CHRISTIE’S with GAYSORN VILLAGE for ONLY WATCH 2023
ยิ่งใหญ่สมกับเป็นวอทช์เดสทิเนชั่นชั้นนำของประเทศไทย ทั้งยังตอกย้ำความเป็น Like-Minded Community ที่เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ของเหล่าคนรักเรือนเวลาหรู เพื่อการส่งมอบประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส GAYSORN VILLAGE นำโดย คุณจิรัสย์ วัฒนภัทรเศรษฐ์ รองกรรมการบริหาร ร่วมกับ CHRISTIE’S Thailand นำโดย คุณประภาวดี โสภณพนิช รองประธาน
จัดงาน ONLY WATCH And Hong Kong Auction Previews 2023 ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกระหว่าง GAYSORN VILLAGE และ CHRISTIE’S Thailand ที่รวบรวม 62 แบรนด์ชั้นนำจากงานการประมูลเพื่อการกุศล ONLY WATCH 2023 ซึ่งเตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ณ เจนีวา มาเวิลด์ทัวร์ให้แฟนๆ ชาวไทยได้ยลโฉมก่อนใคร
นอกจากนาฬิกาจาก ONLY WATCH 2023 แล้วยังมีอัญมณีหายากและล้ำค่าจากงานการประมูลที่ฮ่องกง ไปจนถึงผลงานศิลปะร่วมสมัยที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน จากสองศิลปินแห่งชาติไทยอย่าง อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี และอาจารย์ประเทือง เอมเจริญ เข้าร่วมอีกด้วย โดยจัดแสดง ณ เกษรทาวเวอร์ ชั้น 20 เมื่อวันที่ 11-12 ตุลาคม 2566 ซึ่งประเทศไทยนับเป็นหมุดหมายแรก ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยงานประมูลนาฬิกา ONLY WATCH ถือเป็นงานประมูลนาฬิการะดับโลก ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2005 และจะจัดขึ้นในทุกๆ สองปีโดย Luc Pettavino ภายใต้การอุปถัมป์ของ H.S.H. เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก เพื่อจุดประสงค์ในการระดมทุนสำหรับการวิจัยโรคกล้ามเนื้อเสื่อม (Duchenne - DMD) โดย DMD เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลกระทบต่อเด็กชาย 1 ใน 3,500 คนทั่วโลก
ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นคือ Paul ลูกชายของ Luc และ Monique ผู้ริเริ่มโครงการประมูลนี้ ซึ่งผลที่ตามมาส่งผลให้กล้ามเนื้อทั้งหมดอ่อนแรงลงเรื่อยๆ รวมไปถึงหัวใจ และการสูญเสียความสามารถในการดำรงชีวิตอยู่ ซึ่งปัจจุบันรายได้จากงานประมูลนาฬิกา ONLY WATCH 9 ครั้งที่ผ่านมา สามารถระดมทุนทั้งหมดเพื่องานวิจัยได้มากกว่า 4,000,000,000 ล้านบาทแล้ว
สำหรับงานประมูลนาฬิกา ONLY WATCHองค์กรต่างๆ รวมไปถึงแบรนด์นาฬิกา ต่างให้ความสำคัญโดยการสร้างนาฬิกาเรือนพิเศษขึ้นเพื่อการประมูล รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ไปพร้อมกัน โดยในปีนี้สำนักงานการประมูล CHRISTIE’S ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ รวมทั้ง GAYSORN VILLAGE ที่ร่วมอำนวยความสะดวกในการแสดงนาฬิกา ซึ่งหนึ่งในหลายประเทศทั่วโลกคือประเทศไทย
และนาฬิกาทั้งหมดจะจัดแสดงขึ้น ณ เกษรทาวเวอร์ชั้น 20 สำนักงานการประมูล CHRISTIE’S ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 11และพฤหัสที่ 12 ตุลาคม โดยจะเป็นการจัดแสดงเฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น พร้อมกับแบรนด์นาฬิกาทั้งหมดที่จะมาจัดแสดงในช่วงเวลาต่างๆ ทั้งสองวัน โดยนาฬิกาทุกเรือนจะเป็นเรือนจริงที่จะนำขึ้นประมูลที่เจนีวาในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ และนี่คือบางส่วนของนาฬิกาทั้งหมดที่จะนำมาจัดแสดง
เริ่มต้นด้วย AUDEMARS PIGUET Royal Oak Selfwiding Flying Tourbillon Openworked ONLY WATCH Edition OYAL ที่เป็นการผสมผสานตัวเรือนและสายที่ผลิตจากเซรามิคสีขาว เข้ากับกลไกอินเฮ้าส์แบบโอเพ่นเวริ์ค ที่มีโครงสร้างของชุดกลไกภายใน ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากหน้าปัดเป็นโทนสีน้ำเงิน โดยจะมีราคาประเมินไว้ที่ CHF 300,000 - 350,000
BOVET 1822 Orbis Mundi ที่มีตัวเรือนผลิตจากวัสดุเรดโกลด์ในขนาด 42 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอินเฮ้าส์ พร้อมด้วยหน้าปัดกิโยเช่ในโทนสีม่วงแดง และส่วนแสดงเวลาโลกที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ในแบบฉบับของ BOVET ซึ่งจะมีคำว่าโมนาโกเป็นสีม่วงแดง เช่นเดียวกับหลัก X ที่แทนความหมายของงานประมูลนาฬิกา ONLY WATCH ครั้งที่ 10 ในปีนี้ โดยมีราคาประเมินไว้ที่ CHF 52,000 - 65,000
CARL F. BUCHERER Manero Tourbillon Double Peripheral ONLYWATCH มีตัวเรือนที่ผลิตจากฟอร์จคาร์บอน และโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ของลายคาร์บอนหินอ่อนสีดำ ที่ให้ความรู้สึกแบบคนเมือง เสริมด้วยส่วนประกอบที่เป็นสีดำเกือบทั้งหมด พร้อมทั้งเน้นชุดกรงฟลายอิ้งตูร์บิยอง ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกากับชุดแสดงเวลาวินาทีสีเขียวสะดุดตาโดยจะมีราคาประเมินไว้ CHF 60,000 - 100,000
GIRARD-PERREGAUX Neo Constant Escapement ONLY WATCH Edition เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีการสร้างแรงคงที่ ด้วยชิ้นส่วนพิเศษที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมปรับปรุงงานด้านสุนทรียภาพ ให้เข้ากับงานทางเทคนิคระดับสูง เพื่อแสดงถึงความกล้าหาญของผู้ผลิต และงานฝีมือระดับตำนานที่ทั่วโลกต่างยอมรับ โดยจะมีราคาประเมินไว้ที่ CHF 140,000 - 220,000
HUBLOT MP-15 Takashi Murakami Tourbillon ONLY WATCH นาฬิกาเรือนแซฟไฟร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากดอกไม้ยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของ Takashi Murakami นักออกแบบชื่อดังจากญี่ปุ่น โดยมีกรงตูร์บิยองอยุ่กลางตัวเรือนเป็นครั้งแรกของ HUBLOT และล้อมรอบด้วยกลีบทั้ง 12 ที่ประดับด้วยอัญมณีจำนวน 444 เม็ด พร้อมให้พลังสำรองที่น่าประทับใจถึง 150 ชั่วโมง โดยมีราคาประเมินไว้ที่ CHF 350,000 - 400,000
MAURICE LACROIX Masterpiece ONLY WATCH 2023 มากับธีมสีสันที่สดใส ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานของศิลปิน Victor Vasarely พร้อมตัวเรือนแซฟไฟร์ในขนาด 43 มิลลิเมตร ที่สามารถมองเห็นการทำงานได้อย่างชัดเจน จากโครงสร้างหน้าปัดแบบสเกเลตัน นอกจากนี้ยังผสมผสานเฉดสีรุ้ง ให้เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการผลิตนาฬิกา โดยจะมีราคาประเมินไว้ CHF 25,000 - 35,000
PATEK PHILIPPE สร้างนาฬิกาเพื่อเป็นเกียรติแก่ Philippe Stern เนื่องในโอกาสวันเกิดปีที่ 85 ในเดือนพฤศจิกายน ในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นสุดพิเศษ 30 เรือนพร้อมกลไกซับซ้อน ซึ่งออกแบบและผลิตสำหรับนาฬิกาในโอกาสรำลึกนี้โดยเฉพาะ และจะไม่ถูกนำมาใช้อีกต่อไป ซึ่งสำหรับงานประมูลนาฬิกา ONLY WATCH 2023 จะเป็นหนึ่งในนาฬิกา 30 เรือนแต่จะมาในเวอร์ชั่นที่แตกต่างออกไป
TUDOR Prince Chronograph One ที่เป็นการฉลองให้กับนาฬิกาฟังก์ชั่นโครโนกราฟสุดคลาสสิกจากยุค 70s พร้อมรูปแบบที่ทันสมัยและมีเสน่ห์ โดยใช้กลไกโครโนกราฟคาลิเบอร์ใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ต้นจนจบโดย TUDOR กับตัวเรือนและสายที่ผลิตจากเยลโลว์โกลด์ ผนวกเข้ากับเอกลักษณ์ซึ่งตีความได้ถึงนาฬิกาโครโนกราฟแบบ "Big Block" โดยมีราคาประเมิน CHF 25,000 - 35,000
ULYSSE NARDIN Freak S ONLY WATCH เป็นการสร้างนาฬิกาอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่าง Freak S ที่เปิดตัวขึ้นครั้งแรกในปี 2022 ให้สำหรับโอกาสครบรอบ 10 ปีของ ONLY WATCH ด้วยการตีความให้เกิดสีสันบนชุดกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ UN-251 ในแบบโทนสีของสายรุ้งหรือจานสีโดยนาฬิกาเรือนสุดพิเศษนี้จะมีราคาประเมินไว้ที่ CHF 160,000 - 200,000
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานแสดงนาฬิกา ONLY WATCH 2023 ที่จะเกิดขึ้น โดยในปีนี้ประเทศไทยได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในประเทศ ที่จะมีการจัดแสดงนาฬิกาสุดพิเศษเหล่านี้ และ GAYSORN VILLAGE ในฐานะที่เป็นแหล่งรวบรวมแบรนด์นาฬิกาต่างๆ มากมายจากทั่วโลก รวมทั้งที่ตั้งของสำนักงานการประมูลระดับโลก CHRISTIE’S จึงได้รับคัดเลือกให้เกิดงานครั้งนี้ขึ้น