HERMES ต่อยอดนาฬิการุ่น H08 ที่ประสบความสำเร็จในภาพลักษณ์ความเป็นนาฬิกาสปอร์ต ด้วยตัวเรือนแบบคาร์บอนสีดำและสีสันที่เพิ่มเติมทั้งโทนสีเขียว เหลือง ส้ม และน้ำเงิน พร้อมความเหนือชั้นยิ่งขึ้นกับนาฬิการุ่น H08 ในแบบฟังก์ชั่นโครโนกราฟโมโนพุชเชอร์ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอนาฬิการุ่น Arceau Petite Lune ที่โดดเด่นด้วยชิ้นงานมุกขนาดใหญ่ และหินมีค่าประกอบกันบนหน้าปัด โดยมีฟังก์ชั่นแสดงมูนเฟสอันสวยงาม ลอยเด่นอยู่กึ่งกลางหน้าปัดบริเวณ 10 และ 11 นาฬิกา
FREDERIQUE CONSTANT เพิ่มทางเลือกให้กับนาฬิการุ่น Manufacture Classic Tourbillion ด้วยตัวเรือนพิ๊งค์โกลด์หน้าปัดสีเทาดำ เนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปีของแบรนด์ พร้อมกับนาฬิการุ่น Manufacture Highlife Worldtimer หน้าปัดสีชอคโกแลตทั้งในตัวเรือนแบบสตีล และตัวเรือนแบบพิ๊งค์โกลด์และนาฬิการุ่น Highlife Ladies Automatic Sparkling กับการประดับเพชรที่ขอบตัวเรือนและมาร์กเกอร์โดยนาฬิการุ่น Highlife ทั้งหมดยังคงความพิเศษของสายนาฬิกาที่มีให้สับเปลี่ยนได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
ส่วน Alpiner Extreme ใหม่ล่าสุดจาก ALPINAเป็นการนำนาฬิการุ่นที่เคยนำเสนอ มาปรับปรุงใหม่พร้อมเพิ่มทางเลือกสายแบบสตีลอินทิเกรดเข้ากับตัวเรือน โดยยังคงการแสดงเวลาแบบเรคกูเลเตอร์เอาไว้ พร้อมลวดลายภูเขาบนหน้าปัด ผนึกขอบตัวเรือนด้วยสกรูว์ที่มีร่องสำหรับขัน ในรูปลักษณ์สามเหลี่ยมตามโลโก้ของแบรนด์ กับบ่าเม็ดมะยมและเม็ดมะยมขนาดใหญ่ที่ผนวกร่องยาง ไว้ตรงกลางเพื่อให้สามารถจับได้อย่างถนัด ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลเบอร์ AL-650 ผลิตแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น 888 เรือนทั่วโลก
ในขณะที่ SPEAKE-MARIN มีการนำเสนอนาฬิการุ่นใหม่ Ripples Date ที่เป็นการต่อยอดจากนาฬิการุ่น Ripples เดิม โดยมีการเพิ่มช่องวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา มาพร้อมกับหน้าปัดสีดำพร้อมลายคลื่นบนหน้าปัดตามสไตล์ของนาฬิการุ่นนี้ ซึ่งยังคงสไตล์สปอร์ตสมบูรณ์แบบด้วยสายสตีลแบบอินทิเกรดเช่นเดิม ในขณะที่ในคอลเลคชั่น One&Two มีการเพิ่มเติมซีรี่ส์ Academic Black Tie เข้าสู่คอลเลคชั่น ที่โดดเด่นจากการใช้แท่งซุปเปอร์-ลูมิโนว่าประกบเข้ากับหน้าปัด เพื่อให้เกิดแสงสว่างยามมืดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และ ARNOLD&SONS แนะนำ Globetrotter Platinum นาฬิกาที่มีหน้าปัดแปลกตากับลูกโลกขนาดใหญ่กลางหน้าปัดที่ผลิตจากทองคำ แสดงเวลาแบบ 24 ชั่วโมง พร้อมพื้นหน้าปัดด้านล่างผลิตจากมุกสีน้ำเงิน และบริจด์ขนาดใหญ่ที่ผลิตจากทองคำพาดกลางหน้าปัด บนตัวเรือนแพลทตินัมอันล้ำค่า ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น 28 เรือน นอกจากนี้ยังมีนาฬิการุ่น Nebula 41.5 Gold II ในตัวเรือนเรดโกลด์ขนาด 41.5 มิลลิเมตรกับการจัดวางชุดกลไกได้อย่างสวยงาม ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นจำนวน 88 เรือน
สำหรับ ANGELUS แนะนำ Chronographe Medical x Massena Lab ที่เป็นการนำนาฬิกาสำหรับนายแพทย์ในอดีตกลับมาตีความใหม่ พร้อมรูปแบบหน้าปัดในสไตล์ดั้งเดิม และทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์โครโนกราฟคาลิเบอร์ 5000 ที่เป็นฟังก์ชั่นโครโนกราฟแบบโมโนพุชเชอร์ ส่วนนาฬิการุ่น Chronodate ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว มีการต่อยอดสู่ ChronodateTitatnium Green พร้อมสายที่ผลิตจากไทเทเนียมเช่นเดียวกับตัวเรือน เพื่อทำให้นาฬิการุ่นนี้กลายเป็นนาฬิกาสปอร์ตได้อย่างเต็มตัว
PARMIGIANI Fleurier นำเสนอนาฬิการุ่น Tonda PF อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ GMT Rattrapanteในตัวเรือนพิ๊งค์โกลด์, Chronograph Rattrapanteในตัวเรือนพิ๊งค์โกลด์, Flying Tourbillion ในตัวเรือนแพลทตินัมกับหน้าปัดสีน้ำเงิน, Micro Rotor ในตัวเรือนแพลทตินัมกับหน้าปัดแพลทตินัม, พร้อมกับนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุด Tonda PF Minute Rattrapante ที่ถือเป็นครั้งแรกของการใช้ฟังก์ชั่นนี้กับนาฬิกา นอกจากนี้ยังมี Tonda PF Chinese Calendar Steel Platinum ที่นำเสนอไปช่วงปลายปีที่แล้วมาจัดแสดงพร้อมกันอีกด้วย
MAURICE LACROIX จัดงานแสดงที่โรงแรม Eastwest เพื่อเปิดตัวนาฬิการุ่น AIKON Quartz ใหม่ทั้งในขนาดตัวเรือน 40 มิลลิเมตรหน้าปัดสีน้ำเงินตัวเรือนสตีล และแบบทูโทนหน้าปัดสีเงิน พร้อมกับในขนาด 35 มิลลิเมตรหน้าปัดสีขาวประดับเพชรบนมาร์กเกอร์ และแบบหน้าปัดสีดำประดับเพชรบนมาร์กเกอร์ ซึ่งถือเป็นการเติมเต็มนาฬิกาในคอลเลคชั่นนี้ให้ครบถ้วนยิ่งขึ้น จากการที่นาฬิการุ่น AIKON Quartz นี้ถือเป็นจุดกำเนิดของนาฬิการุ่น AIKON ทั้งหมดในปัจจุบัน