Novelties from Watches & Wonders 2023 and watch fair in Geneva 2023, Part V
บูธของ ULYSSE NARDIN น่าจะถือเป็นบูธที่มีผู้คนหลั่งไหลไปถ่ายรูปกันมากที่สุด กับชุดกลไกของ Freak ด้านล่างและกระจกเงาขนาดใหญ่บนเพดาน ที่ถ่ายทอดภาพของทั้งบูธรวมทั้งชุดกลไกได้อย่างสวยงาม โดยมีนี้มี Freak One เป็นนาฬิกาเรือนไฮไลท์ ในตัวเรือนขนาด 44 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไกไขลานอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ UN-240 ที่ความถี่ 21,600 รอบต่อชั่วโมง ให้พลังสำรองลานนาน 72 ชั่วโมง ในตัวเรือนไทเทเนียมดีแอลซีสีดำ ประกอบเข้ากับขอบเบเซิลพิ๊งค์โกลด์ พร้อมคอนเซ็ปท์เดิมของนาฬิการุ่นนี้อย่างครบถ้วน
RESSENCE แนะนำนาฬิการุ่น Type 8 S ในหน้าปัดสีเขียวอ่อน (Sage Green) พร้อมความเบาของตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 42.9 มิลลิเมตร เหมือนนาฬิการุ่น Types 8 S หน้าปัดสีน้ำเงิน (Cobalt Blue) ที่นำเสนอออกมาก่อนหน้านี้ โดยนาฬิการุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่มีราคาเริ่มต้นสำหรับแบรนด์ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอนาฬิการุ่น Type 1 Round ที่เป็นการต่อยอดจากนาฬิการุ่นดั้งเดิมของแบรนด์นั่นก็คือ Type 1 ซึ่งนาฬิการุ่นนี้ยังคงความมินิมัลตามสไตล์ของแบรนด์ทุกประการ
ส่วน VACHERON CONSTANTIN นำเสนอนาฬิการุ่น Overseas Moonphase Retrograde Date พร้อมกันกับ Overseas Self-Winding ในขนาด 35 มิลลิเมตรแบบประดับเพชรที่ขอบตัวเรือน โดยมีทั้งตัวเรือนที่ผลิตจากพิ๊งค์โกลด์หรือสตีล นอกจากนี้ก็ยังมีนาฬิการุ่น Patrimony Day-Date Retrograde ใหม่ในหน้าปัดโทนสีแซลมอน และนาฬิกาในแบบไฮคอมพลิเคชั่นรุ่นTraditionnelle Tourbillion Retrograde Openfaceที่รวมกลไกตูร์บิยองเข้ากับเข็มแสดงวันที่ในแบบเรโทรเกรดกลางหน้าปัดด้านบน
สำหรับ PIAGET นำเสนอนาฬิการุ่น Polo Perpetual Calendar Ultra-Thin หน้าปัดสีเขียวที่ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติ เพอเพทชวลคาเลนดาร์แบบอุลตร้าธินในตัวเรือนสตีล หรือในตัวเรือนพิ๊งค์โกลด์พร้อมสายแบบยาง นอกจากนี้ยังมีในแบบตัวเรือนประดับแซฟไฟร์บริลเลี่ยนคัทจำนวน 56 เม็ด น้ำหนักประมาณ 1.88 กะรัต พร้อมหน้าปัดออปซิเดียนสีน้ำเงิน โดยยังคงความสะดวกสบายสำหรับนาฬิการุ่นนี้ ด้วยระบบอินเตอร์เชนเอเบิลของสายที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง
และ CZAPEK&CIE. กับนาฬิการุ่นดัง Antarctique ที่ปีนี้นำเสนอนาฬิการุ่นต่อยอด Titanium “Dark Sector” อย่างต่อเนื่อง กับจำนวนการผลิตแบบจำกัดไม่เกิน 100 เรือนต่อปี นอกจากนี้ก็ยังมีการนำเสนอนาฬิการุ่น Antarctique S ทั้งในแบบหน้าปัดมุกประดับเพชรที่ขอบหน้าปัดและตัวเรือน โดยมีให้เลือกทั้งมุกสีเทาและมุกสีขาว พร้อมกันกับหน้าปัดสีชมพู (Sashiko Lotus Pink) กับลวดลายอันงดงามบนหน้าปัด เช่นเดียวกันกันกับหน้าปัดสีฟ้า (Sashiko Azur Dial) ที่มีลวดลายลักษณะเดียวกัน
กับ BAUME&MERCIER ที่มีการนำเสนอนาฬิการุ่น Riviera นาฬิกาสไตล์สปอร์ตของแบรนด์ในขนาด 39 มิลลิเมตรกับรุ่น Riviera 10714 ที่มีหน้าปัดโปร่งใสสีน้ำเงิน นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอนาฬิการุ่น Riviera 10716 พร้อมกลไก Baumaticพร้อมขอบเบเซิลแถบสีน้ำเงินอโนไดซ์และหน้าปัดโปร่งใสสีน้ำเงินเช่นกัน พร้อมกันนี้ยังมีนาฬิการุ่น Riviera 10658 ฟังก์ชั่นจีเอ็มทีเข็มสีแดง ตัวเรือนและสายสตีลแบบอินทิเกรด และนาฬิการุ่น Hampton 10732 ตัวเรือนทรงคลาสสิคในขนาด 43 x 27 มิลลิเมตร
สุดท้ายกับ JAEGER-LeCOULTRE ที่มีการนำเสนอนาฬิกาหลากหลายรุ่นทั้ง Reverso Tribute Duoface Tourbillion กับกลไกตูร์บิยองอันสวยงาม, ReversoTribuite Small Seconds ตัวเรือนพิ๊งค์โกลด์กับหน้าปัดสีดำ ที่เข้าร่วมกับนาฬิกาแบบอื่นๆ ที่มีการนำเสนอมาก่อนหน้านี้, Reverso One Precious Colours นาฬิกาที่แสดงให้เห็นงานด้านศิลปะบนตัวเรือนของนาฬิการุ่นนี้และ Reverso Tribute Chronograph ที่เป็นการนำเสนอฟังก์ชั่นจับเวลาในตัวเรือน Reverso อีกครั้งกับกลไกอินเฮ้าส์ชุดใหม่คาลิเบอร์ 860