BREGUET Type XX กับการกลับมาอีกครั้งอย่างแข็งแกร่ง
จากห้วงเวลากับระบบนำร่องการบิน ที่เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยที่มรดกทางประวัติศาตร์ของ BREGUET จะสามารถสรรค์สร้างแรงบันดาลใจไม่รู้จบ ให้กับแบรนด์ในการสร้างสรรค์ Type XX รุ่นใหม่ๆ ขึ้น โดยหากลองเรียบเรียงเรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นจากในช่วงต้นยุค 50s ที่ BREGUET สามารถสร้างนาฬิกาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ ของกองทัพอากาศที่มีความประสงค์อยากได้นาฬิกาข้อมือ กลไกโครโนกราฟที่มาพร้อมคุณสมบัติเฉพาะตัวอันโดดเด่น ซึ่งมีความพิเศษและแตกต่างจากทั่วไป ดังนั้น BREGUET ซึ่งเป็นแบรนด์อันทรงคุณค่าและมีชื่อเสียง พร้อมความมุ่งมั่นในการที่จะเป็นส่วนหนึ่ง ของการผจญภัยอันยิ่งใหญ่สำหรับมนุษยชาติ จึงอุทิศตนให้กับการสร้างสรรค์ระบบนำทาง สำหรับเครื่องบินในช่วงศตวรรษที่ 20 รวมถึงระบบนำทางสำหรับเรือเดินทะเลในศตวรรษที่ 19 โดยมีนักบินจำนวนมากได้ครอบครองนาฬิกา BREGUET ไว้โดยรวมไปถึง Alberto Santos-Dumont นักบินชาวอเมริกันที่มาประจำการในฝรั่งเศส รวมถึงเหล่านักบินชาวญี่ปุ่นที่มาเยือนฝรั่งเศสในช่วงยุค 20S และอีกมากมาย
ซึ่งสำหรับนักบินแล้ว Type XX คือนาฬิกาสำหรับเหล่านักบิน และเจ้าหน้าที่อากาศยาน ที่เรื่องของเวลาถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อต้องปฏิบัติภารกิจอยู่บนเครื่องบิน เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา พร้อมภารกิจหนักท่ามกลางความเครียด จากการดำเนินการต่างๆ ทั้งการคำนวณระยะเวลาบินมาตรฐาน หรือการคำนวณในรูปแบบที่แบบซับซ้อน การตรวจสอบระดับเชื้อเพลิง การดำเนินการและดูแลจัดการอุปกรณ์สำคัญต่างๆ ให้เรียบร้อยและลุล่วงนั้นในเวลาที่จำกัดเสมอ ล้วนต้องอาศัยอุปกรณ์ที่ผู้ประดิษฐ์จะต้องคำนึงถึง ทั้งความเที่ยงตรงแม่นยำและความสะดวกสบาย ในการใช้งานยาวนานเป็นระยะเวลาหลายปี ซึ่งก็คือฟังก์ชั่นโครโนกราฟที่สามารถใช้บนเครื่องบิน และต่อมาก็คือนาฬิกาข้อมือฟังก์ชั่นโครโนกราฟนั่นเอง โดยจากการศึกษาฐานข้อมูลเก่าจึงพบว่า มีการสร้างผลิตภัณฑ์แบบ “พิเศษ” ขึ้นหลายชิ้น อาทิ อุปกรณ์ที่สามารถใช้งาน ภายใต้ความกดอากาศแบบเฉพาะมาตั้งแต่ยุค 30s เรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็น แอร์โรโดรมโครโนมิเตอร์แบบ 19 ที่บรรจุในตัวเรือนที่ผลิตจากแร่เงิน เพื่อป้องกันผลกระทบจากสนามแม่เหล็ก
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์จับเวลาแบบสปลิท-เซคคั่นด์นาฬิกาแบบโครโนมิเตอร์ขนาดเล็ก ในตัวเรือนที่สามารถรักษาระดับอุณหภูมิได้ดี ชุดควบคุมอุณหภูมิและไฟ รวมทั้งอุปกรณ์แสดงตำแหน่งขณะบิน ซึ่งนาฬิกาที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้ ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบให้กับกองทัพอากาศ และสายการบินแห่งชาติฝรั่งเศส ที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นได้ไม่นานในช่วงเวลานั้น ซึ่งนั่นก็คือสายการบิน AIR France ในปัจจุบัน โดยการส่งมอบอุปกรณ์สำหรับติดตั้งบนแผงหน้าปัดเครื่องบิน มีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นตั้งแต่ปี 1950 และต่อเนื่องไปอีกกว่า 30 ปี ที่นับเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอันโดดเด่นของ BREGUET โดยอุปกรณ์รุ่นที่แพร่หลายมากที่สุดคือ Type 11, 11/1 และ 12 ที่จำหน่ายให้กับกว่า 12 ประเทศเพื่อการใช้งานด้านการบิน และยังปรากฏอยู่บนแผงอุปกรณ์บนเครื่องบินมากมาย ซึ่งที่มีความโดดเด่นมากที่สุดครั้งหนึ่งนั้นก็คือ กับเครื่องบินซูเปอร์โซนิคอย่างเช่นคองคอร์ดอันโด่งดัง โดยถือเป็นเครื่องบินที่มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากมาย ทำให้เครื่องบินคองคอร์ดได้รับความสนใจเป็นอย่างมากสำหรับผู้คนในยุคนั้น
โดยในปี 1930 BREGUET ได้มีการผลิตนาฬิกาข้อมือกลไกโครโนกราฟเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังสงครามโลก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแฟชั่นนาฬิกาข้อมือ พร้อมกลไกโครโนกราฟ ซึ่งยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสำหรับนักบินแล้ว เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าและจำเป็นยิ่ง เมื่อต้องปฏิบัติภารกิจอยู่บนเครื่อง จึงมีการใช้หลักการโครโนกราฟสำรองขึ้นอีกหนึ่งชุด เพื่อความปลอดภัยนอกจากจะมีโครโนกราฟที่อยู่บนแผงหน้าปัดแล้ว ดังนั้นนักบินในยุคนั้นจึงควรต้องมีนาฬิกาฟังก์ชั่นโครโนกราฟอีกหนึ่งชุด ซึ่งไม่ใช่จะเป็นกลไกโครโนกราฟอะไรก็ได้ แต่ต้องเป็นกลไกโครโนกราฟที่อยู่บนข้อมือของนักบินเอง โดยหากนาฬิกาชุดหนึ่งชุดใดเกิดใช้การไม่ได้ อีกชุดที่เหลือก็จะสามารถทำหน้าที่ทดแทนได้ ซึ่งคือประเด็นหลักของอุปกรณ์และนาฬิกาที่ BREGUET เป็นผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับนาฬิการุ่นระดับตำนานอย่าง Type XX ที่ทั้งมากด้วยประสิทธิภาพและมีชื่อเสียงในนานาประเทศ จากประวัติการใช้งานในด้านต่างๆ มากมาย
กรุณาติดตามตอนต่อไปในครั้งหน้า