FRANCK MULLER Vanguard Curvex Cut Flower

จากดอกไม้ที่ถูกตัดออกจนกลายเป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นได้ในชั่วขณะ ที่เมื่อตัดออกมาแล้วก็จะมีความงดงามในรูปแบบที่เลอเลิศที่สุด กับการกลายเป็นดอกไม้ที่ผลิบานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่ง Vanguard Curvex Cut Flower ได้จับภาพความงดงามนี้ไว้จากการเปลี่ยนภาษาอันละเอียดอ่อน  ของกลีบดอกไม้ให้กลายเป็นเครื่องบอกเวลาประดับอัญมณีชั้นสูง อันเป็นชิ้นงานแสนงดงามที่เกิดจากการบรรจบกัน ของนักประดิษฐ์นาฬิกาและศิลปินนักประดับอัญมณีชั้นเลิศ

V 32 S6 SQT CURVEX CUT FLOWER COL DRM D

โดยตัวเรือนแบบแวงการ์ดเคอร์เว็กซ์ ผลิตขึ้นจากวัสดุโรสโกลด์หรือไวท์โกลด์ ในขนาดความกว้าง 32 มิลลิเมตร และยาว 42.3 มิลลิเมตร พร้อมมอบรูปลักษณ์โค้งมนประดุจกรอบ ที่ปกป้องหน้าปัดแบบลื่นไหลและประณีต ที่สะท้อนถึงความสมดุลระหว่างความแข็งแกร่ง และความสง่างามอันเป็นคุณลักษณะของนาฬิกาในคอลเลคชั่นนี้เสมอ ผนวกเข้ากับหน้าปัดโปร่งแบบโอเพนเวิร์กด์ที่เผยให้เห็น ภาพการเคลื่อนไหวของชิ้นส่วนกลไกที่มีรูปทรงต่างกัน

02

พร้อมการประสานงานของฟันเฟือง บริจด์ และชุดสปริงต่างๆ ที่ก่อให้เกิดกลิ่นหอมอบอวลของชุดกลไก ที่มีชีวิตชีวาจากจังหวะการขยับเขยื้อนและความสลับซับซ้อน โดยองค์ประกอบแต่ละชิ้นที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนนี้ เป็นการเชื้อชวนให้สำรวจการทำงานของกลไก ท่ามกลางดอกไม้ประดับเพชร ที่บานสะพรั่งอย่างงดงามท่ามกลางสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง ที่ประกอบไปด้วยกลีบดอกที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิคพิเศษที่เรียกว่า เคอร์เว็กซ์คัทไดมอนด์ (Curvex CutTM Diamond)

03

ซึ่งมีเหลี่ยมเพชรมากถึง 73 เหลี่ยม โดยวิธีการประดับอัญมณีขั้นสูงนี้ ทำให้อัญมณีแต่ละเม็ดมีรูปร่างตามความโค้งของกลีบดอก ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกถึงความลึกซึ้ง ความนุ่มนวล และการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ ที่เมื่อแสงได้สัมผัสกับแต่ละเหลี่ยม ดอกไม้ก็จะเปล่งประกายระยิบระยับอย่างมีชีวิตชีวา ผนวกเข้ากับการทำงานของกลไกอินเฮาส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ MVT FM 1540-VS3 อันประกอบไปด้วยชิ้นส่วนที่สร้างขึ้นอย่างประณีตรวมกันทั้งหมดถึง 153 ชิ้น

04

เพื่อให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพอันแม่นยำในการทำงานของกลไก และให้พลังสำรองลานยาวนานถึง 4 วัน พร้อมการประดับประดาด้วยเพชรและอัญมณีล้ำค่า ในหลากหลายรูปแบบร่วมกับสีสันอันหลากหลาย เพื่อเป็นการฉลองให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วเวลาเดียว และความเป็นนิรันดร์ซึ่งกลายเป็นความงดงามในที่สุด พร้อมความงามของเพชรทรงเคอร์เว็กซ์คัท ที่ผ่านการจดสิทธิบัตรไว้ตั้งแต่ปี 2003 กับเหลี่ยมเจียระไน 73 เหลี่ยมที่ได้รับการขัดเงาอย่างประณีต

05

โดยมี 37 เหลี่ยมบนส่วนมงกุฎ และ 36 เหลี่ยมบนส่วนพลับพลา ซึ่งถูกออกแบบให้สะท้อนแสงได้ดีที่สุด เพื่อมอบประกายอันแวววาวและสามารถเล่นกับแสง ได้อย่างเหนือชั้นกว่าประกายจากการเจียระไนแบบเดิม นอกจากนี้ยังมีลักษณะของ “ก้าน” ดอกไม้แต่ละดอกที่ไม่ได้เป็นเพียงองค์ประกอบ ของงานการตกแต่งเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นบริจด์ของชุดกลไกอย่างกลมกลืน เพื่อช่วยเพิ่มมิติที่ดูอ่อนไหวและนุ่มนวล ให้กับดีไซน์โดยรวมของของเรือนเวลาชิ้นพิเศษนี้