Gravity Equal Force Ultimate Sapphire Blue
การตีความใหม่ของนาฬิกาจาก ARMIN STROM รุ่น Gravity Equal Force Ultimate Sapphire Blue ที่เข้ามาร่วมอยู่ในคอลเลคชั่น System 78 ที่มาพร้อมสุนทรียศาสตร์จากโทนสีเย็นสบายของธารน้ำแข็ง โดยเน้นที่ความโปร่งใสและความลึกซึ้ง ของสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมเฉดสีเทาเงินอันนุ่มนวล เพื่อชวนให้นึกถึงความใสสะอาด ของทะเลสาบน้ำแข็งและแสงจากเทือกเขาแอลป์ ของสวิตเซอร์แลนด์อันเป็นจุดกำเนิดของแบรนด์

Gravity Equal Force Ultimate Sapphire Blue มาในตัวเรือนสตีลขนาด 41 มิลลิเมตร โดยยังคงคุณสมบัติที่โดดเด่นไว้ โดยมีการปรับโฉมผ่านเลนส์โครมาติคแบบใหม่ ที่ตรงกลางมีแผ่นหลักสีน้ำเงินธารน้ำแข็ง ในแบบกิโยเช่ที่มีพื้นผิวสวยงาม ซึ่งสร้างขึ้นโดย Kari Voutilainen ช่างนาฬิกาอิสระผู้มีชื่อเสียง โดยหน้าปัดแบบเปิดซึ่งวางตำแหน่งของชิ้นส่วนกลไกต่างๆ นี้ จะเป็นแบบอสมมาตรและเน้นไปทางหน้าปัดด้านซ้าย ภายใต้แซฟไฟร์โปร่งใสเพื่อเผยให้เห็นชิ้นส่วนด้านล่าง

นอกจากนี้โทนสีที่ดูเยือกเย็น ยังครอบคลุมไปทั่วทั้งชุดกลไกการทำงาน โดยมีไมโครโรเตอร์ บาร์เรล และบริจด์ที่เคลือบด้วยโรเดียม จัดวางอยู่เพื่อให้เข้ากันได้ดีกับชุดเกียร์ ซึ่งโทนสีเหล่านี้จะมีโทนสีที่ตัดกันอย่างชัดเจนกับหน้าปัดแซฟไฟร์ใส ในขณะที่สายหนังนูบัคสีน้ำเงินจะผูกโยงรูปลักษณ์ทั้งหมด เข้าไว้ด้วยกันกับการตกแต่งที่ทันสมัยและเรียบง่าย พร้อมความเด่นชัดของชุดกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ ASB19 ซึ่งเป็นกลไกแบบอัตโนมัติรุ่นแรกของแบรนด์

โดยชุดกลไกที่ได้รับการจดสิทธิบัตรนี้ จะช่วยให้แรงที่ส่งไปยังบาลานซ์วีล คงที่ตลอดระยะเวลาของพลังสำรองลาน 72 ชั่วโมง พร้อมช่วยปรับปรุงความสม่ำเสมอให้เป็นอย่างดีที่สุด จากไมโครโรเตอร์ขนาดกะทัดรัดของชุดกลไก ที่ช่วยให้สามารถขึ้นลานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ยังคงรูปลักษณ์ที่บางและสง่างามเอาไว้ โดยชุดกลไกนี้จะสามารถมองเห็นได้ ผ่านทางกระจกแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันระหว่างวิศวกรรมและสุนทรียศาสตร์

ซึ่งส่วนประกอบทุกชิ้นของกลไกคาลิเบอร์ ASB19 จะได้รับการตกแต่งด้วยมือภายในโรงงานของ ARMIN STROM ในเบียลประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมบริจด์ที่ได้รับการขัดขอบด้วยมือ และสกรูว์ที่ได้รับการขัดเงาสีดำ รวมทั้งเทคนิคการตกแต่งแบบดั้งเดิมต่างๆ เช่น การขัดแต่งลวดลายเพิร์ลเลจ ลวดลายทางเจนีวา และลวดลายเซอร์กูล่าเกรน ต่างมีการนำมาใช้ในชิ้นส่วนต่างๆ ด้วยความเอาใจใส่ ซึ่งเน้นย้ำถึงความเชื่อของแบรนด์ที่ว่า การตกแต่งด้วยมือเป็นส่วนสำคัญในเอกลักษณ์ของแบรนด์

เช่นเดียวกับผลงานของ ARMIN STROM ทั้งหมด โดย Gravity Equal Force Ultimate Sapphire Blue จะต้องผ่านการประกอบขึ้นสองครั้งเช่นเดียวกัน โดยกระบวนการประกอบสองครั้งนี้ จะช่วยให้มั่นใจได้ถึงความน่าเชื่อถือทางเทคนิค และตอกย้ำถึงความประณีตทางด้านสุนทรียศาสตร์ เพื่อช่วยเสริมสร้างมาตรฐานงานฝีมือ ที่ไม่เคยประนีประนอมใดๆ ของแบรนด์มาโดยตลอด โดยนาฬิการุ่นนี้จะผลิตขึ้น ในจำนวนจำกัดเพียง 25 เรือนต่อปีในราคาจำหน่ายในสวิตเซอร์แลนด์ที่ 27,500 ฟรังก์สวิส


