CVDK Grand Planetarium Eccentric Meteorite

CHRISTIAAN VAN DER KLAAUW (CVDK) ก่อตั้งขึ้นในปี 1974 พร้อมความเป็นแบรนด์ผู้ประดิษฐ์นาฬิกา ที่ทรงเกียรติที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนาฬิกาดาราศาสตร์ พร้อมเอกลักษณ์อันโดดเด่นในการผสานกลไกดาราศาสตร์ ให้เข้ากับเรือนเวลาที่แสดงค่าเวลาได้อย่างเที่ยงตรงและแม่นยำ ผนวกการนำเสนออย่างสร้างสรรค์ในด้านศิลปะ จนทำให้นาฬิกาทุกเรือนกลายเป็นผลงานที่โดดเด่น โดยมีนาฬิการุ่น Grand Planetarium Eccentric อันเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนจุดบรรจบ ของศิลปะและวิทยาศาสตร์ได้อย่างแท้จริง

 

Screenshot 2568 05 31 at 21.50.06

 

ซึ่งความพิเศษไม่ได้หยุดอยู่ที่สุดยอดกลไก ที่จำลองการโคจรของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ ได้อย่างเที่ยงตรงและแม่นยำ แต่ยังมีตัวเรือน หน้าปัด และชิ้นส่วนของกลไก ที่ใช้หินอุกกาบาตสกัดมาประดับไว้ด้วย ซึ่งนี่คือที่สุดของความเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ผ่านการผลิตมาแล้วเพียงสองเรือน และมีทีท่าว่าจะผลิตได้มากที่สุด ได้เพียงแค่สามเรือนเท่านั้นด้วยข้อจำกัดของวัสดุ โดย CVDK ได้จารึกร่องรอยการเดินทางข้ามห้วงเวลา และอวกาศมาไว้บนเรือนเวลาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Grand Planetarium Eccentric Meteorite ในตัวเรือนที่สกัดมาจากอุกกาบาตที่มีลวดลาย

 

Screenshot 2568 05 31 at 21.48.51

 

อันสวยงามตามธรรมชาติของเนื้อหินที่ชื่อว่าวิธมันสแตทเทน (Widmanstätten) อันเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติของวัตถุ ในอวกาศซึ่งเย็นตัวลงอย่างช้าๆ เป็นเวลานานระดับหลายล้านปี โดยมีหน้าปัดอะเวนทูรีนที่จำลองความงดงาม ของท้องฟ้ายามค่ำคืน และกลไกที่จำลองการโคจรของดาวเคราะห์ ในระบบสุริยะได้ครบถ้วนอย่างสมบูรณ์แบบ โดยถือเอาเวลาและอวกาศมาบรรจบกัน ได้อย่างสมบูรณ์แบบในผลงานระดับมาสเตอร์พีซ จากศาสตร์แห่งการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง พร้อมชิ้นส่วนจากอุกกาบาตแท้ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น

 

Screenshot 2568 05 31 at 21.51.56

 

ส่วนหนึ่งในแกนกลางของดวงดาว ที่เป็นดาวเคราะห์น้อยที่ล่องลอยอยู่ในอวกาศ มาเป็นเวลานานหลายพันล้านปี ก่อนจะตกลงสู่พื้นโลกเมื่อประมาณ 50,000 ปีก่อน และในวันนี้ที่เทหวัตถุที่เป็นเศษเสี้ยวหนึ่งของจักรวาล ได้ถูกผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่ง ของเรือนเวลาสุดพิเศษที่ผสานมรดกแห่งดาราศาสตร์ ให้เข้ากับนวัตกรรมแห่งศาสตร์การผลิตนาฬิกา ได้อย่างไร้ที่ติ พร้อมหัวใจสำคัญของเรือนเวลาที่เป็นสุดยอด ของกลไกอันล้ำสมัยเพียงหนึ่งเดียวในโลก ที่สามารถแสดงการโคจรของดวงดาวทั้งแปด รอบดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะจักรวาลของเรา

 

Screenshot 2568 05 31 at 21.51.28

 

ตั้งแต่ ดาวพุธ, ดาวศุกร์, โลกและดวงจันทร์, ดาวอังคาร, ดาวพฤหัสบดี, ดาวเสาร์, ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ที่แสดงการโคจรรายล้อมรอบดวงอาทิตย์ได้อย่างเที่ยงตรงที่สุด ซึ่งกลไกอันน่าทึ่งนี้จำลองท่วงท่านาฏกรรม ของระบบสุริยะที่งดงามตระการตาได้อย่างแม่นยำ พร้อมถ่ายทอดความมหัศจรรย์ของทั้งดาราศาสตร์ และศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกา ไว้ด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการผสานวิทยาศาสตร์และศิลปะในมิติแห่งจักรวาล โดยช่างประดิษฐ์นาฬิการะดับมาสเตอร์ Mr. Pim Koeslag ที่ได้รังสรรค์เรือนเวลาพิเศษนี้ไว้อย่างพิถีพิถัน

 

Screenshot 2568 05 31 at 21.53.43

 

เพื่อสะท้อนความยิ่งใหญ่ของจักรวาล ในตัวเรือนนาฬิกาที่มีน้ำหนัก 47 กรัมที่สกัดมาจากหินอุกกาบาตน้ำหนัก 1.09 กิโลกรัม และถือเป็นชิ้นงานที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวในโลกอย่างแท้จริง ส่วนหน้าปัดจะเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ ของฟากฟ้าและจักรวาลด้วยการสร้างสรรค์ จากเนื้อแก้วอะเวนทูรีน (Aventurine Glass) หรือ โกลด์ฟลัซ (Goldfluss) ที่จำลองความงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนไว้ โดยกลไกของ Eccentric Planetarium นี้ยังประกอบไปด้วยผังจำลองวงโคจร ของดาวเคราะห์แต่ละดวงที่วาดลงสีด้วยมือ (Micro Painting) อย่างประณีต

 

Screenshot 2568 05 31 at 21.52.25

 

โดยวงแหวนหน้าปัดซึ่งตั้ง อยู่ระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ซึ่งจำลองแถบดาวเคราะห์น้อย จะผลิตจากหินอุกกาบาตจากดาวอังคาร (Martian Nakhlite Meteorite) ที่ทำให้เรือนเวลานี้มีชิ้นส่วนจากอีกโลก ในระบบสุริยะจักรวาลมาไว้ ในผลงานเรือนพิเศษได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยนอกเหนือจากความงดงามทางดาราศาสตร์แล้ว Grand Planetarium Eccentric Meteorite ยังเป็นผลงานที่สะท้อนถึงสุดยอด แห่งศิลปะการประดิษฐ์นาฬิกาสวิส โดยทำงานด้วยกลไกที่พัฒนาขึ้นเอง และประกอบไปด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่น ได้แก่ ระบบอัตโนมัติที่โรเตอร์

 

Screenshot 2568 05 31 at 21.48.37

 

จะหมุนในทิศทางเดียว พร้อมให้พลังสำรองลานได้นาน 60 ชั่วโมง กับชุดแฮร์สปริงหมุนอิสระ และบาลานซ์วีลแบบปรับได้ ทำงานที่ความถี่ระดับ 21,600 รอบต่อชั่วโมงหรือ 3 เฮริท์ซ ผนวกด้วยชุดเอสเคปเมนต์แบบสวิสเลเวอร์ พร้อมตลับลูกปืนประดับด้วยทับทิม กับบริจด์จักรรูปดาวที่ขัดแต่งด้วยมือ ตกแต่งพื้นแท่นกลไกด้วยลวดลายเซอร์กูล่าเกรน แบบขัดเงาละเอียด และชุบด้วยโรเดียม โดยมีโรเตอร์ฉลุโปร่งแบบสเกเลตัน ในวัสดุบราสท์สีโรสโกลด์ ขึ้นรูปเป็นโลโก้แบรนด์ CVDK พร้อมชุดถ่วงน้ำหนักในวัสดุทังสเตนชุบโรเดียม

 

Screenshot 2568 05 31 at 21.50.25

 

ในตัวเรือนอุกกาบาตขนาด 44 มิลลิเมตรครอบด้วยกระจกแซฟไฟร์ทรงโดม ที่เผยให้เห็นการเคลื่อนไหวอันงดงามของจักรวาล ส่วนฝาหลังกรุด้วยกระจกแซฟไฟร์ เพื่อให้เห็นงานฝีมืออันประณีตของชุดกลไก ใช้งานคู่กับสายหนังเย็บด้วยมือสีน้ำเงิน พร้อมชุดล็อคบานพับวัสดุแพลทินัม เพื่อเติมเต็มผลงานชิ้นเอกแห่งจักรวาลนี้อย่างสมบูรณ์แบบ "Grand Planetarium Eccentric Meteorite ไม่ใช่แค่นาฬิกา แต่เป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างมนุษยชาติและจักรวาล เสมือนยกความมหัศจรรย์ของจักรวาล มาสวมไว้บนข้อมือ" Mr. Pim Koeslag กล่าว