WATCHES & WONDERS 2025, Part II

มูลนิธิ WATCHES & WONDERS Geneva (WWGF) ก่อตั้งขึ้นในเดือนกันยายน 2022 ด้วยความร่วมมือจากแบรนด์นาฬิกา ROLEX, กลุ่ม RICHEMONT และ PATEK PHILIPPE เพื่อการสร้างมูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไร โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเจนีวา ที่ในในปี 2024 ก็มีสมาชิกใหม่เข้าร่วมอีก 3 รายคือ CHANEL, HERMÈS และกลุ่ม LVMH ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งคณะกรรมการของมูลนิธิ WWGF ร่วมกับประธานและรองประธานของมูลนิธิฯ เพื่อร่วมกันกำหนดกลยุทธ์หลัก ในการนำเสนองานอันยิ่งใหญ่นี้สู่สาธารณะ

 

Screenshot 2568 04 06 at 19.11.01

 

โดยคณะกรรมการฯซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากแบรนด์ต่างๆ ที่เข้าร่วม จะร่วมกันตัดสินใจในเรื่องราวทั้งหมดของงาน เพื่อให้แน่ใจได้ว่างาน WATCHES & WONDERS Geneva จะดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมพันธกิจหลักคือการส่งเสริม งานด้านการผลิตนาฬิกาผ่านการจัดงาน โดยมีเจนีวาเป็นเมืองหลักพร้อมจำนวนผู้เข้าร่วมและชมงานครั้งล่าสุดในเดือนเมษายน 2024 ที่มีจำนวนมากถึง 49,000 คนในช่วงเวลาจัดงาน 7 วันทั้งสำหรับวันที่เปิดรับสาธารณะ และวันที่เปิดรับเฉพาะการเชิญ ซึ่งถือได้ว่ามากเป็นประวัติการณ์

 

01

 

02

 

03

 

05

 

06

 

07

 

08

 

PATEK PHILIPPE นำเสนอนาฬิกาใหม่หลายรุ่นตั้งแต่ TwentyFour ใหม่ที่มาพร้อมกลไกแบบเพอเพทชวลคาเลนดาร์เป็นครั้งแรกในตัวเรือนโรสโกลด์ และนาฬิการุ่น Calatrava ใหม่ที่ผ่านการปรับปรุงให้เหมาะสมยิ่งขึ้น หลังจากยกเลิกการผลิตนาฬิการุ่นเดิมไปเมื่อหลายปีที่แล้ว รวมไปถึงนาฬิการุ่น Calatrava Pilot Travel Time ในหน้าปัดสีใหม่ และนาฬิการุ่น Cubutus ที่นำเสนอในปีนี้กับขนาดที่เล็กลงแบบมิดไซส์ กับตัวเรือนแบบไวท์และโรสโกลด์ รวมทั้งนาฬิการุ่น Nautilus สำหรับสุภาพสตรีแบบควอท์ซที่นำเสนอสู่ตลาดอีกครั้ง 

 

09

 

10

 

11

 

12

 

13

 

CHANEL กับนาฬิการุ่น J12 Blue Sapphires ในขนาด 38 มิลลิเมตรที่มาพร้อมกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 12.1 ที่ถือเป็นการตีความใหม่ครั้งใหม่ ของนาฬิการะดับไอคอนโดยผสานดีไซน์ ของเซรามิคสีน้ำเงินที่มีความสามารถด้านความทนทานสูง เข้ากับความระยิบระยับของแซฟไฟร์สีน้ำเงินทรงบาแก็ตต์จำนวน 58 เม็ดที่ทำให้ตัวเรือนและหน้าปัดเปล่งประกายได้อย่างดงาม นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนาฬิกาอีกหลายรุ่น รวมทั้งนาฬิกาตั้งโต๊ะที่ผลิตขึ้นเพียงหนึ่งเดียว พร้อมความงามในการประดับเพชรและกลไกระดับสุดยอด

 

14

 

15

 

16

 

RESSENCE และนาฬิการุ่น Type 7 ที่ออกแบบมาสำหรับทุกความท้าทาย จากการสวมใส่และสามารถใช้งานได้จริงในทุกวัน ผลิตจากวัสดุไททาเนียมเกรด 5 และผสมผสานความแข็งแกร่ง เข้ากับน้ำหนักที่เบาเพื่อการสวมใส่ ได้ในทุกวันจากสายแบบอินทริเกด พร้อมชุดล็อคแบบบานพับที่ปรับระดับได้ใน 5 ตำแหน่งเพื่อให้สวมใส่ได้กระชับที่สุด ผนวกกับฟังก์ชั่นแสดงค่าเวลาจีเอ็มที ที่ช่วยให้สามารถอ่านค่าเวลาเขตที่สอง ได้อย่างชัดเจนและใช้งานง่าย ภายใต้หน้าปัดและสไตล์ของนาฬิกาจาก RESSENCE ดั้งเดิมอย่างครบถ้วน

 

88

 

17

 

18

 

19

 

TRILOBE Une Folle Journée มาพร้อมหน้าปัดในสไตล์คอลเลคชั่นนี้ ที่พิศวงด้วยวงแสดงค่าสามชุด ที่หมุนรอบหน้าปัดได้อย่างแปลกตา พร้อมโทนสีเขียวหรือสีน้ำเงินที่ลอยตัวอยู่ เหนือชุดกลไกที่มีฟันเฟืองรายล้อมอยู่ด้านล่าง ร่วมกันทำให้เกิดเป็นดีไซน์ที่จดจำได้ในทันที กับโทนสีสันที่ให้ความรู้สึกแตกต่าง จากบริดจ์ของชุดกลไกที่มีพื้นผิวเคลือบโรเดียม ที่ช่วยเสริมสถาปัตยกรรมของนาฬิกาให้โดดเด่นขึ้น ในทุกรายละเอียดโดยเงาสะท้อน ของวงแสดงค่าแต่ละชุดจะช่วยทำให้หน้าปัดดูมีมิติที่ลึกและเด่นชัดมากขึ้น

 

20

 

21

 

22

 

CHARRIOL เปิดตัวนาฬิการุ่น Mariner นาฬิกาในคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อฉลองจิตวิญญาแห่ง "Bijoux Montre" หรือนาฬิกาในรูปแบบเครื่องประดับ อันเป็นสไตล์หลักของแบรนด์มาโดยตลอด พร้อมการถ่ายทอดมรดกด้านการออกแบบ ที่ผนวกเข้ากับงานฝีมือและความหลงใหล ในท้องทะเลสู่ทุกข้อมือ จากการนำเสนอนาฬิกาในรูปแบบของตัวเรือน ที่ผนวกเข้ากับสายนาฬิกาพร้อมลวดลายพิเศษ ที่เปลี่ยนสไตล์ดั้งเดิมสู่ยุคใหม่ของแบรนด์ได้อย่างงดงาม โดยยังคงภาพลักษณ์ของความหรูหราไว้เช่นเดิม

 

23

 

50

 

60

 

BAUME & MERCIER กับคอลเลคชั่น Riviera และนาฬิกาที่ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นใหม่ล่าสุดจำนวนเพียง 73 เรือน Riviera 10828 ที่นำรูปแบบดั้งเดิมที่ผลิตเป็นครั้งแรกในปี 1973 สู่ตลาดอีกครั้ง พร้อมกลไกโครโนกราฟฟลายแบ็คอันโดดเด่น นอกจากนี้ยังมี Riviera 10815ในตัวเรือนโรสโกลด์ ที่มาพร้อมหน้าปัดแบบแซฟไฟร์สีน้ำเงิน ที่ทำให้สามารถมองเห็นการทำงานของชุดกลไกด้วย รวมทั้ง Riviera สำหรับคุณสุภาพสตรีที่มาพร้อมหน้าปัดสีทอง และการประดับเพชรรอบตัวเรือนในขนาด 33 มิลลิเมตร

 

26

 

27

 

ส่วน BELL & ROSS ก็กลับมาอีกครั้งกับ BR-03 Skeleton Black Ceramic อันเป็นหนึ่งในนาฬิการุ่นยอดนิยมของแบรนด์ ที่มาพร้อมขนาดที่เหมาะกับข้อมือคนเอเชียมากยิ่งขึ้น ผนวกเข้ากับการปรับเปลี่ยนในหลายส่วน ทั้งวัสดุที่เป็นเซรามิคและหน้าปัดที่เป็นแซฟไฟร์ ที่ให้ลุคความเป็นนาฬิกาในแบบสเกเลตันได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ยังมี BR-05 36MM Black Steel ที่นำเสนอนาฬิกาสู่ขนาดที่เล็กลงเป็น 36 มิลลิเมตร พร้อมความเป็นนาฬิกาในแบบแมคคานิคอล จากหน้าปัดกระจกแซฟไฟร์ที่ทำให้มองเห็นการทำงานได้

 

 

โปรดติดตามบทความ WATCHES & WONDERS 2025 ได้ในครั้งต่อไป