The Masterpiece of MAURICE LACROIX, Part II
เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่นาฬิกาแบบกลไกของ MAURICE LACROIX ได้รับการออกแบบและผลิตด้วยความตั้งใจ พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบ ของชุดกลไกโดยช่างนาฬิกาผู้มีประสบการณ์ ทั้งงานการสร้างชุดโมดูลพิเศษ เพื่อให้เกิดฟังก์ชั่นแบบคอมพลิเคชั่น หรืองานการตกแต่งในขั้นตอนสุดท้าย จนกระทั่งถึงขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ที่มีขนาดเล็กเข้าด้วยกัน
จนถึงปัจจุบันที่นาฬิกาในคอลเลคชั่น Masterpiece ยังคงเป็นอีกหนึ่งในคอลเลคชั่นหลักของแบรนด์ โดยขยายขอบเขตออกไปผสมผสาน รวมเข้ากับคอลเลคชั่นอื่นๆ อย่างเช่น AIKON ในปัจจุบันจากแนวคิดอันเป็นอิสระของแบรนด์ ตั้งแต่ด้านการผลิต การพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ พร้อมกับราคาที่สมเหตุสมผล และจูงใจให้ผู้คนได้เข้าถึงพร้อมทั้งรู้จักกับโลกของนาฬิกาจักรกลได้ง่ายยิ่งขึ้น
อย่างเช่นนาฬิการุ่น Masterpiece Triple Retrograde ในสนนราคาที่ 219,000 บาทถือเป็นนาฬิกาที่มีหน้าปัดอันโดดเด่น จากชุดรีโทรเกรดที่หาไม่ได้กับนาฬิกาทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับราคาเช่นนี้ กับนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง เช่นเดียวกันกับนาฬิการุ่น Masterpiece Square Wheel ที่มีชุดรีโทรเกรดหนึ่งชุดเพื่อใช้แสดงวันที่ และจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์บนหน้าปัด ในสนนราคาที่ 290,900 บาท
รวมไปถึงนาฬิการุ่น Masterpiece Skeleton ในสนนราคาที่ 227,900 บาท พร้อมการนำเสนอหน้าปัดในแบบสเกเลตัน ที่ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของแบรนด์ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ในการเปิดประสบการณ์ของชุดกลไกให้กับทุกผู้คนที่พบเห็น ภายใต้รูปแบบตัวเรือนที่ราบเรียบและนุ่มลึก พร้อมความแปลกตาของชุดกลไก ที่มาพร้อมโครงสร้างหลักที่แทนค่าหลักแสดงเวลาทั้ง 12 ได้ดี
ซึ่งดีเอ็นเอนี้ถูกถ่ายทอดต่อไปยังนาฬิการุ่น AIKON Automatic Skeleton ในสนนราคาที่ 248,900 บาท พร้อมรูปแบบของชุดสเกเลตันที่แตกต่างกัน เพื่อเน้นให้ชุดกลไกเข้ากันได้ดีกับตัวเรือนของ AIKON ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางกระจกแซฟไฟร์ ที่มีการเคลือบสารกันแสงสะท้อนในชั้นใน เพื่อประกอบชุดกลไกเข้ากับโครงสร้าง และยังเป็นการจัดวางมาร์กเกอร์ได้อย่างแนบเนียนไปพร้อมกัน
โดยไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่นาฬิการุ่น AIKON Master Grand Date กับสนนราคาที่ 318,900 บาท ที่ถือเป็นการรวมเอาการพัฒนาด้านต่างๆ ของแบรนด์ มาใช้ในตัวเรือนแบบ AIKON และประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง พร้อมคงความโดดเด่นของการแสดงชุดกลไก ให้สามารถมองเห็นบนหน้าปัดได้อย่างชัดเจน กับชุดบาลานซ์วีลขนาดใหญ่ที่บ่งบอกได้ทันที ถึงความเป็นนาฬิกาแบบจักรกลแท้ๆ
ซึ่งแน่นอนว่านาฬิการุ่นระดับไฮเอนด์ ของแบรนด์จะยังไม่หมดลงเพียงเท่านี้ เพราะนาฬิการุ่นพิเศษอีกรุ่นที่กำลังได้รับการพัฒนา และพร้อมจะนำเสนอสู่ตลาดในเร็ววันนี้ น่าจะเป็นนาฬิการุ่นที่ทุกคนต้องจับตามอง กับสไตล์และฟังก์ชั่นของนาฬิกาที่พิเศษและแตกต่าง ในแบบที่ไม่มีนาฬิกาแบรนด์ไหนเคยทำมาก่อน พร้อมกับการแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ ที่จะพัฒนาชุดกลไกพิเศษระดับนี้ได้