LONGINES with The Flyback Function
สำหรับนักบินแล้ว เวลาถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดด้านการบิน และในอดีตที่เทคโนโลยีด้านการบินยังไม่พัฒนาสู่ระบบดิจิตัลเช่นในปัจจุบัน การคำนวณห้วงเวลาขณะทำการบิน ถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับนักบินทุกคน โดยมีเวลาจำกัดเสมอสำหรับการคิดและคำนวณเส้นทางบิน ระยะทาง ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งทิศทางลมและอื่นๆ ซึ่งมีส่วนในการแปรผันเส้นทางบินได้มากมาย
และเวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการคิดคำนวณนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญที่สุดของชีวิต เพราะเสี้ยววินาทีอาจตัดสินความเป็นความตายของคนได้มากมาย ทั้งตัวนักบินเองหรือคนอื่นๆ รอบข้าง ดังนั้นกลไกโครโนกราฟจึงถือเป็นมากกว่าเครื่องมือ ที่จะตัดสินชะตาและชีวิตของผู้คนจำนวนมาก และยังทำให้ฟังก์ชั่นโครโนกราฟถือเป็นมากกว่าความพิเศษด้านการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักบินมืออาชีพ
โดยฟลายแบ็คคือฟังก์ชั่นที่เสริมเข้าไปในฟังก์ชั่นโครโนกราฟปกติ เพื่อช่วยในการจับเวลาครั้งใหม่ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นหลังจากทำการกดปุ่มเริ่มจับเวลาแล้ว และกดปุ่มเริ่มจับเวลานี้อีกครั้ง ก็จะช่วยรีเซ็ทเข็มให้ไปอยู่ตำแหน่งศูนย์พร้อมเริ่มจับเวลาเหตุการณ์ใหม่ได้ในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องกดหยุดและกดรีเซ็ทตามแบบฟังก์ชั่นโครโนกราฟแบบปกติที่ต้องมีใน 3 ขั้นตอนคือ กดเริ่ม กดหยุดกดรีเซ็ทและกดเริ่มอีกครั้ง
ซึ่งตำนานบทสำคัญอันยาวนานของ LONGINES ที่มีต่อโลกการบิน และมีอิทธิพลต่อผู้คนมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทั้งนักบินพลเรือน และนักบินทางการทหารที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับ LONGINES มาตั้งแต่อดีต เพื่อความสำเร็จด้านการบิน เพื่อบุกเบิกโลกแห่งใหม่ และเพื่อสถิติที่พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของมนุษย์ โดย LONGINES สร้างนาฬิกาฟังก์ชั่นโครโนกราฟฟลายแบ็คมากมายสู่โลก
ตั้งแต่ปี 1925 กับนาฬิกาข้อมือฟังก์ชั่นโครโนกราฟเรือนแรกที่มาพร้อมสองปุ่มและฟังก์ชั่นฟลายแบ็คที่ทำงานด้วยกลไกพื้นฐานคาลิเบอร์ 13.33Z และเสริมด้วยโมดูลชุดฟลายแบ็ค สู่ปี 1928 กับนาฬิกาข้อมือฟังก์ชั่นโครโนกราฟเรือนต่อมา ที่ยังใช้กลไกคาลิเบอร์13.33Z ชุดเดิม และปี 1929 กับนาฬิกาข้อมือฟังก์ชั่นโครโนกราฟ ในตัวเรือนทรงคุชชั่นที่แปลกตาออกไป
ปี 1936 กับนาฬิกาซีเรียลโครโนกราฟฟลายแบ็คเรือนแรกที่ทำงานด้วยกลไกโครโนกราฟฟลายแบ็คคาลิเบอร์ 13ZN ที่ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีกลไกโครโนกราฟที่มีความล้ำสมัยที่สุดในยุคนั้นที่ LONGINES มีการยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับชุดกลไกนี้ไว้ด้วย ซึ่งเป็นนาฬิการุ่นที่ Richard Byrd เลือกสวมใส่และใช้งานมาโดยตลอด จนมาถึงปี 1937 ที่มีการนำเสนอนาฬิกาโครโนกราฟที่สามารถกันน้ำได้เป็นครั้งแรก
มาพร้อมปุ่มกดที่มีความสามารถในการกันน้ำได้พร้อมฟังก์ชั่นฟลายแบ็คใหม่ที่ LONGINES มีการยื่นจดสิทธิบัตรเพิ่มเติมอีกครั้งในปี 1938 จนต่อมาในปี 1946 กับนาฬิกาโครโนกราฟฟลายแบ็คในขนาดโอเวอร์ไซส์ ที่มาพร้อมชุดกลไกแบบสต็อป-เซคคั่นส์คาลิเบอร์ 12.68Z พร้อมชุดจับเวลา 60 นาทีบริเวณกลางหน้าปัดและในปี 1947 กับนาฬิกาโครโนกราฟฟลายแบ็ค ที่ทำงานด้วยกลไกคาลิเบอร์ 30CH
ที่มาพร้อมชุดกลไกโครโนกราฟฟลายแบ็คและหน้าปัดย่อยแบบ 30 นาที ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ที่สามารถระบุความละเอียดของค่าเวลาระดับ 1/5th ของวินาทีได้จนต่อมาในปี 1968 กับนาฬิกาโครโนกราฟฟลายแบ็คแบบดำน้ำ พร้อมความสามารถในการกันน้ำได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งยื่นจดสิทธิบัตรนี้ในปีเดียวกัน จากความสามารถในการอ่านค่าเวลาได้ระดับ 100 มิลลิวินาที และสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร
นาฬิกาเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานของ LONGINES ที่มาพร้อมจิตวิญญาณนักบุกเบิกที่นำทางทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษคนสำคัญของโลกในการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและเชื่อมั่นในสิ่งที่วันหนึ่ง อาจเคยเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่ล้วนถูกถ่ายทอดสู่นาฬิกาในคอลเลคชั่น LONGINES Spirit ในปัจจุบันพร้อมเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจจากความเชื่อมั่นของพวกเขาที่เชื่อมโยงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับกับ LONGINES เสมอมา