High-Tech Performance
นาฬิกาจาก BIANCHET กับแนวคิดในการใช้งานจริง ที่ต้องผ่านการทดสอบในสถานการณ์ต่างๆ ภายใต้สภาวะสุดขั้วหลากหลายรูปแบบ โดยนาฬิกาทุกเรือนของ BIANCHET จะต้องได้รับการสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อให้มีประสิทธิภาพตรงตามมาตรฐาน ทางวิศวกรรมในระดับสูงสุดตามแนวทางการผลิต นาฬิกาชั้นเลิศของสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งมีความเป็นเลิศในทุกสถานการณ์ เมื่อใช้งานจริงที่มาจากความล้ำสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนาฬิกากลไกตูร์บิยอง
ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนในระดับซับซ้อนสูง รวมไปถึงการใช้วัสดุในการสร้างสรรค์ที่เหมาะสม ที่ต้องใช้เครื่องมือและเครื่องจักร ที่มีความแม่นยำสูงรวมถึงทักษะในด้านการผลิต ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้านทั้งประสบการณ์และความสามารถ โดยเฉพาะกับสถาปัตยกรรมโครงสรางไทเทเนียมของ BIANCHET ที่ต้องผ่านการทดสอบว่าจะมีความสามารถ ในการต้านทานแรงกระแทกได้สูง รวมทั้งเป็นกรอบโครงสร้างที่ยืดหยุ่น แต่บางเบาและไม่มีความเป็นแม่เหล็กในตัว
ซึ่งเป็นหนึ่งในความสำคัญต่อการทำงานของชุดกลไก ที่จะมีผลต่อการทำงานในระดับสูง ทั้งความเที่ยงตรงรวมไปถึงพลังสำรองลาน ซึ่ง BIANCHET ถือเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มีตัวเรือนผสมจากวัสดุคาร์บอน ในรูปทรงตอนโนเพียงไม่กี่แบรนด์ ที่จะสามารถทนทานต่อแรงดันน้ำในระดับ 10 ATM หรือ 100 เมตร ได้ รวมทั้งความสามารถในการต้านทานแรงกระแทกได้ถึงระดับ 5,000 G โดยนาฬิกาในคอลเลคชั่น B1.618 ก็ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย
และได้รับการรับรองว่าสามารถสวมใส่ ระหว่างการเล่นกีฬากลางแจ้ง และกิจกรรมทางน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมด้วยความไฮเทคที่ BIANCHET มีการพัฒนาวัสดุพิเศษขึ้นนั่นก็คือ ไทเทเนียม-ดัสท์-ไฮ-เดนซิตี้-คาร์บอน (Titanium-Dust-High-Density-Carbon) ซึ่งเป็นองค์ประกอบของวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ เข้ากันกับผงไทเทเนียมที่สร้างจากเส้นใยคาร์บอน ในระดับความหนา 0.03 มิลลิเมตร ที่จะผ่านกระบวนการบีบอัดถึงประมาณ 500 ชั้น โดยมีการผสมกับผงไทเทเนียมในระหว่างทุกๆ สองชั้น
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือวัสดุที่มีความทนทานสูงรวมทั้งมีน้ำหนักที่เบา โดยเป็นการนำเสนอคุณสมบัติของวัสดุ ในแบบคอมโพสิทไฮเทค ที่มาพร้อมคุณค่าของโลหะที่มีตระกูล ที่ต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้ผ่านขั้นตอนการทดสอบอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการใช้งานจริง ของนักเทนนิสชั้นนำทั้ง Grigor Dimitrov และ Alexander Bublik ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความแม่นยำของแขนและข้อมือ รวมไปถึงพละกำลังและความรวดเร็ว ที่ใช้ทางด้านการกีฬาระดับโลกนี้
เช่นเดียวกับนักโต้คลื่นลูกใหญ่ Francisco Porcella ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการโต้คลื่น ในระดับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่ซึ่งนาฬิกา BIANCHET ได้พิสูจน์ได้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการใช้งาน จากโลกแห่งความเป็นจริงในระดับสุดขั้ว กับหลากหลายสถานการณ์ทั่วโลก ตั้งแต่สนามเทนนิสหรือสนามโปโล ไปจนถึงส่วนลึกของมหาสมุทร ที่ต่างแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด ถึงความสามารถและประสิทธิภาพของนาฬิกาเรือนจริง ที่ไม่ใช่เป็นแค่เพียงการทดสอบในระดับห้องปฏิบัติการ
