การกลับมาอีกครั้งของ DANIEL ROTH กับผลงานล่าสุด Extra Plat Souscription

ภายใต้ชื่อ Extra Plat Souscription ที่ได้รับการพัฒนาและผลิตขึ้นโดย LA FABRIQUE DU TEMPS พร้อมแนวคิดของนาฬิกาที่มีตัวเรือนบางเฉียบ ที่ถือเป็นตัวอย่างที่ดีเลิศของความหรูหราในการใช้งานจริง ซึ่งเป็นส่วนที่ Mr. Daniel Roth ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวมาโดยตลอด โดยหลังจากการออกแบบโครงร่างและเก็บเอาไว้ตั้งแต่ช่วง 80s Mr. Roth ก็ได้นำเสนอนาฬิกาในแบบ Extra Plat ครั้งแรกขึ้นในปี 1990 ซึ่งเป็นเวลาหนึ่งปีหลังจากการเปิดตัวแบรนด์ด้วยนาฬิการุ่น Tourbillon ใน Ref. C187

 

DR souscription extra plat PR VUE 7 presse digital

 

และในวันนี้ที่ DANIEL ROTH แสดงความเคารพต่อรากฐาน และผู้ก่อตั้งด้วยการนำเสนอนาฬิการุ่น Extra Plat Souscription ที่สะท้อนให้เห็นถึงนาฬิการุ่นต้นแบบ โดยยังคงยึดมั่นในสไตล์และงานฝีมือ จากนาฬิการุ่นดั้งเดิมของปี 1990 แต่ใช้งานกับกลไกชุดใหม่ทั้งหมด ซึ่งก็คือกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ DR002 ที่ได้รับการพัฒนาสำหรับนาฬิการุ่นนี้โดยเฉพาะ ในเรื่องนี้ Mr. Michel Navas และ Mr. Enrico Barbasini ผู้ก่อตั้ง LA FABRIQUE DU TEMPSกล่าวว่า "จากการที่ได้รู้จักกับ Daniel มานาน”

 

DR souscription extra plat PR VUE 8 presse digital

 

“เราจึงอยากที่จะรักษาปรัชญาและวิสัยทัศน์ ในด้านการผลิตนาฬิกาตามรูปแบบของเขาไว้" โดยมีนาฬิการุ่น Extra Plat Souscription เป็นตัวอย่างของนาฬิกาที่เรียบง่ายกับชุดเข็มสองชุด แต่สามารถให้สุนทรียภาพได้ในระดับสูงสุด พร้อมมาตรฐานทางเทคนิคอย่างเดียวกับที่ Daniel จะทำ แต่ทำภายใต้โรงงานการผลิตเท่านั้น” จากการนำเสนอในตัวเรือนวัสดุเยลโลว์โกลด์ เข้ากันกับหน้าปัดที่ผลิตจากวัสดุเยลโลว์โกลด์เช่นกัน พร้อมเทคนิคในการตกแต่งด้วยลวดลายกิโยเช่กับการผลิตด้วยมือล้วนๆ

 

DR souscription extra plat PR VUE 9 presse digital

 

Extra Plat Souscription ยังคงรักษารูปแบบพร้อมรสนิยมจากรุ่นดั้งเดิมในปี 1990 ไว้อย่างครบถ้วนโดยมีตัวเรือนในขนาดเดียวกับนาฬิการุ่น Tourbillon Souscription โดยมีตัวเรือนขนาดกว้าง 35.5 มิลลิเมตรและยาว 38.6 มิลลิเมตรแต่มีความหนาเพียง 7.70 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ชุดกลไกคาลิเบอร์ DR002 ที่บางเป็นพิเศษและความหนาเพียง 3.1 มิลลิเมตร พร้อมการออกแบบตัวเรือนที่ยังคงเป็นแบบต้นฉบับ แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของ DANIEL ROTH

 

DR souscription extra plat PR VUE 8 presse digital

 

โดยมีตัวเรือนเยลโลว์โกลด์รูปทรงวงรีคู่อันเป็นเอกลักษณ์ และขาตัวเรือนที่โค้งมนพร้อมกดระดับ ให้โค้งลงด้านล่างเพื่อให้สามารถเข้ากับข้อมือได้อย่างสวยงาม โดยขาตัวเรือนนี้ยังใช้วิธีการแบบดั้งเดิม นั่นคือการผลิตแต่ละชิ้นแยกกัน จากนั้นจึงถูกเชื่อมต่ออย่างแนบเนียนกับตัวเรือนด้วยมือทีละชิ้น ไม่ต่างกับหน้าปัดกิโยเช่ที่ผลิตขึ้นในแบบดั้งเดิม ซึ่งจะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนสองชิ้น ทั้งส่วนฐานและแชปเตอร์ริงที่ผลิตจากเยลโลว์โกลด์ ด้วยเครื่องกิโยชาจที่หมุนด้วยมือในโรงงานเอง

 

DR souscription extra plat PR VUE 10 presse digital

 

ในลวดลายแบบคลูเดอปารีส์บนฐานหน้าปัด ในแบบเส้นตรงจากการทำงานด้วยเครื่องที่ใช้มือหมุน ซึ่งผลิตขึ้นในช่วงประมาณปี 1935 ในขณะที่ขอบบนทั้งฐานและวงแหวน จะทำงานด้วยเครื่องในลักษณะเดียวกันจากปี 1850 โดยการทำงานในขั้นตอนนี้ จะเป็นการกลึงโดยช่างฝีมือเพียงคนเดียวเท่านั้น กับกระบวนการอันเป็นความอุตสาหะที่ต้องใช้เวลาทำงานกว่า 10 ชั่วโมงต่อหน้าปัดกิโยเช่หนึ่งชุด เนื่องจากมีรายละเอียดมากมายที่จะสังเกตเห็นได้ รวมทั้งการพิมพ์บนหน้าปัดในทุกจุดอีกด้วย

 

Screenshot 2568 02 19 at 00.17.11

 

และสำหรับชุดกลไกคาลิเบอร์ DR002 ก็ยังคงลักษณะรูปทรงวงรีเหมือนกับตัวเรือน ที่แม้จะมีรูปแบบที่แหวกแนว แต่ก็ยังโดดเด่นด้วยคุณสมบัติทั้งหมดเอาไว้ ทั้งในแง่ของโครงสร้างและการตกแต่งในแบบคลาสสิค ที่จะต้องมีการเก็บชิ้นงานในทุกมุมของบริจด์ ด้วยมุมที่ลาดเอียงและขัดเงาแวววาวที่เรียกว่าแองเกลจ ซึ่งจะกระทำได้เฉพาะจากช่างฝีมือผู้ชำนาญการเท่านั้น โดยยังมีการรวมความรู้สึกจากการสัมผัสในแง่มุมต่างๆ อีกด้วย ตัวอย่างเช่นเสียงคลิกจากการไขลานที่ทำให้เข้าใจได้

 

DR souscription extra plat PR VUE 6 presse digital

 

รวมไปถึงชุดบาลานซ์วีลที่ทำงานในระดับ 4 เฮริท์ซแบบฟรีสปริงและประกอบด้วยแขนในสี่ด้าน โดยแต่ละแขนจะมีน้ำหนักความเฉื่อยแปรผันเพื่อการควบคุม ซึ่งรับประกันถึงการแสดงค่าเวลาที่เหนือกว่า และมีเสถียรภาพในระยะเวลาที่ยาวนาน พร้อมชุดเมนสปริงขนาดใหญ่เพียงตัวเดียว ที่สามารถให้พลังสำรองลานได้นานถึง 65 ชั่วโมงหรือเป็นเวลาถึงกว่าสามวัน โดยนาฬิกา DANIEL ROTH รุ่น Extra Plat Souscription จะผลิตขึ้นในแบบจำนวนจำกัดเพียง 20 เรือนทั่วโลกเท่านั้น