนจากอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อเน้นถึงความสำคัญของดีไซน์อันเหนือกาลเวลา พร้อมการทำงานด้วยกลไกควอท์ซ RONDA คาลิเบอร์ 762.E ที่สามารถสำรองพลังลานได้นานถึง 10 ปี ในตัวเรือนขนาด 24 มิลลิเมตร X 34 มิลลิเมตร และกันน้ำได้ในระดับ 5 เอทีเอ็มหรือ 50 เมตร โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บูติคนาฬิกา MAURICE LACROIX ชั้น 2 เกษรวิลเลจ โทร. 02-853-9742 หรือที่ LINE Official @MauriceLacroixTH
