The launch of BLANCPAIN Bathyscaphe Quantième Complet Phases de Lune

BLANCPAIN จัดงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่ให้กับการเปิดตัวนาฬิกา Bathyscaphe Quantième Complet Phases de Lune โฉมใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมตัวเรือนและสาย ที่ผลิตขึ้นจากเซรามิคสีดำที่ได้รับการจดสิทธิบัตร โดยเฉพาะเป็นครั้งแรกภายใต้คอนเซ็ปท์ ‘Eternal Movement Beyond Black’ หรือกลไกสุดอมตะในรูปลักษณ์สีดำเหนือระดับ ที่โดดเด่นด้วยลุคสปอร์ตที่ยังคงความหรูหราขั้นสูงสุด พร้อมถ่ายทอดผ่านหน้าปัดสีน้ำเงิน สีเขียว หรือสีดำ ซึ่งขัดแต่งลวดลายซันเรย์

 

Blancpain Eternal Movement Beyond Black 1

 

ส่วนสายนาฬิกาก็ยังมีให้เลือกสรรทั้งแบบเซรามิค, แบบสายนาโต้ และแบบสายผ้าใบ ซึ่งเป็นการเติมเต็มนาฬิกาในไลน์ Bathyscaphe ให้ยิ่งทรงพลัง มีสีสัน และมีมิติมากยิ่งขึ้นโดยในงานนี้ได้ Friend of the Brand of BLANCPAIN อย่างสองเชฟฝาแฝด Thomas และ Mathias Sühring เชฟของร้านอาหารระดับมิชลิน ที่ร่วมเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของงาน ร่วมกันกับผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญ ที่มีโอกาสได้สัมผัสกับความพิเศษของเรือนเวลารุ่นใหม่ล่าสุดนี้อย่างใกล้ชิด

 

Blancpain Eternal Movement Beyond Black 4

 

นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาใน Ref. 5054-3640-76S และ Ref. 5200-3640-76S ที่ถือเป็นนาฬิกาในคอลเลคชั่น Fifty Fathoms Bathyscaphe ในร่างแบบทองคำล้วนรุ่น Quantième Complet และ Chronographe Flyback วัสดุเรดโกลด์ ทั้งในส่วนของตัวเรือนและสายที่ถูกรังสรรค์อย่างประณีต เพื่อสะท้อนถึงความมั่งคั่งและหรูหรา พร้อมให้ลุคสุดและโดดเด่นผ่านเฉดสี ที่เข้มข้นและรูปลักษณ์ที่สง่างาม จากนาฬิการุ่น Fifty Fathoms Bathyscaphe ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1953

 

Blancpain Eternal Movement Beyond Black 12

 

ในฐานะนาฬิกาดำน้ำแบบโปรเฟสชั่นแนลเรือนแรก ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นอุปกรณ์ สำหรับนักดำน้ำมืออาชีพโดยเฉพาะ ในขณะที่นาฬิการุ่น Bathyscaphe ที่เปิดตัวตามมาในปี 1956 จะมีลักษณะที่เหมาะกับการสวมใส่ ในชีวิตประจำวันเนื่องจากมีขนาดที่เล็กกว่า แต่ก็ยังคงเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ที่พร้อมจะนำไปใช้ในการสำรวจโลกใต้น้ำได้เช่นกัน สู่การผลิตสายนาฬิกาด้วยวัสดุเรดโกลด์ที่สวยงาม ในยุคปัจจุบันที่ต้องอาศัยขั้นตอนที่หลากหลาย ในการประกอบรวมทั้งขั้นตอนในการตกแต่งระดับสูง

 

Blancpain Eternal Movement Beyond Black 11

 

โดยข้อสายแต่ละข้อจะได้รับการขัดแต่งด้วยลายซาติน ที่กระทำขึ้นด้วยมือเท่านั้นโดยจะเชื่อมต่อกัน ผ่านหมุดแนวขวางแบบใหม่ ที่ทำให้สายมีความยืนหยุ่นและช่วยให้สามารถ สวมใส่บนข้อมือได้อย่างไร้ที่ติ พร้อมสกรูว์ที่ถูกวางตำแหน่งให้อยู่ด้านหลัง ของข้อเพื่อทำให้ลุคและสัมผัสบริเวณด้านข้าง ของสายนาฬิกามีความราบเรียบ โดยระบบดังกล่าวนี้ยังได้รับการจดสิทธิบัตรโดยเฉพาะอีกด้วย พร้อมหน้าปัดในแบบไล่เฉดสีที่ให้ลุคสุดโดดเด่นกับเรือนเวลา

 

Blancpain Eternal Movement Beyond Black 16

 

กับหน้าปัดของนาฬิกาทั้งสองรุ่นที่มีเฉดสีน้ำเงินอันงดงาม จากการไล่เฉดสีที่ละเอียดละออผสานกับการขัดแต่งในลวดลายซันเรย์ ที่ทำให้หน้าปัดดูมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยบุคลิกยามเมื่อสะท้อนกับแสง แสดงให้เห็นถึงความลึกของเฉดสีสุดลึกล้ำพร้อมทั้งดึงดูสายตาในทุกมิติ โดยเรือนเวลาแต่ละเรือนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเฉกเช่นเดียวกับผู้สวมใส่ ซึ่งสีที่ตัดกันระหว่างหน้าปัด และตัวเรือนกับสายยังสามารถ เล่นกับแสงในแบบของตัวเองได้อย่างโดดเด่นอีกด้วย

 

Screenshot 2567 08 04 at 22.14.10

 

Blancpain Eternal Movement Beyond Black 6

 

Blancpain Eternal Movement Beyond Black 7