MB&F ต้นกำเนิดแห่งแนวคิดห้องปฏิบัติการด้านเครื่องจักรกลบอกเวลา
จากการก่อตั้งแบรนด์ขึ้นในปี 2005 MB&F ถือเป็นห้องปฏิบัติการเครื่องจักรกลบอกเวลา แนวคิดใหม่แห่งแรกของโลก พร้อมการนำเสนอชุดกลไกอันน่าทึ่งกว่า 20 ชุด ที่สร้างฐานอันมั่นคงให้กับเครื่องจักรกลบอกเวลาอันมีชื่อเสียงแบรนด์นี้ ทั้งในคอลเลคชั่น Horological Machines และ Legacy Machines โดย MB&F ยังคงเดินรอยตามวิสัยทัศน์ของ Maximilian Büsser ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการด้านการสร้างสรรค์ ในการสร้างศิลปะจลศาสตร์สามมิติ ที่แตกต่างจากการประดิษฐ์นาฬิกาแบบดั้งเดิม
หลังจากกว่า 15 ปีของการบริหารงานให้กับเหล่าแบรนด์นาฬิกาอันทรงเกียรติ ก็ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารของ Harry Winston ในปี 2005 เพื่อสร้างสรรค์แบรนด์ MB&F ที่ย่อมาจาก Maximilian Büsser & Friends โดยถือเป็นห้องปฏิบัติการเชิงศิลป์และวิศวกรรมจุลภาค ที่ทุ่มเทให้กับการออกแบบและรังสรรค์นาฬิกาตามแนวคิดสุดขั้ว ด้วยจำนวนการผลิตที่ไม่มาก แต่เป็นการรวบรวมเหล่ายอดฝีมือด้านเครื่องบอกเวลาผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ ที่ Max ทั้งให้ความเคารพและสนุกกับการทำงานร่วมกัน
จนในปี 2007 ที่ MB&F มีการเปิดตัวนาฬิกา Horological Machine รุ่นแรกในชื่อ HM1 ภายใต้ประติมากรรมตัวเรือนสามมิติและกลไก ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ซึ่งได้มอบมาตรฐานให้กับเหล่านาฬิกาในตระกูล Horological Machine รุ่นถัดมา โดยนาฬิกาทุกเรือนจะมิใช่เป็นเพียงในฐานะเครื่องบอกเวลาเท่านั้น จากการที่ Horological Machine ได้ออกสำรวจมาแล้วทั้งในโลกอวกาศกับ HM2, HM3 และ HM6 หรือกับท้องฟ้า HM4, HM9 และท้องถนนกับ HM5, HMX และHM8 พร้อมเหล่าอาณาจักรของสัตว์ใน HM7 และ HM10
ในปี 2011 MB&F เปิดตัวคอลเลคชั่น Lagacry Machine ภายใต้ตัวเรือนทรงกลมร่วมสมัย โดยผลงานเหล่านี้เป็นมากกว่าความคลาสสิค ซึ่งรังสรรค์ขึ้นเพื่อสดุดีให้กับความเป็นเลิศ ของการประดิษฐ์นาฬิกาในศตวรรษที่ 19 โดยการตีความใหม่ให้กับความซับซ้อน จากเหล่านักประดิษฐ์นวัตกรรมเรือนเวลาผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัย โดยเริ่มจากผลงาน LM1 และ LM2 จากนั้นจึงตามมาด้วย LM101 ที่นับเป็นเครื่องจักรบอกเวลาหรือแมชชีนของ MB&F รุ่นแรก ที่นำเสนอด้วยกลไกซึ่งพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด
ก่อนจะขยายคอลเลกชั่นนี้ไปสู่ความสมบูรณ์แบบ และความซับซ้อนของทั้งผลงานตั้งแต่ LM Perpetual, LM Split Escapement และ LM Thunderdome โดยในปี 2019 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญกับการสร้างสรรค์ MB&F รุ่นแรกที่อุทิศให้กับสุภาพสตรีนั่นคือ LM FlyingT พร้อมการฉลอง 10 ปีของ Legacy Machine ในปี 2021 ด้วย LMX ซึ่งโดยปกติแล้ว MB&F จะสลับระหว่างการเปิดตัว Horological Machine อันร่วมสมัยและแปลกแหวกแนวไปจากประเพณีดั้งเดิมกับ Lagacy Machine ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่
โดยมี F ที่หมายถึงผองเพื่อน (Friends) และเป็นไปโดยธรรมชาติที่ MB&F ได้พัฒนาความร่วมมือขึ้นมากมายกับเหล่าศิลปิน ช่างนาฬิกา นักออกแบบ และผู้ผลิต ที่พวกเขาต่างยกย่องซึ่งด้วยความร่วมมือนี้เองที่ได้นำพามาซึ่งสองสาขาใหม่ นั่นคือศิลปะการแสดง (Performance Art) และความร่วมมือแห่งการสร้างสรรค์ (Co-Creations) ขณะที่ชิ้นงานศิลปะการแสดงนั้นคือแมชชีนรุ่นต่างๆ ของ MB&F ที่ได้นำมากลับมารังสรรค์ใหม่อีกครั้ง โดยผู้เชี่ยวชาญและเปี่ยมด้วยพรสวรรค์จากนอกองค์กร
กับความร่วมมือแห่งการสร้างสรรค์ต่างๆ ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะเพียงนาฬิกาข้อมือ แต่ยังรวมไปถึงประเภทอื่นๆ ของเครื่องยนต์จักรกลหรือแมชชีน ที่ผ่านการคิดค้นทางวิศวกรรมและรังสรรค์ขึ้น ด้วยงานฝีมือจากเหล่าผู้ผลิตนาฬิกาสวิส ที่มาพร้อมแนวคิดและงานออกแบบของ MB&F และผลงานหลายๆ ชิ้นที่มาจากความร่วมมือแห่งการสร้างสรรค์เหล่านี้ อาทิ นาฬิกาคล็อกที่สร้างสรรค์ขึ้นร่วมกับ L’Epée 1839 เช่นเดียวกับความร่วมมืออื่นๆ กับ Reuge และ Caran d’Ache ที่สร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบของศิลปะจักรกลไว้
โปรดติดตามบทความต่อเนื่องในครั้งต่อไป